นักรังสีเทคนิคอาจจะไม่ใช่อาชีพแรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อเวลาที่ต้องไปหาหมอจากกอาการเจ็บป่วย แต่นักรังสีเทคนิคก็มีหน้าที่และบทบาทที่สำคัญในการรักษาผู้ป่วยไม่น้อยไปกว่าหมอและพยาบาลเลย โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ยกตัวอย่างเช่น กระดูกหักจากอุบัติเหตุ เนื้องอก เลือดคั่งในอวัยวะภายใน รวมไปถึงมะเร็งต่าง ๆ อีกด้วย โดยในบทความนี้จะกล่าวถึงบทบาท หน้าที่ และความสำคัญของนักรังสีเทคนิคในกระบวนการรักษาผู้ป่วยหน้าที่ของนักรังสีเทคนิคจะเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยเทคนิคและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลภายในร่างกายของบริเวณที่ต้องตราจสอบ และนำมาวินิจฉัยร่วมกับแพทย์รังสีเพื่อหาต้นตอของปัญหาและดำเนินการรักษาผู้ป่วย โดยนักรังสีเทคนิคจะต้องถามข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยเพื่อพิจารณาความปลอดภัยของผู้ป่วยในการถ่ายภาพ และคอยจัดท่าทางของผู้ป่วยในการถ่ายภาพเพื่อให้ได้ภาพที่มีข้อมูลที่ต้องการชัดเจนที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะถ้าหากภาพนั้นมีข้อมูลไม่เพียงพอ ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการถ่ายภาพอีกครั้งซึ่งในบางกระบวนการจะมีการฉายรังสีซึ่งเป็นอันตรายกับร่างกายถ้าได้รับในปริมาณมากเครื่องมือที่นักรังสีเทคนิคใช้ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บว่าต้องการภาพในส่วนไหนและในลักษณะใด เครื่องมือที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงเป็นอันดับแรกคือเครื่องเอ็กซเรย์ (x-ray machine) เครื่องเอ็กซเรย์อาศัยความสามารถในการทะลุผ่านของรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่หนึ่งโดยจะฉายรังสีผ่านร่างกายของผู้ป่วยและดูผลจากแผ่นฟิล์มพลาสติก บริเวณที่ภาพถ่ายเป็นสีขาวคือส่วนของกระดูก สีดำคืออากาศ และสีเทาในโทนต่าง ๆ คือเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน เครื่องแมมโมแกรมเป็นเครื่องฉายรังสีสำหรับการตรวจมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะ โดยมีการใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเครื่องเอ็กซเรย์ทั่วไป แต่ได้ภาพที่มีความคมชัดมากกว่าและมีความละเอียดสูงกว่า และยังสามารถตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ไวกว่าการตรวจโดยการคลำและการอัลตร้าซาวด์ในกรณีที่จุดติดปูนในเต้านมยังมีขนาดเล็กมาก การตรวจมะเร็งในผู้หญิงควรเช็กตัวเองด้วยการคลำเต้านมเดือนละครั้ง ให้แพทย์ตรวจปีละครั้ง และในอายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจแมมโมแกรมปีละครั้งการทำ Computerized Tomography Scan (CT scan) เป็นการตรวจสอบความผิดปกติของร่างกายโดยการฉายรังสีไปในส่วนนั้นแล้วใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพฉาย 3 มิติของส่วนนั้นเพื่อนนามาวินิจฉัยความผิดปกติของร่างกาย โดยวิธีนี้จะได้ภาพที่มีความชัดมากกว่าการเอ็กซเรย์แบบทั่วไป เหมาะกับการตรวจสอบกระดูก และอาการบาดเจ็บภายใน เช่น การเกิดลิ่มเลือด การมีเลือดออกในอวัยวะภายในการสแกนผ่านการ Magnetic Resonance Imaging (MRI) มีความคล้ายคลึงกับการตรวจแบบ CT scan แต่จะมีจุดแตกต่างคือ MRI จะใช้เวลาตรวจนานกว่า ที่ 30 - 90 นาทีเทียบกับ CT scan ที่ใช้เวลาประมาณ 10 - 15 นาที แต่ MRI จะได้ภาพ 3 มิติที่มีความต่างระหว่างชั้นเนื้อเยื่อชัดเจน จึงมีความเหมาะสมในการตรวจสอบความผิดปกติในระยะแรก ๆ ที่มีจุดสังเกตน้อย และอาการผิดปกติของสมอง หัวใจและหลอดเลือด และความผิดปกติของหมอนรองกระดูกและไขสันหลังอีกด้วย แต่เนื่องจากการตรวจอาศัยหลักการของคลื่นแม่เหล็ก ผู้ป่วยที่เคยมีการผ่าตัดให้มีโลหะภายในหรือภายนอกร่างกายจะทำให้โลหะนั้นเคลื่อนตัวและอาจเกิดอันตรายได้อย่างที่ทราบกันดีว่ารังสีเอ็กซ์เมื่อได้รับในปริมาณมากจะทำให้เป็นอันตรายกับร่างกาย แต่คำถามที่ตามมาคือต้องได้รับรังสีเอ็กซ์มากขนาดไหนถึงจะเรียกว่าอันตราย American College of Radiology ได้ประมาณไว้ว่ามนุษย์ไม่ควรได้รับรังสีเอ็กซ์เกิน 100 millisieverts (mSv) ในตลอดช่วงชีวิต โดยการเอ็กซเรย์ช่วงอกคิดเป็นประมาณ 0.01 mSv ต่อครั้ง การเอ็กซเรย์กระดูกไขสันหลังคิดเป็นประมาณ 1.5 mSv ต่อครั้ง การเอ็กซเรย์ฟันคิดเป็นประมาณ 0.005 mSv ต่อครั้ง การทำ CT scan ช่วงอกคิดเป็นประมาณ 5.5 mSv ต่อครั้ง การทำ CT scan ทั้งตัวคิดเป็นประมาณ 10 mSv ต่อครั้งและทางฝั่งแพทย์เองก็มีวิธีป้องกันตัวเองจากรังสีเอ็กซ์เช่นกัน โดยในปัจจุบันมักมีการแบ่งห้องที่ทำการเอ็กซเรย์ผู้ป่วยกับแพทย์เอาไว้ คิดเป็นประมาณ 3 mSv ต่อปี แต่บางสถานการณ์ที่จำเป็นจะต้องอยู่ในห้องเดียวกันก็จะมีอุปกรณ์ป้องกันรังสี เช่น ชุดตะกั่ว ถุงมือ แว่นตา และหน้ากากป้องกันรังสี ไว้ด้วยทั้งนี้อาชีพนักรังสีเทคนิคยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและให้ความสำคัญมากนัก แม้จะมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าหมอเลยก็ตาม ทางผู้เขียนบทความหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังในอาชีพนักรังสีเทคนิคมากขึ้นเล็กน้อยก็ยังดี ขอขอบคุณภาพปกโดย Anna Shvets จาก pexelsขอขอบคุณภาพเครื่องเอ็กซเรย์โดย homebasemarketing, ภาพฟิล์มเอ็กซเรย์โดย oracast, ภาพเครื่องแมมโมแกรมโดย AlarconAudiovisual, ภาพเครื่อง CT scan โดย mufidpwt, และภาพเครื่อง MRI โดย jarmoluk จาก pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !