ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ
America: ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และหารือในประเด็นต่าง ๆ ร่วมกัน โดยคาดว่าประเด็นหลัก คือ เรื่องปัญหาเกาหลีเหนือ และวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ ต่างชื่นชมความเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นระหว่าง 2 ประเทศ หลังจากตึงเครียดในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยไบเดนและมุนหารือกันในวันศุกร์ (21 พฤษภาคม) คาดว่าประเด็นหลัก คงเป็นปัญหาเกาหลีเหนือ จีนและวัคซีนต้านโควิด-19
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองแสดงความปรารถนาที่จะมีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือ ในความพยายามลดความตึงเครียดกรณีโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
หลังจากหารือกันในห้องทำงานผู้นำทั้ง 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมหารือในห้องอาหารเย็น พูดคุยกันหลากหลายประเด็น รวมทั้งโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดีมุน แจ้งไบเดนว่า เกาหลีใต้จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อผลักดันการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือให้สำเร็จ และสถาปนาสันติภาพถาวรขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี
นอกจากปัญหาอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่ยืดเยื้อมายาวนานแล้ว พันธมิตรทั้ง 2 ยังหารือกันในประเด็นความมั่นคงระดับภูมิภาคที่กว้างขวางมากขึ้น ความร่วมมืออุตสาหกรรมไฮเทค เช่น ไมโครชิพ ความพยายามควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด และมาตรการแก้ปัญหาโลกร้อนที่เข้มข้นมากขึ้น
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมุน ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักในการรับมือการระบาดของไวรัสโควิดในประเทศ เขาหวังทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ในการจัดหาวัคซีนที่ขาดแคลน ขณะเดียวกัน รัฐบาลของไบเดน ก็กำลังพิจารณามองหาพันธสัญญาในการแก้ปัญหาโลกร้อนจากเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันกับมุน ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า เขาต้องการประชุมร่วมกับคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ หากคิมตกลงเจรจาเกี่ยวกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ไบเดินบอกว่า ทั้งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ วิตกกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว
จนถึงขณะนี้ เกาหลีเหนือยังปฏิเสธคำร้องขอด้านการทูตของสหรัฐฯ ตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งต่อจากทรัมป์ ซึ่งเคยประชุมสุดยอดกับคิม 3 ครั้ง และยังแลกเปลี่ยน “จดหมายที่งดงาม” กันด้วย อย่างไรก็ตาม คิมยังปฏิเสธล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แต่ระงับการทดลองนิวเคลียร์แทน
ไบเดน บอกว่า เขาพร้อมหารือกับคิม ภายใต้เงื่อนไขที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งหากคิมตกลงที่จะหารือโครงการนิวเคลียร์ของเขา ก็จะให้บรรดาที่ปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเกาหลีเหนือก่อน เพื่อวางกรอบในการเจรจาระหว่างผู้นำ
รัฐบาลของไบเดนทบทวนนโยบายเกาหลีเหนือในกรอบกว้าง ๆ ในช่วงเข้ารับตำแหน่งเดือนแรก ๆ แต่บอกว่า มีการเพิ่มนโยบายใหม่ต่อจากของเดิมในยุคทรัมป์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มีการกล่าวเพียงว่า นโยบายของไบเดนไม่ใช่แนวทางที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้ระหว่างการบริหารประเทศ คือปฏิเสธที่จะมีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับเกาหลีเหนือ แต่ไม่ใช่ต้องการจัดการประชุมแบบหรูหราเหมือนทรัมป์