ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันหนักแน่นกับประธานาธิบดีอิสราเอลว่า พันธกรณีที่สหรัฐฯ มีต่ออิสราเอลนั้นยังคงเข้มแข็งมั่นคง
America: ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันหนักแน่นกับประธานาธิบดีอิสราเอลว่า พันธกรณีที่สหรัฐฯ มีต่ออิสราเอลนั้นยังคงเข้มแข็งมั่นคง และเขาจะไม่ปล่อยให้อิหร่านได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ตราบใดที่เขายังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พบหารือกับประธานาธิบดีริวเวน ริฟลิน แห่งอิสราเอล ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว โดยผู้นำทั้งสองได้พูดคุยกันในหลายประเด็น รวมถึงปัญหาอิหร่านด้วย
ไบเดน ย้ำว่า พันธกรณีที่ตัวเขาในฐานะผู้นำสหรัฐฯ มีต่ออิสราเอลนั้นเข้มแข็งประดุจเหล็กกล้า และยืนยันต่อประธานาธิบดีอิสราเอลว่า อิหร่านจะไม่มีโอกาสครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ตราบใดที่เขายังคงเป็นประธานาธิบดีอยู่ และสหรัฐฯ พร้อมสนับสนุนสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ไบเดนยังกล่าวด้วยว่า เขารอคอยที่จะได้พบปะกับนาฟตาลี เบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนใหม่เร็ว ๆ นี้
ขณะที่ ประธานาธิบดีริฟลิน ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการหารือว่า ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมเชิญนายกรัฐมนตรีอิสราเอลให้เดินทางมาเยือนทำเนียบขาวในเร็ว ๆ นี้ เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทาง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
และกล่าวว่า เขายินดีที่ไบเดนให้คำมั่นว่า จะไม่ยอมให้อิหร่านได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
เบนเนตต์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนใหม่ แทนที่เบนจามิน เนทันยาฮู ส่วนเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เองก็อยู่ระหว่างเตรียมการพบปะระหว่างผู้นำทั้ง 2 ชาติภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ อิสราเอลและบรรดาชาติอาหรับต่างวิตกกังวลที่สหรัฐฯ มีท่าทีกลับเข้าร่วมข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 เพราะเกรงว่าข้อตกลงฉบับนี้ สุดท้ายแล้วอาจมีช่องโหว่จนทำให้อิหร่านสามารถครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามทางทหารอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศเพื่อนบ้าน
รัฐบาลไบเดน แสดงเจตนารมณ์ที่จะฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำสหรัฐฯ ถอนตัวออกไปฝ่ายเดียวเมื่อปี 2018
อย่างไรก็ตาม กระบวนการเจรจาเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากฝ่ายอิหร่านตั้งเงื่อนไขให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดเสียก่อน