จากเชอร์โนบิล ( Chernobyl ) สู่ฟุกุชิมะ ( Fukushima Daiichi )ก่อนที่จะเกิดหายนะกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ในปี 1986 ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของรังสีผ่านอุบัติเหตุของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล เหตุการณ์ในครั้งนั้นสร้างความตื่นตัวให้กับบุคลากรและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานพลังงานนิวเคลียร์ ให้ใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยในการออกแบบและการดำเนินการในโรงไฟฟ้า จึงสามารถวางใจได้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้อีกกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่อื่น แต่ทว่าเรื่องของความปลอดภัยนั้นมีเท่าใดก็ไม่เคยพอ25 ปีต่อมา วันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 เวลาท้องถิ่น 14:46 น. ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกชายฝั่งตะวันออกของภูมิภาคโทโฮกุ ลึกลงไปข้างใต้ 32 กิโลเมตร ได้เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยได้มีการจดบันทึกเอาไว้ การสั่นสะเทือนขนาด 9.0 ริกเตอร์ พร้อมด้วยคลื่นยักษ์สึนามิที่ตามมาได้สร้างความเสียหายกับโครงสร้างและบ้านเรือนกว่า 20,000 หลัง โดยหนึ่งในสถานที่ที่เกิดหายนะมากที่สุดนั่นก็คือ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะได้เกิดการหลอมละลายของแท่งเชื้อเพลิงและยังเกิดการระเบิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีจำนวนมากออกไปสู่สิ่งแวดล้อมและส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในบริเวณนั้นเกิดอะไรขึ้นข้างในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ? ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ มีเครื่องปฏิกรณ์ 3 เครื่องยังอยู่ระหว่างการเดินเครื่องตามปกติ แต่เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้น เครื่องปฏิกรณ์ทั้ง 3 ตัวนี้ ได้หยุดการทำงานอย่างฉุกเฉินผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเมื่อระบบตรวจจับเจอการสั่นสะเทือน โดยภาพรวมแล้วไม่เกิดความเสียหายใด ๆ เลย แต่ที่ข้างในแกนปฏิกรณ์ แม้ว่าเครื่องจะหยุดทำงานแล้วแต่ยังคงมีความร้อนจำนวนมากสะสมอยู่ข้างในแท่งเชื้อเพลิง ซึ่งความร้อนเหล่านี้นั้นสามารถทำให้น้ำที่ไหลอยู่ข้างในแกนเดือดกลายเป็นไอได้เรื่อย ๆ เราจึงจำเป็นที่จะต้องจ่ายน้ำเพิ่มเข้าไปในแกนปฏิกรณ์อยู่ตลอดเพื่อทดแทนในส่วนของน้ำที่ได้ระเหยออกไป มิฉะนั้นความร้อนที่สะสมอยู่ข้างในแท่งเชื้อเพลิงนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นไปไปจนแท่งเชื้อเพลิงหลอมละลายได้ แม้ผลจากแผ่นดินไหวจะไม่ส่งผลร้ายต่อโรงไฟฟ้าโดยตรง แต่จากการสั่นสะเทือนที่รุนแรงได้สร้างความเสียหายต่อระบบสายส่งไฟฟ้า ทำให้โรงไฟฟ้าไม่สามารถดึงไฟฟ้าจากภายนอกมาใช้งานได้เลย แต่ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล เพราะโรงไฟฟ้านั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับเหตุการณ์ลักษณะนี้อยู่แล้ว ที่ข้างในเราจะมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าฉุกเฉิน หรือ Emergency Diesel Generator ทำให้เรายังคงมีพลังงานสำรองเพื่อใช้สำหรับระบบที่จะจ่ายน้ำหล่อเย็นเข้าไป cooling แท่งเชื้อเพลิงเพื่อไม่ให้ร้อนเกินไปจนหลอมละลายทว่า 41 นาทีหลังเกิดแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิสูงกว่า 15 เมตร ซึ่งสูงกว่ากำแพงกั้นน้ำของโรงไฟฟ้ากว่า 3 เท่าได้ซัดถล่มมาที่โรงไฟฟ้า ผลจากสึนามิทำให้เกิดน้ำท่วมที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าฉุกเฉินจนไม่สามารถใช้งานได้ ขณะนั้น โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะได้เกิดสภาวะ Station Blackout หรือการถูกตัดขาดจากพลังงานไฟฟ้า ซึ่งแม้ว่าบุคลากรข้างในจะพยายามที่จะแก้ไขไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถที่จะจ่ายน้ำเข้าไปในแกนได้จนแท่งเชื้อเพลิงก็หลอมละลาย เคราะห์ยังดีที่แท่งเชื้อเพลิงนั้นไม่ได้หลอมละลายทะลุออกมานอกแกนปฏิกรณ์ สารกัมมันตรังสีส่วนใหญ่จึงยังถูกกักเก็บไว้อยู่ภายใน แต่ทว่าไอน้ำที่สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้นยังคงเป็นปัญหาเพราะจะทำให้ความดันภายในสูงขึ้น บุคลากรจึงตัดสินใจยอมปล่อยให้ไอน้ำเหล่านี้ออกไปข้างนอกซึ่งทำให้มีสารกัมมันตรังสีหลุดออกไปด้วย แต่เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้นี่เป็นสิ่งที่ต้องยอมทำแต่ว่าโชคนั้นไม่เข้าข้าง ไอน้ำที่ปล่อยออกไปนั้นได้เกิดการตีกลับไหลเข้ามาข้างในแกนปฏิกรณ์ ส่งผลให้เกิดสภาวะที่ปริมาณของ oxygen และ hydrogen มากพอจนเกิดการ spark และเกิดระเบิดขึ้น ผลจากการระเบิดนั้นได้ทำให้เกิดการแพร่กระจายฝุ่นผงกัมมันตรังสี ( Nuclear Fallout ) ผ่านทางอากาศทำให้คนงานได้รับรังสีเกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนดและนอกจากนี้ยังมีการแพร่กระจายสารกัมมันตรังสีไปในน้ำอีกเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้สัตว์น้ำจำนวนมากได้รับการสะสมของรังสีเช่นกันเราเรียนรู้อะไรจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ?อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นบทเรียนบทใหญ่อีกครั้งแก่ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์ ว่าการออกแบบและประเมินระบบทางนิวเคลียร์นั้น เราจะต้องคิดไปจนถึงเหตุการณ์ที่มันแทบจะไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้เลยอย่างแผ่นดินไหวและสึนามิที่ฟุกุชิมะเจอในปัจจุบัน การออกแบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นได้มีหลักการออกแบบครอบคลุมเหตุการณ์ที่แม้โอกาสเกิดจะน้อย แต่หากมันเกิดขึ้นจะสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงได้ เช่น ภัยพิบัติต่าง ๆ ไปจนถึงขั้นการตกของเครื่องบินหรืออุกกาบาตที่สามารถตกลงมาใส่โรงไฟฟ้าได้ จึงทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในปัจจุบันนั้นปลอดภัยมากถึงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดเหตุการณ์แบบ เชอร์โนบิล หรือฟุกุชิมะขึ้นมาอีกพลังงานนิวเคลียร์นั้นเป็นพลังงานสะอาด แต่ด้วยความกลัวในอดีตทำให้พลังงานชนิดนี้ยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากนัก ซึ่งหวังว่าในอนาคตพลังงานนิวเคลียร์นั้นจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเพื่อที่จะมาทดแทนในส่วนของพลังงานชนิดอื่นที่สร้างมลภาวะต่อโลกสำหรับมนุษย์นั้นไม่เคยมีคำว่าพอสำหรับการใช้พลังงาน เครดิตภาพภาพปก จาก pixabay โดย PublicDomainPicturesภาพที่ 1 จาก wikipediaภาพที่ 2 จาก wikipediaภาพที่ 3 จาก nrcภาพที่ 4 จาก wikipediaภาพที่ 5 จาก pixabay โดย fietzfotosอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !