หุ้น(CPALL) เป็นของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ชื่อเดิมคือ บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด เป็นบริษัทหลักในกลุ่มธุรกิจการตลาด และการจัดจำหน่ายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกอบธุรกิจหลัก คือ ร้านสะดวกชื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น นั้นเอง และมีธุรกิจ อื่น ๆ เช่นบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัดบริษัท ซี.พี. ค้าปลีกและการตลาด จำกัดบริษัท ซีพี รีเทลลิงก์ จำกัดบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัดบริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดบริษัท ไดนามิค แมนเนจเม้นท์ จำกัดบริษัท เอ็ม เอ เอ็ม ฮาร์ท จำกัดบริษัท ศึกษาภิวัฒน์ จำกัดบริษัท ปัญญธารา จำกัด และบริษัทออลล์ เทรนนิ่ง จำกัด ส่วนหุ้น (CPALL) ณ วันที่ 26/3/2563 อยู่ที่ราคา 59.75 บาท และจากการดูกราฟของหุ้น (CPALL) ย้อนหลัง 5 ปี ปรากฏว่าราคา เพิ่มขึ้นมาประมาณ 36 เปอร์เซ็นต์ หรือราคาเพิ่มขึ้นมาประมาณ 21.75 บาท ส่วนการดูกราฟของหุ้น (CPALL) ย้อนหลัง 1 ปี ราคาหุ้นได้ลดลงมาประมาณ 19 เปอร์เซ็นต์ หรือราคาได้ลดลงมาประมาณ 14.50 บาท จากการดูข้อมูลย้อนหลัง ณ วันที่ 31/12/2559 ถึง วันที่ 31/12/2562 ผลปรากฏว่าสินทรัพย์รวมของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้มีการเพิ่มขึ้นประมาณ 23,349.4 ล้านบาท และหนี้สินรวมก็ได้ลดลงมาประมาณ 25,415.19 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม ก็ได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 119,171.21 ล้านบาท และกำไรสุทธิ ได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 5,666.57 ล้านบาท วิเคราะห์งบการเงิน จากที่ดูงบการเงินของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) แล้ว ปรากฏว่าสินทรัพย์รวม ของบริษัทนี้เพิ่มขึ้น ทุก ๆ ปี ส่วนหนี้สินรวม ได้ลดลงใน ทุก ๆ ปี ซึ่งการที่หนี้สินรวมของบริษัทลงลดถือเป็นเรื่องที่ดี และยิ่งหนี้สินรวมบริษัทลดลงใน ทุก ๆ ปี แล้วละก็ยิ่งถือเป็นเรื่องที่ดีขึ้นไปอีก ส่วนรายได้รวมของบริษัทนี้ ก็ได้เพิ่มขึ้นทุกปีเหมือนกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี และกำไรสุทธิของบริษัทนี้ มีการเพิ่มขึ้นในทุกปี ซึ่งการที่กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดี และยิ่งเพิ่มขึ้นใน ทุก ๆ ปี แล้วละก็ ยิ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ขึ้นไปอีก จากการวิเคราะห์งบการเงินของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผมให้คะแนนสำหรับงบการเงิน คือ 100 คะแนน เพราะผมคิดว่าบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มีการบริหารจัดการงบการเงินที่ถือว่าดีมาก จึงทำให้ผม ผมให้คะแนนสำหรับงบการเงิน 100 คะแนน นั้นเอง หุ้น (CPALL) มีค่า P/E ที่ถือว่าสูง ซึ่งค่า P/E ที่สูงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี ตัวอย่างเช่น หากหุ้น ก ราคา 24 บาท บริษัทมีผลกำไรต่อหุ้นใน 4 ไตรมาสล่าสุด หรือ 1 ปี อยู่ที่ราคา 3 บาท ค่า P/E ที่คำนวนได้จะเท่ากับ 24/3 หรือ 8 แสดงว่านักลงทุนจะต้องจ่ายเงิน 8 บาท เพื่อให้ได้กำไร 1 บาท ต่อปี สรุปให้เข้าใจ ง่าย ๆ คือยิ่งค่า P/E ต่ำยิ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่วนตัวผมคิดว่า ค่า P/E ต่ำกว่า 18 ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี หุ้น (CPALL) มีค่า P/BV ที่ถือว่าสูง ซึ่งค่า P/BV ที่สูงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี เพราะการคำนวน ค่า P/BV ต้องใช้ ราคาหุ้น หารด้วยมูลค่าทางบัญชี จึงจะได้ค่า P/BV นั้นเอง ถ้าค่า P/BV น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 ถือว่าหุ้นราคาถูก หุ้น (CPALL) มีค่า ROA ที่ถือว่าต่ำ ซึ่งค่า ROA ที่ต่ำถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี เพราะตัวเลขนี้บอกว่า บริษัทสามารถทำอะไรกับสินทรัพย์ที่บริษัทมีอยู่ได้ คือ รายได้มาจากสินทรัพย์ที่บริษัทควบคุมอยู่เท่าไร เป็นตัวเลขที่มีประโยชน์ในการเปรียบเทียบบริษัทที่แข่งขันกันในอุตสาหกรรมเดียวกัน ตัวเลขนี้จะมีค่าหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทอุตสาหกรรม อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ทั้งหมดเป็นการชี้การใช้ทุนของบริษัทมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรม บริษัทที่ต้องการการลงทุนเริ่มต้นสูงโดยทั่วไปจะมีอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ทั้งหมดต่ำ หรือสรุป ง่าย ๆ คือแสดงให้เห็นว่า สินทรัพย์ของบริษัทสามารถทำรายได้ได้มากเพียงใด นั้นเอง ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าค่า ROA สูงกว่า 15 ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี หุ้น (CPALL) มีค่า ROE ที่ถือว่าสูง ซึ่งค่า ROE ที่สูงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะยิ่งค่า ROE มีค่าสูงเท่าไรยิ่งดี เพราะแสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนจากเงินส่วนของเจ้าของนั้นให้ผลตอบแทนที่สูง ยิ่งมีค่าที่สูงจึงแปลว่าบริษัทนั้นสามารถทำ กำไรสุทธิ ได้มาก หลักการเปรียบเทียบควรใช้ค่า ROE ในการเปรียบเทียบกับบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม นั้น ๆ ข้อระวัง คือ ต้องระวังค่า ROE สูง ๆ ที่เกิดจากกิจการที่มีหนี้สินมาก ๆ เพราะการมีหนี้สินถือว่าเป็น กิจการที่ส่วนของผู้ถือหุ้น เหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องประเมินความเสี่ยงของกิจการควบคู่กันไปด้วย ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าค่า ROE สูงกว่า 15 ก็ถือว่าใช้ได้ หุ้น (CPALL) อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่ถือต่ำ ซึ่งถ้าอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนต่ำ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี เพราะ อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่เปรียบเทียบระหว่างเงินปันผลต่อหุ้นกับราคาของหุ้น ณ วันที่คำนวณ เป็นอัตราส่วนที่บ่งบอกถึงว่าหากซื้อหุ้น ณ ราคาปัจจุบัน จะมีโอกาสได้รับเงินปันผลเป็นอัตราร้อยล่ะเท่าไรของราคาหุ้น ส่วนตัวผมคิดว่า อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนสูงกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ถือว่าดี จากการวิเคราะห์หุ้น (CPALL) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ส่วนตัวผมคิดว่า หุ้น (CPALL) หน้าจะมีราคาสูงขึ้นในอนาคต เพราะจากที่ดูกราฟของหุ้น (CPALL) ย้อนหลัง 5 ปี ปรากฏว่าราคา เพิ่มขึ้นมาประมาณ 36 เปอร์เซ็นต์ หรือราคาเพิ่มขึ้นมาประมาณ 21.75 บาท ซึ่งในอนาคตหุ้น (CPALL) อาจมีราคาสูงขึ้นก็ได้ และจากการวิเคราะห์งบการเงินของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)ผมคิดว่าบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มีการบริหารจัดการงบการเงินที่ถือว่าดีมาก จึงทำทำให้ผมคิดว่าหุ้น (CPALL) จะมีราคาสูงขึ้นมากในอนาคต ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วน, ภาพ จาก เว็บไซต์ วิกิพีเดีย และ เว็บไซต ์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ