รีเซต

HL ขยายสาขาอัพยอดขาย รุกโกยมาร์เก็ตแชร์

HL ขยายสาขาอัพยอดขาย รุกโกยมาร์เก็ตแชร์
ทันหุ้น
18 กรกฎาคม 2566 ( 22:56 )
53

HL ใส่เกียร์ขยายสาขา พร้อมอัพพื้นที่หน้าร้านเพิ่มขึ้นเท่าตัว รองรับสินค้าขนาดใหญ่ เจาะฐานโซนในเมือง โกยยอดขายเพิ่ม ชี้กำลังซื้อสูง แถมมาร์จิ้นดี 25% เล็งผุดสาขาสิ้นปีครบ 50 แห่ง ด้านบอสใหญ่ “ธัชพล  ชลวัฒนสกุล” คาดผลงานปีนี้เข้าเป้าโตมากกว่า 20%

 

ภก.ธัชพล  ชลวัฒนสกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) HL เปิดเผยว่า บริษัทมองทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2566 จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะภาพนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศชัดขึ้น อีกทั้งบริษัทมียอดขายจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และสูงกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทจะขยายสาขา หรือหน้าร้านให้ใหญ่ขึ้นเป็น 300-330 ตารางเมตร จากปกติบริษัทมีขนาดสาขาอยู่ที่ 150 ตารางเมตร หรือขยายพื้นที่หน้าร้านอีกเท่าตัว

 

** ขายของใหญ่

สำหรับหน้าร้านใหม่ จะเน้นขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เตียง รถเข็นผู้ป่วย เป็นต้น โดยสาขาขนาดใหญ่จะเปิดในโซนใจกลางกรุงเทพฯ จากเดิมร้านยาขนาด 150 ตารางเมตร จะอยู่รอบนอกเขตกรุงเทพฯ ทั้งนี้บริษัทจะขยายสาขาดังกล่าวเพิ่มอีก 2-3 สาขา และจะใช้งบราว 4-5 ล้านบาทต่อสาขา

 

ทั้งนี้บริษัทมองกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว และคาดจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากการขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพราะมีราคาสูง ประกอบกับอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูงกว่ายา โดยกลุ่มอุปกรณ์การแพทย์มีมาร์จิ้นยู่ที่ 20-25% ขณะที่กลุ่มยามีมาร์จิ้นอยู่ราวๆ 10% แต่โดยรวมมาร์จิ้นของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 20% เนื่องจากรวมมาร์จิ้นของยา และอาหารเสริมเข้าด้วยกัน

 

บริษัทคาดการขยายสาขาใหญ่ขึ้น จะช่วยสนับสนุนยอดขายให้เป็นไปตามเป้า หรือโตมากกว่า 20% จากปีก่อน 388.34 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากการขยายสาขาใหม่ หรือมีสาขาภายในสิ้นปีนี้ครบ 50 สาขา อีกทั้งการขายยาผ่านแบรนด์ทั้ง 4 แบรนด์ ประกอบไปด้วย “iCare” “Pharmax” “vitaminclub” และ “Super Drug”

 

** ชิงมาร์เก็ตแชร์

บริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด หรือมาร์เก็ตแชร์ให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาร์เก็ตแชร์ธุรกิจร้านยามูลค่าสูงถึง 3-4 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดขายบริษัทอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นตัวเลขที่เล็กน้อย และจะพยายามผลักดันอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ปีนี้ให้สูงกว่าปีก่อน จากการขายสินค้าในกลุ่มนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “PRIME” และ “Besuto” บริษัทคาดสินค้าในกลุ่มนวัตกรรมจะช่วยสนับสนุนมาร์จิ้นโดยรวมทั้งกลุ่มให้เติบโตเพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้บริษัทได้มีการลงทุนด้านอสังหาเพิ่มเติม โดยเป็นการปล่อยพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้า ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่คลังเก็บยาที่บริษัทไม่ได้มีการดำเนินการใช้แล้ว จึงเตรียมสร้างรายได้เพิ่มในส่วนนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีแผนที่จะจับมือมิตรพันธมิตร เช่น โรงพยาบาล หรือกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะมาเสริมแกร่งให้กับบริษัทในอนาคต อนึ่ง 3 เดือนแรก บริษัทมีรายได้แล้วที่ 388.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12.80 ล้านบาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง