GPSCเดินหน้าอัพกำลังผลิต ปักหมุดไทย-อินเดีย-ไต้หวัน

#GPSC #ทันหุ้น – GPSC เดินหน้าขยายกลังการผลิต ปักหมุดลงทุนในไทย อินเดีย และไต้หวัน ส่วนไตรมาส 3/2567 ต้องติดตามสถานการณ์ค่าไฟฟ้า Ft คงที่ ต้นทุนก๊าซขึ้นเล็กน้อย พร้อมลุยประมูลโครงการพลังงานทดแทนขนาด 3,600 เมกะวัตต์ และโครงการ Direct PPA ธุรกิจแบตเตอรี มองโอกาสเติบโต ด้านโบรกมอง การขยายโครงการพลังงานหมุนเวียน มีโอกาสมากทั้งในไทยและ อินเดีย อัพฐานกำลังผลิตแกร่ง

นางสาวสุกิตตี ไชยรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่มปตท. เปิดเผยว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 คาดว่ายังต้องรอดูสถานการณ์ เนื่องจากอัตราค่าไฟฟ้าแปรผัน (Ft) ยังคงที่ ในขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงการไซยะบุรีมีผลประกอบการที่ดีขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น จะมาช่วยหนุน ทั้งนี้ คาดว่าผลประกอบการอาจจะดีขึ้นในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ โดยกลยุทธ์ของบริษัทให้ความสำคัญทั้งในส่วนของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือ PDP และ Non-PDP รวมถึงเน้นเรื่องของ Private PPA โดยมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการทั้ง Private PPA และ Direct PPA การศึกษาเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ ประกอบด้วย เพื่อเสริมกลยุทธ์องค์กร และเป็นผู้นำในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Decarbonization) อีกด้วย

*ลุยขยายกำลังผลิต

บริษัท GPSC ยังคงเดินหน้าผลักดันเป้าหมายการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าไปถึงระดับ 15 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2569  คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยการลงทุนหลักจะเน้นที่โครงการ ERU มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท รวมถึงการลงทุนในโครงการที่ประเทศอินเดียด้วย สำหรับกลยุทธ์การลงทุน บริษัทมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในประเทศไทย อินเดีย และไต้หวัน รวมถึงการต่อยอดธุรกิจในจีน เพื่อให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานทดแทนขนาด 3,600 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย คาดว่าการประมูลจะเกิดขึ้นในไตรมาส 4/2567 สอดคล้องกับแผนพลังงานแห่งชาติปี 2024

พร้อมกันนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจแบตเตอรี โดยมีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการ NV Gotion ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ (GW) เพื่อซัพพลายให้กับตลาดคอมเมอร์เชียล, ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), และระบบจัดเก็บพลังงาน (ESS) ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องในธุรกิจแบตเตอรี และมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 4 GW ในอนาคต นอกจากนี้ การขยายธุรกิจดังกล่าวยังต้องสอดคล้องกับนโยบายของประเทศในการผลักดันพลังงานสะอาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่ยั่งยืน

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุถึง GPSC ว่า โอกาสการขยายพลังงานหมุนเวียนยังมีอีกมาก โดย GPSC เน้นย้ำถึงการเป็นแกนหลักของกลุ่มปตท.ในบทบาทการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการขยายโครงการพลังงานหมุนเวียนซึ่งมีโอกาสอีกมากทั้งในไทย และ อินเดีย ในไทยกำลังจะมี Direct PPA 2,000 MW ที่ผู้ผลิตสามารถเชื่อมเข้าระบบสายส่งไฟฟ้า (ThirdParty Access) เพื่อขายไฟตรงให้กับลูกค้าได้ โดย GPSC อยู่ระหว่างเจรจากับกล่มุ Data Center

*โอกาสเติบโตอีกมาก

รวมถึงกลุ่มลูกค้าใน บริเวณมาบตาพุด ซึ่งมีเครือข่ายสายส่งอยู่แล้วและกำลังจะเปิดคัดเลือกพลังงานหมุนเวียนรอบ 2 อีก3,600 MW ปลายปีนี้และอีกกว่า 30,000 MW ระยะยาวภายใต้ PDPใหม่ในอินเดีย Avaadaซึ่งถือหุ้น 42.93% มีกำลังผลิตไฟฟ้าแล้ว 16,916 MW (7,262 MWe) เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้ง ไว้ 11,000 MW ไปแล้ว แบ่งเป็น COD แล้ว 4,564 MW (1,959 MWe) อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2,069 MW (888 MWe) และอยู่ระหว่างพัฒนา 10,283 MW (4,414 MWe) โดย Avaada มีแผนจัดหาเงินทุน ทั้งผ่านการหาพาร์ตเนอร์ใหม่มาร่วมทุน และการทำ IPO และด้วยมีการ Refinance เงินกู้เงิน 1.8 หมื่นล้านบาท จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ย 50-60 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต