รายได้ที่มาจากภาคท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรปคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของ GDP รวมของ EU อีกทั้งสร้างรายได้ให้กับบุคคลากรที่ประกอบอาชีพในธุรกิจท่องเที่ยว เช่นพนักงานโรงแรม, ร้านอาหาร เป็นต้น การเดินทางท่องเที่ยวของประชากรในประเทศสมาชิกในปีที่ผ่านมามีประมาณ 267 ล้านคน หรือ 62 % ของจำนวนประชากรทั้งหมด และ 72 % เป็นการท่องเที่ยวในประเทศของตนและประเทศเพื่อนบ้านใน EU ดังนั้นธุรกิจท่องเที่ยวจึงเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของโควิท-19 ก่อนที่ฤดูท่องเที่ยวของยุโรปจะเริ่มต้น ซึ่งปกติผู้คนจะเริ่มเดินทางกันในมิถุนายน จนถึงเดือนสิงหาคม สหภาพยุโรปจึงได้มีการประชุมหารือเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อกำหนดมาตรากรและแนวทางในการปฏิบัติสำหรับประเทศสมาชิก ก่อนที่แต่ละประเทศจะเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในด้านสุขอนามัยเป็นอันดับหนึ่ง มาตรการแรกคือการเปิดพรมแดนให้ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างเสรีในประเทศสมาชิก EU รวมถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบายสำคัญที่จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวในยุโรป และจะช่วยให้ประเทศสมาชิกฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การกลับมาให้บริการด้านการเดินทาง ทั้งทางอากาศ, ทางบก, ทางน้ำ ระหว่างประเทศสมาชิกและในยุโรป ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งในส่วนของพนักงานที่ให้บริการและผู้โดยสาร บริการสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งด้านที่พักประเภทต่าง ๆ เช่น โรงแรม, เกสเฮ้าส์, ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ มีระบบการติดตามตัวนักท่องเที่ยว เช่น การใช้แอปพลิเคชัน เพื่อติดตามและแจ้งเตือน หากมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นในท้องถิ่น, โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ, ต้องใช้ด้วยความสมัครใจ, มีความโปร่งใส, ปลอดภัยในการแชร์ข้อมูล, เลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวตนได้ และคลอบคลุมทุกประเทศ การคืนเงินค่าบริการสำหรับนักท่องเที่ยวในการใช้บริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน, รถไฟ รถบัส หรือแพ็คเกจท่องเที่ยว หากไม่คืนเป็นเงินสด สามารถออกเป็นวอร์เชอร์จะต้องมีอะไรมาดึงดูดใจ และต้องมีอายุการใช้งานอย่างน้อยหนึ่งปี รวมทั้งต้องขอคืนเป็นเงินได้หากไม่ได้ใช้ภายในหนึ่งปี บางประเทศใน EU เริ่มมีการเปิดพรมแดนให้ประชาชนได้เดินทางไปมาหาสู่กันได้แล้ว ไม่ว่าจะไปพักผ่อนหรือเยี่ยมครอบครัว เช่น ประเทศเยอรมนี, ลักเซมเบิร์ก, ออสเตรีย และสวิสเซอร์แลนด์ ได้เปิดพรมแดนระหว่างประเทศแล้ว ทางการของอิตาลี ได้มีการประกาศออกว่าจะเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 3 มิถุนายน เป็นต้นไปโดยไม่จำเป็นต้องมีการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เข้าประเทศ และนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างอิสระไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ ประเทศต่อมาที่เปิดให้มีการท่องเที่ยวในประเทศแล้วคือ ฝรั่งเศสและกรีซ ซึ่งเริ่มต้นจากการเปิดให้ประชาชนไปพักผ่อนยังชายหาดหลายแห่งได้แล้ว แต่ก็ยังต้องมีการปฏิบัติตามคำแนะนำขอรัฐบาลในเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม ประเทศออสเตรีย เริ่มจากอนุญาตให้ร้านอาหารกลับมาเปิดได้บ้างแล้วในเวียนนา ประเทศสวีเดน ประกาศว่าจะยังคงปิดพรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้านไปจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน ประเทศโปแลนด์ จะยังไม่เปิดพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เยอรมนี, ลิทัวเนีย, สาธารณะรัฐเช็ค และสโลวาเกีย ไปจนถึงวันที่ 12 มิถุนายน ในขณะที่รัฐบาลของประเทศอื่น ๆ ที่อยู่นอกเขต EU ขอให้พลเมืองของตนจำกัดหรืองดการเดินทางไปยังต่างประเทศไว้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอิตาลี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากการระบาดของโควิท-19 มากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง (รองจากสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร) สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากประเทศสมาชิก EU และจำเป็นต้องขอวีซ่าก่อนที่เดินทาง ก็ยังคงต้องรอฟังประกาศจาก EU ต่อไปว่าจะมีการเปิดให้ยื่นขอวีซ่าอีกเมื่อใด ซึ่งหากการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศสมาชิก EU ไม่ทำให้เกิดการกลับมาระบาดซ้ำของโควิท-19 เราอาจจะได้กลับไปเที่ยวยุโรปก่อนสิ้นปี 2020 ก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในนาทีสุดท้าย ซึ่งเราสามารถติดตามข่าวสารได้จากเว็บไซด์อย่างเป็นทางการของ EU https://ec.europa.eu โดยความเห็นส่วนตัวแล้วเราคิดว่าการที่บางประเทศในยุโรปมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวจากในโซนยุโรปเอง เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวในยุโรปด้วยกันได้ มีข้อดีคือ ลดความเครียดของประชาชนในประเทศ หลังจากที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านเป็นเวลานาน และก่อให้เกิดรายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจท่องเที่ยว แต่อาจมีข้อเสียได้หากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะทำให้เกิดการกลับมาระบาดได้อีกเป็นรอบที่สอง สำหรับประเทศไทย โดยความเห็นส่วนตัวแล้วเราคิดว่ามาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลใช้อยู่ในขณะนี้ค่อนข้างดีและรัดกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เทคโนโลยีช่วยในการลงทะเบียนเข้าใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ (ไทยชนะ) และกำลังเข้าสู่ระยะที่สามของการปลดล็อดดาวน์ ซึ่งหากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยเป็นศูนย์รัฐบาลคงจะพิจารณาให้ประชาชนได้เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวได้อีกครั้ง รวมถึงการเปิดใช้สนามบินในจังหวัดภูเก็ต, เมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ และสายการบินต่าง ๆ กลับมาให้บริการในทุกเส้นทางบิน ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป ติดตามบทความอื่นจากผู้เขียน ได้ที่ https://creators.trueid.net/@3741