สำหรับภาพยนตร์ที่กำลังจะเตรียมเข้าฉาย ก็ต้องมีการประชาสัมพันธ์โปรโมทกันเป็นเรื่องธรรมดา ไหนจะเป็นการเผยโปสเตอร์หนัง ภาพกองถ่าย ไม่ว่าจะเป็นช่องทางโซเชียลทุกรูปแบบ อีกสิ่งที่ช่วยให้คนดูเลือกตัดสินใจไปดูหนังมากที่สุดคือ ตัวอย่างหนัง หรือ Trailer ที่จะฉายเรื่องราวเบื้องต้นออกมาให้ชมกัน แต่ว่าในสมัยใหม่การตัดตัวอย่างบางครั้งมันก็มาในรูปแบบของ Teaser ตัวอย่างครับ และคำถามมันก็เกิดขึ้นว่ามันแตกต่างกันตรงไหนล่ะ ?สำหรับความแตกต่างของมัน หากเป็นมุมมองของคนทั่วไปอาจจะไม่รู้สึกถึงความต่างเท่าไหร่ครับ เพราะมันก็คือตัวอย่างที่เปิดเผยเนื้อหาภาพยนตร์คร่าว ๆ แต่ความจริงแล้ว 2 คำนี้มีความต่างกันมาก แถมยังมีจุดประสงค์ที่ต่างกันอีกด้วยครับ หากใครที่ยังสับสนหรือสงสัย ลองมาหาคำตอบกันในบทความข้างล่างต่อไปนี้กันดีกว่าครับที่มารูปภาพ: stokpic จาก Pixabayการตัดตัวอย่างหนังจุดประสงค์หลักคือให้คนดูได้รับรู้ถึงเนื้อหาของหนังเบื้องต้นว่า เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับอะไร มีเนื้อหาหลักอะไรบ้าง ใครนำแสดง ซึ่งในบางครั้งการจะดึงดูดผู้คนให้เข้ามาชมตัวอย่างก็ต้องมีการ "เรียกน้ำย่อย" กันก่อนครับ การเรียกน้ำย่อยในที่นี้ก็คือ การนำไฮไลท์จากตัวอย่างหนังหรือสิ่งที่คิดว่าจะเป็นจุดเด่นของหนัง มานำเสนอในช่วงเวลาสั้น ๆ ประมาณ 1 นาที แต่ไม่ควรเกิน 2 นาทีสิ่งนี้จะเรียกว่า Teaser เป็นตัวอย่างน้ำจิ้ม-เรียกน้ำย่อยยั่วน้ำลายครับ ส่วนมากจะเผยตัวอย่างแบบ Teaser นำมาก่อนประมาณ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นค่อยปล่อยตัวอย่าง Trailer เต็ม จะเรียกแบบบ้าน ๆ ว่า Teaser คือตัวอย่างของตัวอย่างหนังอีกทีก็ได้ครับ ให้ลองสังเกตว่าภาพยนตร์ที่มี Teaser ตัวอย่างจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทั้งนั้นเช่น The Avengers, 007, Transformers, Wonder Woman เป็นต้นที่มารูปภาพ: Paramount Picturesในส่วนของ Trailer หรือตัวอย่างเต็มนั้น ก็จะเปิดเผยเนื้อเรื่องของหนังว่ามีพล็อตเรื่องเป็นอย่างไร ตัวละครหลักเป็นใคร เกิดอะไรขึ้นกับพระเอก/นางเอก อาจจะมีการตัดฉากที่ทำให้เซอร์ไพรซ์ลงไปด้วยในตอนท้าย อย่างเช่นตัวอย่าง Batman v Superman ที่ใส่ฉากการมาของ Wonder Woman เข้ามาด้วย ตัวอย่างของ Captain America: Civil War ก็เหมือนกันที่ใส่ฉากการปรากฏตัวของ Spider-Man ในตอนท้ายกล่าวคือ Trailer ตัวอย่างหนังจะทำให้คนดูรู้เรื่องราวมากกว่า Teaser ที่มีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดความน่าสนใจมากกว่า โดย Trailer หลักจะมีระยะเวลาประมาณ 2-3 นาที ที่พิเศษก็คือตัวอย่างหลักจะมีประมาณ 3 ตัวที่ปล่อยออกมาโปรโมทครับ (หนังฟอร์มยักษ์) ซึ่งแต่ละแบบก็จะเผยฉากใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนมากตัวอย่างหนังในโรงภาพยนตร์มักจะฉายตัวอย่างแบบ 3 แบบสุดท้ายมากที่สุดครับที่มารูปภาพ: Marvel Entertainmentนอกจากนี้หากเป็นหนังทั่วไปที่มีทุนน้อยหรือหนังระดับกลาง ๆ จะมี Trailer ตัวอย่างหลักปล่อยออกมาอย่างเดียว ไม่มี Teaser ยั่วน้ำลายแต่อย่างใดจะเห็นได้ว่า Teaser กับ Trailer มีความต่างกันพอสมควรเลยล่ะครับ โดย Teaser จะเน้นดึดความสนใจด้วยฉากสำคัญ ๆ มีระยะเวลาน้อยกว่า ขณะที่ Trailer จะเน้นเล่าเนื้อเรื่องโดยย่อและมีเวลานานกว่า ส่วนที่เป็น Spot TV ก็คือโฆษณาสำหรับฉายในโทรทัศน์ครับ จะมีเวลาสั้น ๆ เพียง 30 วินาที ก็พอจะทราบกันนะครับว่าสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน แต่จะให้ดีหากจะหาดูตัวหย่างหนังใหม่สักเรื่อง แนะนำว่าดูแค่ Trailer ตัวแรกจะดีกว่า เพราะ Trailer ตัวใหม่ ๆ ที่ออกมามักจะ Spoil ฉากใหม่จนหมดความสนุกไปพอสมควรเลยครับที่มารูปภาพปก: Free-Photos จาก Pixabay