อนามัยโลกเตือนความขัดแย้ง 'รัสเซีย-ยูเครน' หนุนโควิด-19 ระบาดหนัก
เจนีวา, 3 มี.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (2 มี.ค.) ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน อาจส่งผลให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แพร่ระบาดสูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงเกิดอาการป่วยร้ายแรงในประชาชนจำนวนมาก
ทีโดรสระบุว่าองค์การฯ กังวลเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครนอย่างยิ่ง โดยก่อนหน้าความขัดแย้ง ยูเครนมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น ขณะอัตราการตรวจโรคต่ำลงตั้งแต่เริ่มเกิดความขัดแย้ง บ่งชี้ว่าอาจมีการแพร่ระบาดที่ไม่ถูกตรวจพบอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับอัตราความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนก็ต่ำ ส่วนการขาดแคลนออกซิเจนขั้นวิกฤตจะส่งผลกระทบต่อความสามารถรักษาผู้ป่วยและโรคอื่นๆ อีกมาก
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่ามีประชาชนเดินทางออกจากยูเครนมากกว่า 870,000 คน เมื่อนับถึงวันอังคาร (1 มี.ค.) และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว โดยทีโดรสระบุว่าการเคลื่อนที่ของประชากรจำนวนมากอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สูงขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขในประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะเดียวกัน ไมก์ ไรอัน กรรมการบริหารประจำโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การฯ เตือนว่าการเคลื่อนที่ของประชากรจำนวนมากเนื่องจากความขัดแย้ง อาจส่งผลให้โรคโควิด-19 เกิดการแพร่ระบาดสูงขึ้น และส่งผลให้เกิดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ด้วย
องค์การฯ ได้ส่งมอบเวชภัณฑ์ที่จำเป็นจากศูนย์กลางในนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยการจัดส่งครั้งแรกจะมาถึงโปแลนด์ในวันพฤหัสบดี (3 มี.ค.) ซึ่งมีทั้งอุปกรณ์ดูแลผู้บาดเจ็บและการผ่าตัดฉุกเฉิน จำนวน 36 ตัน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย 1,000 ราย และอุปกรณ์ด้านสุขภาพอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน 150,000 คน