สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งใน #Cactusบ้านๆ EP.VI วันนี้เรามากับพี่ใหญ่ ต้องเรียกพี่ใหญ่นะคะเพราะต้นเขามีขนาดใหญ่มาก เป็นไม้ที่มีอายุยาวนาน คืออยู่เป็นสิบ ๆ ปีค่ะ ความจริงแล้วเรามักจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเขาดี เราอาจจะเคยเห็นเขามาก่อนแต่มักไม่มีใครรู้ว่าเขาคือพืชที่อยู่ในวงศ์ของ Cactaceae อีกชนิดหนึ่ง เราจะรู้จักเขาในชื่อของ ใบเสมา หรือ นิ้วมือผีใบเสมา หรือ นิ้วมือผี ความจริงแล้วชื่อเต็มของเขาคือ Opuntia cochenillifera เราเรียกสั้น ๆ ว่า โอพันเทีย (เสมา) ส่วนมากในกลุ่มคนที่เลี้ยงแคคตัส เราจะเรียกในชื่อนี้กัน โอพันเทียนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์มาก แต่เมื่อคิดถึงสายพันธุ์นี้ เราจะคิดถึงโอพันเทียเสมาก่อนเป็นอันดับแรก ช่วงหลังมานี้โอพันเทียได้รับความนิยมกลับมาอีกครั้งในกลุ่มคนเลี้ยงแคคตัส ด้วยความที่อยากมีไว้ครอบครอง ยิ่งเลี้ยงยิ่งโตขยายใหญ่ขึ้น แตกหน่อแตกกอ ไม่ตายง่าย เลี้ยงง่ายมาก ดูแลไม่ลำบาก ปลูกทิ้งปลูกขว้างได้ นิยมปลูกให้เป็นแถว แนวรั้วรอบบ้าน ปลูกเป็นไม้ประดับต้นใหญ่ไว้กลางสวน โอพันเทีย หรือ Opuntia cochenilliferaชื่อทางวิทยาศาสตร์ Opuntia cochenillifera พืชในวงศ์ Cactaceaeโอพันเทีย มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง ลำต้นมีรูปร่างแบนและหนา ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ หรืออาจใหญ่กว่าถ้าสมบรูณ์ ตรงปลายด้านบนจะโค้งมน ส่วนด้านล่างจะมีขนาดเล็กกว่ามองดูคล้ายใบไม้ จะแตกยอดขึ้นด้านบนไปเรื่อย ๆ แยกแตกออกคล้ายใบหูกระต่าย ใบอ่อนจะยังเป็นสีเขียวสด แต่เมื่อมีอายุมากแล้วจะกลายเป็นสีน้ำตาล มีหนามอยู่เล็กน้อย หนามจะออกเป็นกระจุกขาวขึ้นตามตุ่มนูนบนใบ เมื่อจับอาจจะทำให้เกิดอาการคันได้ จะแตกต่างจากแคคตัสทั่วไป คือ จะไม่มีพู ไม่ค่อยอวบน้ำ ไม่เป็นปล้องกลม เมื่อเลี้ยงไปจนเขาโต ลำต้นจากตอนแรกเริ่มแบนหนา จะกลายเป็นลำต้นคล้ายต้นไม้ ใบของโอพันเทีย ที่แตกแยกออกมาเหมือนหูกระต่าย สามารถหัก หรือ ตัดออกมาปักชำ เพื่อขยายพันธุ์ได้เลย แคคตัสทั่วไปจะขยายพันธุ์ก็ต้องรอให้แผลจากการตัดแห้งก่อน ไม่อย่างนั้นหน่อที่ตัดมาอาจเน่าได้ มีความเสี่ยงสูงว่าไม่ติด แต่สำหรับโอพันเทียแล้ว ไม่ต้องกังวล เพราะเขาติดง่ายมาก ๆ แม้แต่ใบที่หักลงมาเองบนดิน เราลงปล่อยผ่านไปสักระยะก็เกิดต้นใหม่ขึ้นมาแล้ว ดังนั้นการขยายพันธุ์ของโอพันเทียนั้นง่ายมาก เขาทนแล้งและชอบแดดจัด โตได้ในทุกสภาพดิน ไม่ต้องรดน้ำบ่อย แต่จะโตได้ดีในดินที่ค่อนข้างโปร่งไม่แน่น ระบายน้ำค่อนข้างดี เลี้ยงแบบแดด 100 % ฝน 100 % ได้เลยเพราะถึกและทนมากโอพันเทียนั้น จะออกดอกตลอดทั้งปี หากต้นสมบูรณ์ แต่จะชอบฤดูหนาวเป็นพิเศษ ดอกจะเป็นดอกเดี่ยว ๆ มีทั้งสีแดง สีเหลือง เมื่อดอกเหี่ยวแห้งแล้ว สิ่งที่เหลือติดใบ คือ ผลกลม เราว่าคล้ายกับผลของแก้วมังกร ที่ตอนแรกจะยังคงเป็นสีเขียวเหมือนใบอยู่ แต่เมื่อแก่ได้ที่แล้วก็จะกลายเป็นสีแดงสุก สามารถนำเมล็ดที่อยู่ข้างในไปขยายพันธุ์ได้ โอพันเทียนั้นมีมานานแล้ว แต่ช่วง 1-2 ปีมานี้กลับไปรับความนิยม จากการที่ยูทูบเบอร์หลายคนนำใบมากิน หรือ นำผลมากิน แต่เราขอเตือนว่า อย่าคิดว่าทุกสายพันธุ์ของโอพันเทียนั้นสามารถนำมากินได้ ทั้งนี้เราไม่รู้จักเช่นกันว่าโอพันเทียในบ้านเราสายพันธุ์ไหนสามารถกินได้บ้าง แต่สำหรับโอพันเทียเสมานี้ เราไม่ขอแนะนำให้นำมากินทั้งใบทั้งผลนะคะ เพราะยังไม่ใครมารับรองว่าสามารถกินได้ มีบางที่นำไปเป็นส่วนผสมในตำรับยาโอพันเทีย ถ้าจะหาซื้อแนะนำให้หาซื้อทางออนไลน์ดีกว่า เราเดินดูตามตลาดต้นไม้ดูแล้วก็ไม่ค่อยมีใครนำมาขายอาจจะเป็นเพราะมีขนาดใหญ่ ราคาไม่สูง ทำให้ไม่คุ้มค่าและเคลื่อนย้ายลำบาก ส่วนใหญ่ที่จะนำมาขายกันก็คือใบ ราคาที่ขายในออนไลน์เราเห็นตั้งแต่ 5 -10 บาทต่อใบ แต่จะแพงตรงค่าขนส่ง เนื่องจากใบโอพันเทียมีน้ำหนักมาก 4 - 5 ใบก็หนักเป็นกิโลแล้ว ท้ายนี้หากบ้านใครมีพื้นที่ใหญ่พอที่จะเลี้ยงโอพันเทียได้ ให้เขาไปอยู่ในสวน เป็นกำแพงบ้าน หรือ แนวรั้วเก๋ ๆ เราขอแนะนำพี่ใหญ่ต้นนี้ให้มือใหม่ทุกคนเลี้ยงเลยค่ะ แล้วจะเห็นแต่การเติบโตของเขาโตวันโตคืน โตแล้วก็ยิ่งโตเข้าไปอีก จนต้องตัดทิ้งบ้างก็มี ลองซื้อมาเลี้ยงไว้สักต้นนะคะ เพื่อรอดูความอลังการใหญ่โตของเขากันค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ เครดิต : ภาพทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียนค่ะ