เปิดภาพหลายประเทศฉลองวันขึ้นปีใหม่แบบ new normal

วันนี้ ( 1ม.ค. 64 )บรรยากาศการฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในประเทศและดินแดนต่าง ๆ ทั่วโลก แบบวิถีใหม่ หรือ new normal กัน เริ่มต้นกันที่ประชาชนในเมืองอู๋ฮั่น ประเทศจีน ยังคงจัดงานเคานท์ดาวน์สู่ปี 2021/2564 ในเมืองที่เป็นต้นตอการระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อหนึ่งปีก่อน

เซียง กังผิง ซึ่งทำงานภาคการก่อสร้าง กล่าวว่า เขาหวังว่า เมืองอู๋ฮั่นน่าจะได้รับสิ่งดี ๆ เข้ามา และว่าเราชาวเมืองอู๋ฮั่นสามารถใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างมั่นคงและสงบสุขมากขึ้น ส่วนเฉิน เมิงฟาน นักศึกษามหาวิทยาลัยกล่าวถึงการแสดงออกถึงความมีน้ำจิตน้ำใจในช่วงเกิดไวรัสระบาดรุนแรง

ทั้งนี้ ไวรัสโควิด-19 เริ่มระบาดในเมืองอู๋ฮั่นเมื่อหนึ่งปีก่อน และตั้งแต่นั้นมาก็ระบาดไปทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 83 ล้านราย และเสียชีวิตแล้วมากกว่า 1.8 ล้านราย

ที่ฮ่องกง ประชาชนหลายร้อยคนฉลองเทศกาลปีใหม่ในวันศุกร์ที่บริเวณด้านหน้าอ่าววิกตอเรียในย่านจิมซาจุ่ย แหล่งธุรกิจการค้าที่สำคัญ แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับให้ประชาชนใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มข้นก็ตาม ปกติแล้วบริเวณอ่าวแห่งนี้ ทางการฮ่องกงจะใช้เป็นสถานที่จัดงานฉลองปีใหม่ แต่ในปีนี้ ถูกยกเลิกไป เพราะรัฐบาลกำหนดมาตรการหลายอย่างเพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังปิดบาร์และร้านอาหารทั้งหมดในเวลาตั้งแต่ 18.00 น. 

กระนั้นก็ตาม แม้ว่าทางการฮ่องกงจะกำหนดใช้มาตรการต่าง ๆ แต่ก็ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งฝ่าอากาศหนาวเย็น ออกมาเซลฟีในย่านจิมซาจุ่ย ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอ่าววิตอเรียได้หยานกี ชาน ชาวฮ่องกงวัย 18 ปี กล่าวว่า เขาคิดว่าปี 2020 เป็นปีที่น่าเบื่อเอามาก ๆ 

ขณะที่เขาสอบเสร็จแล้ว แทนที่จะได้ออกไปเที่ยว แต่กลับต้องพักอยู่ที่บ้านเท่านั้น น่าผิดหวังมาก ส่วนสาวน้อยมัธยมปลายวัย 17 ปี เตอเรนซ์ โต สะท้อนความรู้สึกของเธอ ว่า ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ไม่สามารถเห็นหน้ากันและกันได้เลย ต้องจำกัดการรวมกลุ่ม อย่างมากสุด 2 คน ไม่มีการเคานท์ดาวน์และแสดงดอกไม้ไฟให้ดูในปีนี้ เศร้าจริง ๆ

ปกติแล้ว บริเวณด้านหน้าอ่าววิกตอเรีย จะเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่ประชาชนสามารถมานั่งดื่ม รับประทานของว่าง พักผ่อนกับเพื่อนได้ แต่ในปีนี้ ประชาชนได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มในบริเวณนี้ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงคอยทำหน้าที่ห้ามปรามประชาชนที่รวมกลุ่มกันเกิน 2 คนตามมาตรการ และยังบังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะด้วย   

ในกรุงไทเป เมืองหลวงของเกาะไต้หวัน ก็มีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2021ด้วยการจัดแสดงดอกไม้ไฟที่สวยงามตระการตา จากอาคาร “ ไทเป 101” ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน แต่ฝูงชนก็ไม่ได้หนาแน่นอย่างเช่นปกติทุกปี เนื่องจากมีการลดจำนวนเพราะมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไต้หวันลดขนาดการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเรียกร้องให้ประชาชนเฝ้าดูการฉลองที่บ้าน หลังจากไต้หวันเพิ่งพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในอังกฤษ รายแรกไปเมื่อไม่กี่วันก่อน 

รัฐบาลไทเป แถลงในวันพฤหัสบดีว่า ประชาชนสามารถเข้าร่วมฉลองที่ตึก 101 ได้ แต่จำกัดจำนวนไว้เพียง 40,000 คนเท่านั้น ซึ่งเหลือครึ่งหนึ่งจากปีก่อน อีกทั้งผู้เข้าร่วมงานต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัวและสวมหน้ากากอนามัยด้วย ส่วนในเมืองใหญ่อื่น ๆ ของไต้หวัน ต่างยกเลิการจัดแสดงดอกไม้ไฟ

ไต้หวันควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดได้อย่างรวดเร็ว และใช้มาตรกาป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมทั้งการกักตัวทุกคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ มีผู้ติดเชื้อสะสม 800 ราย และเสียชีวิต 7 ราย 

ในเกาหลีเหนือ ฝูงชนแออัดกันอยู่ที่จัตุรัสคิม อิล ซุง ในกรุงเปียงยางในคืนวันพฤหัสบดี เพื่อชมคอนเสิร์ต และการแสดงดอกไม้ไฟ ฉลองปีใหม่ ท่ามกลางมาตรการคุมเข้มป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล ถ่ายภาพให้เห็นผู้เข้าร่วมงานที่สวมหน้ากากอนามัย แต่ก็ยืนติดๆ กัน ขณะที่พวกเขาโบกไฟเรืองแสงและลูกโป่งในจัตุรัสใหญ่แห่งนี้ 

ส่วนนักแสดง ซึ่งไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัย ร้องเพลงและเต้นบนเวที ที่มีป้ายตัวเลข “2021” ขนาดใหญ่สีสันสดใส นักแสดงก็อยู่ในชุดฮันบก ชุดพื้นเมืองของเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือแถลงว่า ไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะมีการตรวจหาเชื้อในหมู่ประชาชนหลายพันคน และรัฐบาลก็กำหนดมาตรการล็อกดาวน์พรมแดนเกือบทั้งหมด และใช้มาตรการเข้มงวดอื่นๆ เพื่อป้องกันการระบาด แต่เจ้าหน้าที่ในเกาหลีใต้และสหรัฐ สงสัยเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ว่าเกาหลีเหนือไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด

ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเอดี นักท่องเที่ยวและประชาชนยังออกไปรวมตัวกันที่ตึกระฟ้า “เบิร์จคาลิฟา” ในใจกลางนครดูไบ ในคืนวันพฤหัสบดี เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2021 พร้อมกับเป็นการส่งท้ายปี 2020 ซึ่งเป็นปีแห่งความยากลำบากและไร้ความแน่นอน โดยสถานที่ท่องเที่ยวของภูมิภาคแห่งนี้ จัดงานฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยการแสดงดอกไม้ไฟปกติและแสดงแสงเลเซอร์ที่ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม ทางการยูเออีก็กำหนดพื้นที่เป็นตารางสี่เหลี่ยมไว้บนลานกว้างเพื่อให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานเว้นระยะห่างทางสังคม ท่ามกลางความพยายามในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ดูไบยังคงเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว แม้ว่ากำหนดให้นักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ ที่เดินทางเข้าต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นลบเมื่อเดินทางถึง และทำการตรวจซ้ำอีกที่สนามบิน และกักตัวจนกว่าจะได้รับผลการตรวจว่าเป็นลบ 

ด้านซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ก็แสดงดอกไม้ไฟหลากสีสันพวยพุ่งสู่ท้องฟ้าเหนืออาคารซิดนีย์ โอเปรา เฮ้าส์ อย่างเช่นที่เคยจัดทุกปี แต่ในพื้นที่ด้านล่างไม่ต่างจากเมืองผี เพราะแทบไร้ผู้คน เขตเมืองถูกจำกัดจำนวนผู้คนที่เข้าใช้บริการในร้านอาหารและการจองที่พักในโรงแรม ท่ามกลางความพยายามควบคุมการระบาดของไวรัส การแสดงดอกไม้ไฟที่ปรับลดขนาดลง เริ่มต้นจากเรือที่ลอยลำอยู่รอบอ่าวซิดนีย์ และซิดนีย์ โอเปรา เฮ้าส์และสะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ ขณะที่ ทางการรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 10 ราย

กลุ่มก้อนใหม่ที่ติดเชื้อโควิดในซิดนีย์ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ในพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันตก เพิ่มขึ้นอีก 3 รายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่มีการตรวจพบในหลายพื้นที่ชายฝั่งทะเลตอนเหนือในช่วงกลางเดือนธันวาคม ขณะนี้ รวมกันเป็นเกือบ 150 ราย

ออสเตรเลียรายงานมีผู้ติดเชื้อโควิดกว่า 28,400 ราย และเสียชีวิต 909 ราย ตั้งแต่เริ่มต้นการระบาด   

ขณะที่ ชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศแรก ๆ ในโลกที่ได้ฉลองการมาถึงของปีใหม่ก่อน ก็มีการแสดงดอกไม้ไฟ ที่ปะทุขึ้นจากอาคาร สกาย ทาวเวอร์ (Sky Tower) สูง 328 เมตรในเมืองโอ๊คแลนด์ในวันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 ประชาชนบนชายหาดก็เฝ้าชมการแสดงดอกไม้ไฟหลากสีสวยงามและการแสดงแสงเลเซอร์ขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนืออ่าวของเมือง ประมาณ 5 นาที 

ปิดท้ายกันที่ประเทศเวียดนาม ประเทศในอาเซียน ประชาชนหลายพันคนไปรวมตัวกันในกรุงฮานอยในวันพฤหัสบดี เพื่อต้อนรับปีใหม่ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด โดยเมืองหลวงเวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองทั่วโลกที่อนุญาตให้ฝูงชนจำนวนมากมารวมตัวกันฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในปีนี้ ขณะโลกต่อสู้กับไวรัสโควิด

เวียดนาม ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิดเพียง 1,456 ราย และเสียชีวิต 35 ราย ไม่ได้มีมาตรการอะไรเพิ่มเติมสำหรับปีใหม่ แต่ก็ยังมีการบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ แต่การแสดงพลุไฟและงานรื่นเริงในเมืองใหญ่อื่นๆ ก็เดินหน้าต่อไปโดยไม่ได้มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม ขณะเดียวกัน พรมแดนของประเทศก็ยังปิดและคนที่เดินทางเข้าประเทศก็ต้องกักตัว 14 วัน

เวียดนามคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2564 นี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 0.5 ถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าการระบาดของไวรัสโควิด และสภาพอากาศเลวร้ายจะเป็นอุปสรรคใหญ่ก็ตาม สำหรับเศรษฐกิจเวียดนามในปีนี้ ลดลงมาเหลือ 2.91เปอร์เซ็นต์ ต่ำสุดในรอบอย่างน้อย 30 ปี เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด, ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

อัตราการเติบโต้ของเศรษฐกิจเวียดนาม ถือว่าเร็วที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และรัฐบาลตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ยในแต่ละปีอยู่ที่ 6.5-7.0 เปอร์เซ็นต์ในอีก 5 ปีข้างหน้า

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline