ย้อนกลับไปในปี 1988 Dragon Quest III ได้ถือกำเนิดขึ้นบนเครื่อง Famicom และกลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในวงการเกม RPG ด้วยเรื่องราวสุดคลาสสิก ตัวละครอันมีเสน่ห์ และระบบการเล่นที่เรียบง่ายแต่สนุกสนาน Dragon Quest III จึงกลายเป็นเกมในดวงใจของใครหลายๆ คน และในปี 2024 นี้ ตำนานบทใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งกับ Dragon Quest III HD-2D Remake! การกลับมาของเกม RPG สุดคลาสสิกในรูปแบบ HD-2D อันงดงาม ที่จะพาผู้เล่นทุกคนหวนคืนสู่โลกแห่งการผจญภัยที่คุ้นเคย ในรีวิวฉบับนี้ ผมจะขอพาเพื่อนๆ ดำดิ่งสู่โลกของ Dragon Quest III HD-2D Remake ไปเจาะลึกทุกแง่มุมของเกม พร้อมกับแบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกที่ได้สัมผัสตลอดการเดินทาง โลกแห่ง Aliahan ที่งดงามราวกับภาพวาด สิ่งแรกที่ต้องชื่นชมอย่างมากคือกราฟิกแบบ HD-2D ที่งดงามราวกับภาพวาดในนิทาน! ทีมพัฒนาได้นำเสน่ห์ของพิกเซลอาร์ตแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว รายละเอียดของฉากต่างๆ ถูกปรับปรุงให้มีความละเอียดคมชัด เอฟเฟกต์แสงเงาแบบ 3D ทำให้โลกของเกมดูมีมิติและมีชีวิตชีวามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้าที่พลิ้วไหวไปตามสายลม แสงแดดที่ส่องกระทบผิวน้ำ หรือเงาของตัวละครที่ทอดยาวไปตามพื้น ล้วนแล้วแต่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างประณีตบรรจง ผมประทับใจกับการออกแบบฉากในเมืองต่างๆ เป็นพิเศษ แต่ละเมืองล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน อย่างเช่น เมือง Romaria ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันอันยิ่งใหญ่ เมือง Isis ที่ลึกลับและน่าค้นหา หรือเมือง Portoga เมืองท่าที่คึกคักไปด้วยผู้คนและสินค้าจากทั่วทุกสารทิศ การได้เดินสำรวจเมืองต่างๆ พูดคุยกับชาวเมือง และทำภารกิจเสริม เป็นประสบการณ์ที่สนุกและเพลิดเพลินมากๆ ครับ เรื่องราวการผจญภัยของลูกแห่งโลโต Dragon Quest III HD-2D Remake ยังคงรักษาแก่นแท้ของเรื่องราวต้นฉบับไว้ คือการผจญภัยของ "ลูกแห่งโลโต" ผู้มีภารกิจในการกอบกู้โลกจากจอมมารบารามอส แม้จะเป็นพล็อตเรื่องที่คุ้นเคย แต่การเล่าเรื่องผ่านบทสนทนาที่น่าติดตาม บวกกับการแสดงสีหน้าท่าทางของตัวละครที่ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ทำให้ผมรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยากเลย โดยเฉพาะฉากดราม่าต่างๆ เช่น ฉากการจากลาของ Ortega หรือฉากการเสียสละของ "ใครบางคน" (ขออุบไว้เป็นความลับนะครับ) ล้วนแล้วแต่เป็นฉากที่บีบหัวใจและทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก สิ่งที่ผมชอบมากในภาคนี้คือการเล่าเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครต่างๆ ทำให้เราเข้าใจถึงแรงจูงใจ ความฝัน และความขัดแย้งในใจของพวกเขามากขึ้น ตัวอย่างเช่น "คาริน่า" โจรสลัดสาวผู้มีความฝันอยากเป็นนักร้อง หรือ "บิชอป ลาซารัส" นักบวชผู้มีอดีตอันดำมืด การได้รู้จักตัวละครเหล่านี้มากขึ้น ทำให้ผมผูกพันกับพวกเขามากขึ้น และรู้สึกอินไปกับการผจญภัยร่วมกันมากขึ้นด้วย ระบบการต่อสู้ที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก ระบบการต่อสู้แบบเทิร์นเบสยังคงเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Dragon Quest เช่นเคย ภาคนี้มีการปรับปรุงให้ลื่นไหลขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงความเรียบง่าย เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เราสามารถเลือกคำสั่งโจมตี ใช้เวทมนตร์ ใช้ไอเทม หรือป้องกัน ได้อย่างอิสระ ความสนุกของการต่อสู้ใน Dragon Quest คือการวางแผนและเลือกใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมกับศัตรูแต่ละประเภท เช่น การใช้เวทมนตร์สายฟ้าโจมตีศัตรูประเภทน้ำ หรือการใช้เวทมนตร์บรรเทาอาการผิดปกติ สิ่งที่ผมชอบมากในภาคนี้คือระบบ "บุคลิก" ที่ทำให้เราสามารถปรับแต่ง AI ของเพื่อนร่วมทีมได้ อย่างเช่น ตั้งให้เน้นโจมตี เน้นรักษา เน้นใช้เวทมนตร์ หรือเน้นป้องกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายในการเล่นได้มาก ผมมักจะปรับแต่ง AI ของเพื่อนร่วมทีมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น ในช่วงต้นเกมที่ตัวละครยังอ่อนแอ ผมจะตั้งให้เพื่อนร่วมทีมเน้นป้องกัน เพื่อลดความเสียหายจากศัตรู หรือในช่วงท้ายเกมที่ตัวละครแข็งแกร่งขึ้น ผมจะตั้งให้เพื่อนร่วมทีมเน้นโจมตี เพื่อจัดการศัตรูให้เร็วที่สุด เสียงเพลงแห่งความทรงจำ เพลงประกอบของ Dragon Quest III HD-2D Remake คือที่สุดของที่สุด! ทุกเพลงล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกของโคอิจิ ซูกิยามะ ที่ยังคงความไพเราะและทรงพลัง ไม่ว่าจะเป็นเพลง Overworld ที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย เพลงต่อสู้ ที่เร้าใจและตื่นเต้น หรือเพลงบรรเลงเศร้าๆ ที่สะกดอารมณ์และบีบหัวใจ ล้วนแล้วแต่เข้ากับบรรยากาศของเกมได้อย่างลงตัว ผมชอบเปิดเพลงประกอบฟังคลอๆ ระหว่างเล่นเกมมากเลยครับ มันช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้อย่างมากจริงๆ โดยเฉพาะเพลง "Adventure" ที่เป็นเพลงธีมหลักของเกม ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ ผมจะรู้สึกตื่นเต้นและอยากออกไปผจญภัยในโลกกว้างทันที บทสรุปแห่งการเดินทาง Dragon Quest III HD-2D Remake เป็นเกม RPG ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ เป็นการนำเกมคลาสสิกกลับมาสร้างใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งกราฟิก เนื้อเรื่อง ระบบการเล่น และเพลงประกอบ ล้วนแล้วแต่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ผมใช้เวลาเล่นเกมนี้ไปหลายสิบชั่วโมง และรู้สึกสนุก ตื่นเต้น และประทับใจตลอดการเดินทาง ถ้าคุณเป็นแฟนเกม RPG หรืออยากสัมผัสกับตำนาน RPG ผมขอแนะนำ Dragon Quest III HD-2D Remake เลยครับ! รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน คะแนน: 9.8/10 เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !