รีเซต

ประกาศ "ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน" 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 65 คุมทำประมงฤดูสัตว์น้ำวางไข่

ประกาศ "ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน" 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 65 คุมทำประมงฤดูสัตว์น้ำวางไข่
ข่าวสด
31 มีนาคม 2565 ( 18:03 )
115
ประกาศ "ปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน" 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 65 คุมทำประมงฤดูสัตว์น้ำวางไข่

ข่าววันนี้ 31 มี.ค. 2565 นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า การบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการประกอบอาชีพประมงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องชาวประมง ถือเป็นนโยบายสำคัญที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำให้กรมประมงถือปฏิบัติ เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรประมง

 

สำหรับมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามัน กรมประมงได้ดำเนินการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 และมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อเปิดโอกาสให้สัตว์น้ำได้วางไข่แพร่ขยายพันธุ์เจริญเติบโตและนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ก่อให้เกิดการทำประมงที่ยั่งยืนดังเช่นที่ผ่านมา

 

จากผลการศึกษาทางวิชาการพบว่า ในช่วงเวลาการบังคับใช้มาตรการฯ พบสัตว์น้ำชนิดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่มีความสมบูรณ์เพศสูง และพบสัตว์น้ำวัยอ่อนมีความชุกชุมและแพร่กระจายหนาแน่นในพื้นที่ โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนมีความหนาแน่นสัตว์น้ำสูงสุดถึง 5,161 ตัว/1,000 ลบ.ม.

 

ประกอบกับจากสถิติผลจับสัตว์น้ำของเรือประมงพาณิชย์และพื้นบ้านทางฝั่งทะเลอันดามัน ในปี 2564 มีปริมาณผลการจับ 388,022 ตัน สูงกว่าปี 2560 อยู่ถึง 12,005 ตัน โดยเฉพาะผลการจับปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญ ในปี 2564 พบว่ามีปริมาณ 12,267 ตัน สูงกว่าเมื่อปี 2560 ซึ่งมีผลการจับเพียง 3,602 ตันเท่านั้น

 

"ปีนี้กรมประมงยังคงดำเนินมาตรการปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน ในช่วงเวลา พื้นที่ และเครื่องมือที่อนุญาตให้ใช้เช่นเดิม ตามประกาศกรมประมงฯ พ.ศ. 2561 คือ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ในเขตพื้นที่บางส่วนของภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร ตั้งแต่ปลายแหลมพันวา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถึงปลายแหลมหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง"

 

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ขอเน้นย้ำให้พี่น้องชาวประมงโปรดให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังการทำประมง โดยให้ทำประมงเฉพาะเครื่องมือที่ประกาศให้ใช้ได้เท่านั้น เครื่องมืออื่นๆ ห้ามทำโดยเด็ดขาด

 

หากผู้ใดฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสามสิบล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมง หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และต้องได้รับโทษทางปกครอง

 

สำหรับพิธีประกาศปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน มีการร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 620,000 ตัว ประกอบด้วย กุ้งกุลาดำ 300,000 ตัว ลูกพันธุ์ปูม้า 20,000 ตัว กุ้งแชบ๊วย 300,000 ตัว ลงสู่ทะเลกระบี่ เพื่อเพิ่มผลผลิตลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงจัดแสดงนิทรรศการความรู้ทางการประมง อาทิ การแสดงตัวอย่างสัตว์น้ำ ธนาคารปูม้า ปลาการ์ตูน การแจ้งเข้า-ออกเรือประมง ระบบติดตามเรือประมงและการตรวจสอบย้อนกลับที่มาของสัตว์น้ำ

โครงการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนประมงในพื้นที่ 6 จังหวัด ฝั่งอันดามัน การดำเนินการหลังจากการได้รับใบอนุญาตเรือประมงพาณิชย์ และการจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มชุมชนประมงพื้นบ้าน (Fisherman Market) อีกด้วย

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า กรมประมงมุ่งหวังให้มาตรการปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามัน เป็นกลไกหนึ่งในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำโดยอาศัยความตระหนักและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำที่คุ้มค่าและยั่งยืน สุดท้ายกรมประมงต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวประมงที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำเพื่อความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน และเกิดความมั่นคงในการประกอบอาชีพประมงต่อไป

สำหรับชนิดของเครื่องมือประมง วิธีการทำการประมง และเงื่อนไข ที่สามารถทำการประมงในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ ดังนี้

1.เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 14 เมตร และต้องทำการประมงในเวลากลางคืนนอกเขตทะเลชายฝั่ง

2.เครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตัก ทำการประมงเฉพาะในเวลากลางวัน และต้องทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

3.เครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีขนาดช่องตาอวน ตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป มีความยาวอวน ไม่เกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และเครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีช่องตาอวนตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป มีความยาวอวนเกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

4.เครื่องมืออวนปู อวนลอยกุ้ง อวนหมึก

5. เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

6.ลอบปูที่มีขนาดตาอวนโดยรอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ใช้ทำการประมงไม่เกิน 300 ลูก ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และลอบปูที่มีขนาดช่องตาท้องลอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

7.ลอบหมึกทุกชนิด

8.ซั้งทุกชนิดที่ใช้ประกอบทำการประมงพื้นบ้านในเขตทะเลชายฝั่ง

9.คราดหอยที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 18 เมตร มีความกว้างของปากคราดไม่เกิน 3.5 เมตร ช่องซี่คราดไม่น้อยกว่า 1.2 เซนติเมตร และจำนวนของเครื่องมือคราดหอยต้องไม่เกิน 3 อัน (หน่วย) ต่อเรือกล 1 ลำ ที่ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง

โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง รูปแบบ และพื้นที่ทำการประมงของเครื่องมือคราดหอยที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2560

10.อวนรุนเคย โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกตามความในมาตรา 68 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558

11.จั่น ยอ แร้ว สวิง แห เบ็ด สับปะนก ขอ ลอบ ฉมวก แผงยกปูจักจั่น

12.เครื่องมืออื่นใดที่ไม่ใช้ประกอบเรือกลขณะทำการประมง

13.การใช้เรือประมงที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส ที่ใช้เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้าไม่ถึง 280 แรงม้า ประกอบเครื่องมือทำการประมงอื่นใด โดยเครื่องมือที่ใช้ประกอบต้องไม่เป็นเครื่องมือประมงพาณิชย์ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดให้การใช้เรือประมงทุกขนาดประกอบเครื่องมือทำการประมงบางประเภทเป็นประมงพาณิชย์ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2560

และต้องไม่เป็นเครื่องอวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) และต้องไม่เป็นเครื่องมือที่ถูกห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมงและพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560

ทั้งนี้ การทำการประมงโดยใช้เครื่องมือในข้อ 3, 4, 5, 6 และ 7 จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 และจะต้องไม่เป็นเครื่องมือที่ห้ามใช้ทำการประมง ตามมาตรา 67 69 หรือ 71 (1) แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558

ข่าวที่เกี่ยวข้อง