คลัง"ปฎิรูปภาษี"เก็บรายได้เพิ่ม 8 แสนล.

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างทำแผนปฏิรูปการจัดเก็บภาษีครั้งใหญ่ เพื่อเสนอให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาภายในปีงบประมาณนี้ ครอบคลุมทั้งภาษีสรรพากร ภาษีสรรพสามิต รวมถึงอากรนำเข้าศุลกากร 

โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจัดเก็บรายได้ต่อจีดีพีให้เพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันการจัดเก็บรายได้รัฐอยู่ที่ร้อยละ 12-13 ของจีดี เพิ่มเป็นร้อยละ 18 ของจีดีพี

ในแผนการปฏิรูปภาษีหากสามารถเก็บรายได้เพิ่มขึ้นร้่อยละ 5 จะทำให้คลังมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นได้อีก 800,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ลดปัญหาการขาดดุลงบประมาณ และทำให้สามารถจัดทำงบประมาณสมดุลได้เร็วขึ้น โดยถือเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องเร่งทำ

รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุด ครม.ได้มีมติให้กรมสรรพสามิต ขึ้นภาษีน้ำมันทุกประเภทเฉลี่ย 1 บาท ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มปีละ 34,800 ล้านบาท

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ครึ่งแรกของปีงบประมาณ 68 (ต.ค. 67-มี.ค. 68) กระทรวงการคลังสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิรวม 1.19 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,807 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2

และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26,503 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.3 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคภายในประเทศ และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ (รสก.) 

โดยรายได้จากภาษีรถยนต์ยังคงต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากการดำเนินมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้อัตราภาษีเฉลี่ยลดลงตามโครงสร้างภาษีใหม่

สำหรับการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมภาษี คือ สรรพากร สรรพสามิต และศุลกากร ในช่วงครึ่งปีแรก จัดเก็บรวมทั้งสิ้น 1.28 ล้านล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 38,263 ล้านบาท