กลับมาพบกันอีกเป็นครั้งที่สองแล้วนะครับ กับ "Let's Chill the Series" ซีรีส์บันทึกการเดินทางภายในตัวเกมโปรดของผมอย่าง เกมมายคราฟ ที่จะมีการเล่นแบบชิว ๆ ตามชื่อเลย และหากผู้อ่านท่านไหนยังไม่ได้ลองไปอ่านตอนแรกของซีรีส์นี้ก็สามารถตามไปอ่านกันได้นะครับ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พวกเรามาเริ่มกันเลยครับแค่เปิดซีรีส์นี้มาวันที่สอง (นับเวลาตามในเกม) ผมก็เจอดีเข้าให้เสียแล้ว ก่อนที่ผมจะเล่าไปมากกว่านี้ ผู้อ่านลองทายกันดูเล่น ๆ สิครับ ว่าผมไปเจอกับอะไรมาบ้าง ระหว่างนั้นผมก็จะสาธยายสิ่งที่ผมเจอในช่วงของการหลบเข้าถ้ำของคืนแรก จากตอนที่แล้วที่ผมหาขนแกะไม่ได้จนต้องหลบเข้าไปขุดแร่ในถ้ำ เพื่อฆ่าเวลาและหลบ Hostile Mob ทั้งหลายที่เตรียมจะพุ่งเข้ามาหาตัวละครของผมทุกเมื่อ ระหว่างที่ขุดไปนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีตัวอะไรมาตีผมจากด้านหลัง สังเกตได้จากหัวใจที่ลดทีละน้อย นั่นทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าผมลืมเปิดเสียงระหว่างเล่นเกมครับTips : ระหว่างที่เล่นเกมมายคราฟให้เปิดเสียงไว้ เพื่อฟังเสียงรอบข้าง โดยเฉพาะช่วงที่มี Hostile Mob เข้ามาใกล้ ๆ เราจะได้หลบหลีกการโจมตีจากพวกมันได้ทันด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงต้องได้หน้าจอประกาศ คำว่า "You Died" ตั้งแต่ตอนต้นเกมเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความประมาทของผมล้วน ๆ ที่ไม่เปิดเสียงเกมไว้ซักนิด อย่างน้อยก็เพื่อให้ได้ยินเสียงผิดปกติ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนั้นไปแล้ว ก็คงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากยอมรับ พอกลับเข้ามาเกิดใหม่ แน่นอนว่าของต่าง ๆ ที่ผมสะสมมาต้องหายไปแล้ว จะกลับไปเอาของเก่าที่ตกอยู่ก็คงจะไม่ทันเวลา ผมจึงตัดสินใจเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเสียเลยทว่าสิ่งที่ผมคิดก็อาจไม่ง่ายขนาดนั้น เนื่องจากช่วงเวลาที่ผมเกิดยังเป็นตอนกลางคืนอยู่ ในผืนป่าไบโอม Dark Forest มีสิ่งมีชีวิตที่อยากจะโจมตีเราอยู่มากมาย ตอนนั้นผมทำได้เพียงวิ่งไปเรื่อย ๆ หวังว่าจะเจอที่โล่งที่ไม่มี Hostile Mob มาตามรังควาน เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ผมดันไปเหยียบโดนพิษที่แม่มดปาลงพื้นซะนี่ ไม่มีอะไรจะโชคร้ายไปกว่าตอนนั้นอีกแล้วครับ พิษของแม่มดนั้นสามารถทำให้ผู้เล่นถูกกัดกินไปเรื่อย ๆ จนเหลือหลอดหัวใจเพียงครึ่งดวง ในภาพประกอบที่สองผู้อ่านจึงจะได้เห็นว่า ตัวละครของผมใกล้กลับไปเกิดใหม่เต็มทีแต่อย่างน้อย นั่นก็เป็นเวลาเกือบเช้าแล้วDay : 2เช้าวันต่อมา ผมที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเมื่อตอนกลางคืน ต้องลงมาจากยอดต้นไม้เพื่อหาอาหารประทังชีวิต ผมเจอหมูก็กินเนื้อหมู เจอวัวก็กินเนื้อวัว ในหัวคิดอยู่เพียงว่าทำอย่างไรก็ได้ให้หลอดหัวใจกลับมาเต็มสิบดวงอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะไปขุดบล็อกต้นไม้สร้างอุปกรณ์ทั้งหมดใหม่อีกครั้งคราวนี้หลังจากที่ทำอุปกรณ์สำหรับดำรงชีพจนครบ ผมก็เดินเลียบไปตามริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามกับที่เคยไปก่อนหน้า หวังว่าจะหาสถานที่ตั้งถิ่นฐานที่เหมาะสม จนเดินไปพบกับเขตไบโอมอีกอันหนึ่งเข้า นั่นก็คือไบโอมป่าเบิร์ช ถึงผมจะชื่นชอบพื้นที่อันราบเรียบ มีเนินเขาเพียงเล็กน้อยเหมาะแก่การสร้างบ้านในไบโอมนี้ แต่ผมก็ไม่ชอบลายไม้ของต้นเบิร์ชเอาเสียเลย จะว่ายังไงดีล่ะครับ ก็ลายของต้มไม้ชนิดนี้มันดูแปลกตาเกินไป แถมยังไม่ค่อยเข้ากันกับลายของบล็อกไหนในเกมอีก ทำให้ผมไม่ค่อยได้ใช้บล็อกไม้เบิร์ชเลย (แต่ก็ยังใช้เนื้อไม้เบิร์ชอยู่นะครับ พอดีว่าสีมันยังใช้ได้)แล้วผมก็ได้เดินสำรวจต่อไป...อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจก็คือพื้นที่ผาหินซึ่งมาพร้อมกับถ้ำขนาดใหญ่ที่อาจตรงดิ่งลงไปลึงเป็นหลายร้อยบล็อก แต่ผมก็ยังไม่อยากเสี่ยงลงไปหรอกครับ คงต้องจนพิกัดสถานที่นี้ไว้ก่อน เพราะดูเหมือนว่าจะมี Mob ตั้งหลายตัวยืนต้อนรับผมอยู่หน้าปากทางเข้าถ้ำกันเลยทีเดียว รอผมมีชุดเกราะเหล็ก หรือไม่ก็เตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ก่อนถึงจะเข้าไปเดินสำรวจไปได้ไม่ทันไร ผมก็พบกับไบโอมเก่าที่ผมตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างบ้านแถวนั้นแล้ว ผมคงไม่อยากไปไหนไกลอีก พูดตามตรงว่ากลัวจะหลงทางครับ ฉะนั้นวันนี้คงต้องพักแรมอยู่ระแวงใกล้เคียงน่าจะดีในคืนที่สองนี้ผมก็ยังคงไม่มีขนแกะครบสามชิ้นอีกเช่นเคย และแทนที่จะลงลึกเข้าไปสำรวจในถ้ำ คราวนี้ผมจะต่อบล็อกขึ้นไปสูง ๆ เพื่อหลบสิ่งมีชีวิตอันตรายทั้งหลายแทน เมื่อคิดว่าต่อบล็อกขึ้นไปได้สูงพอที่จะรอดจากการมองเห็นของ Hostile Mob แล้ว ผมจึงค่อยวาง Crafting Table กับเตาเผาลง จุดที่ผมมาอยู่นั้นได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินพอดีด้วยครับ นี่ขนาดเป็นแค่เกมสี่เหลี่ยมธรรมดาผมยังรู้สึกว่ามันเป็นภาพที่น่ามองเลย เห็นแล้วก็อยากจะไปเที่ยวบนดอยซะแล้วสิ น่าเสียดายที่ตอนผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่เป็นหน้าร้อน ถ้าจะไปเที่ยวดอยคงไม่มีอะไรให้ดูมากขนาดนั้นล่ะมั้งครับและเมื่อดวงอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าลงในโลกของเกมมายคราฟ ผมว่าบทความนี้ก็คงต้องจบลงเช่นเดียวกัน ไว้เจอกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ ขอบคุณครับเครดิตภาพภาพปกและภาพประกอบมาจากเกม Minecraft ที่ผู้เขียนเล่นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !