SONICกำไรQ3ทะยาน511% ทุนแกร่งเดินเกมควบรวม

ทันหุ้น – SONIC อวดผลงานไตรมาส 3/64 กำไรทะยาน 511.19% แตะ 70.47 ล้านบาท ส่งสัญญาณธุรกิจปี 65 โตต่อ บอสใหญ่ “สันติสุข โฆษิอาภานันท์” กางแผนควบรวมกิจการ แย้มอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ดีล โชว์ฐานทุนแกร่ง D/E ต่ำกว่า 1 เท่า
นายสันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการ การจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 70.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.94 ล้านบาท หรือเติบโต 511.19% ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกปี 2564 มีกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 153.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121.49 ล้านบาท หรือเติบโต 385.44%
รายได้เติบโต 227%
ส่วนรายได้ไตรมาส 3/2564 บริษัททำได้ 979.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 680.64 ล้านบาท หรือเติบโต 227.66% ส่วน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2,259.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,363.53 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 895.87 ล้านบาท หรือเติบโต 152.20%
โดยไตรมาส 3/2564 บริการขนส่งทางเรือมีอัตราสูงถึง 339.97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนบริการขนส่งทางอากาศเติบโต 129.88% บริการขนส่งทางบกเติบโต 24.73% ส่วนบริการอื่นๆ เติบโต 46.72%
ขณะที่ทิศทางช่วงที่เหลือปีนี้ บริษัทคาดจะมีลักษณะคล้ายกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการขายสินค้าอีคอมเมิร์ซ หรือออนไลน์ซึ่งมีโปรโมชั่นปลายปีค่อนข้างมาก ทำให้ความต้องการขนส่ง เพื่อนำเข้า ส่งออกสินค้าจำนวนมาก ปัจจุบันดีมานด์ความต้องการพื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมาก อีกทั้งค่าระวางเรือมีแนวโน้มสูง ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการ SONIC ดีต่อเนื่อง
ลุยปล่อยสินเชื่อ 300 ล.
ส่วนปี 2565 คาดทิศทางธุรกิจจะดีต่อจากปีนี้ ซึ่งการเติบโตจะมาจากการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ทางบก และทางอากาศเป็นหลัก ส่วนธุรกิจโลจิสซิ่ง (โลจิสติกส์+ลิสซิ่ง) บริษัทจะเดินหน้าปล่อยสินเชื่อปี 2565 ที่ 300 ล้านบาท จากปีนี้ที่ 200 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทจะเดินหน้าแผนควบรวมกิจการ (M&A) ให้สำเร็จ โดยคาดจะเห็นความชัดเจนในปี 2565 ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ดีล ส่วนการใช้เงินลงทุน บริษัทจะพิจารณาเป็นรายดีล เพราะแต่ละดีลการลงทุนมีขนาดไม่เท่ากัน ขณะเดียวกันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำกว่า 1 เท่า และมีสถาบันการเงินรองรับ และพร้อมจะซัพพอร์ตธุรกิจ ดังนั้นเรื่องเงินทุน บริษัทไม่มีความกังวลแต่อย่างใด
นายสันติสุข กล่าวต่อว่า การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย คาดจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายจากผู้บริโภคได้มากขึ้น และจะส่งผลความต้องการนำเข้า ส่งออกสินค้ามากขึ้น