สหรัฐฯ พบโควิด-19 'พันธุ์ย่อยใหม่' ครองสัดส่วนป่วยใหม่ราว 70%

ลอสแอนเจลิส, 21 ธ.ค. (ซินหัว) -- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เปิดเผยคาดการณ์ล่าสุดว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีคิว.1 (BQ.1) และบีคิว.1.1 (BQ.1.1) อาจครองสัดส่วนรวมกันราวร้อยละ 70 ของผู้ป่วยใหม่ในสหรัฐฯ ช่วงสัปดาห์ล่าสุด

ศูนย์ฯ ระบุว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยบีคิว.1.1 อาจครองสัดส่วนราวร้อยละ 38.4 ของสายพันธุ์ที่กำลังระบาดช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ธ.ค. ขณะสายพันธุ์ย่อยบีคิว.1 คิดเป็นร้อยละ 30.7 โดยเชื้อไวรัสฯ ทั้งสองเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วมากตั้งแต่เดือนตุลาคมเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยทั้งสองข้างต้นแต่ละตัวครองสัดส่วนเพียงราวร้อยละ 1 ของผู้ป่วยใหม่ในสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม ก่อนจะระบาดหนักกลายเป็นสายพันธุ์หลักแทนที่สายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 นั้นครองสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของผู้ป่วยใหม่ช่วงสัปดาห์ล่าสุดขณะเดียวกันสายพันธุ์เอ็กซ์บีบี (XBB) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอน กำลังระบาดเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยครองสัดส่วนร้อยละ 7.2 ของผู้ป่วยใหม่ทั้งนี้ การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารเซลล์ (Cell) อ้างอิงคณะนักวิจัย ซึ่งค้นพบว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงวัคซีนโดสกระตุ้นตัวใหม่ที่มุ่งต้านสายพันธุ์โอไมครอนนั้นแทบจะไม่ส่งผลต่อสายพันธุ์ย่อยบีคิวและเอ็กซ์บีบี ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อและการติดเชื้อซ้ำ แม้ว่าวัคซีนจะสามารถป้องกันการเกิดอาการรุนแรงได้ก็ตาม