สหรัฐยกระดับ Ransomware ให้เป็น "การก่อการร้าย"

"Ransomware" หรือ "มัลแวร์เรียกค่าไถ่" เป็นหนึ่งในปัญหาที่เหล่าบริษัทใหญ่กลางเล็กในปัจจุบันต่างหวาดกลัว เพราะบริษัทปัจจุบันส่วนใหญ่มีการเก็บข้อมูลเป็นแบบดิจิทัลทั้งหมด ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่ข้อมูลของบริษัทจะถูกดักจับ หรือถูกขโมยนำไปปล่อยจนบริษัทได้รับความเสียหายได้โดยง่าย 

อย่างล่าสุดกรณีของ Colonial Pipline บริษัทผู้ดูแลท่อส่งน้ำมันฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ก็ต้องจ่ายเงินค่าไถ่ข้อมูลไปมากถึง 5 ล้านดอลลาร์เพื่อกู้ระบบกลับมาโดยเร็ว หรือถ้าใครเคยดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง Start-Up มาก่อน จะพบได้ว่า Ransomware นอกจากจะทำให้บริษัทต้องเสียเงิน หรือเสียเวลาแล้ว สิ่งที่แย่ที่สุดคือทำให้ลูกค้าของบริษัทนั้นต้องเสียความเชื่อมั่น เพราะคงไม่มีใครดีใจที่ข้อมูลตัวเองต้องถูกคนอื่นขโมยไป แล้วนำไปแจกจ่ายจนเราเกิดความเสียหายได้

จากปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Colonial Pipline ทำให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ มองว่า Ransomware นั้นคือมหันตภัยในระดับ "การก่อการร้าย" ต้องเปลี่ยนแนวทางการสอบสวนใหม่ กลุ่มธุรกิจหลาย ๆ กลุ่มจะถูกจับตามองเป็นพิเศษมากขึ้น จากแนวทางการสอบสวนใหม่ ประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจที่หลบเลี่ยงโปรแกรมป้องกันไวรัส, เว็บบอร์ดใต้ดิน, ตลาดค้าเงินคริปโต, บริการโฮสต์เว็บแบบป้องกันลูกค้าจากกฎหมาย, บริการ Botnet, และบริการฟอกเงิน

แหล่งที่มา reuters.com