10 วิธีลดขยะในชุมชน มีอะไรบ้าง จากเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ขยะ คือ สิ่งของหรือเศษวัสดุเหลือใช้ หรือสิ่งที่เราไม่ต้องการและต้องมีการกำจัดทิ้ง อาจเกิดจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การบริโภคอาหาร การผลิตสินค้า หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยหลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า ขยะสร้างปัญหาให้กับโลกของเรามากมาย เพราะขยะแต่ละชนิดมีผลกระทบที่แตกต่างกันไป เช่น เมื่อขยะอินทรีย์ย่อยสลายจะปล่อยก๊าซมีเทนออกมา ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน กองขยะอินทรีย์จะเป็นแหล่งอาหารของสัตว์พาหะ เช่น แมลงวัน หนู ซึ่งเป็นพาหะนำโรคต่างๆ มาสู่คน เมื่อขยะรีไซเคิลถูกทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ จะเกิดการย่อยสลายและปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายออกมา ทำให้แหล่งน้ำเสีย ขยะรีไซเคิลที่ไม่ได้นำกลับมาใช้ใหม่ จะเป็นการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาผลิต ขยะทั่วไปที่ถูกฝังกลบจะใช้เวลานานในการย่อยสลาย ทำให้ดินเสื่อมโทรมและไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ การเผาขยะทั่วไปจะปล่อยควันพิษและฝุ่นละอองออกมา สร้างมลพิษทางอากาศและส่งผลต่อสุขภาพของคน ขยะอันตรายมีสารเคมีที่เป็นพิษสูง หากรั่วไหลหรือถูกเผาจะก่อให้เกิดมลพิษอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ขยะอันตรายบางชนิดอาจระเบิดหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้หากสัมผัสโดยตรง ปัญหาขยะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้าอยู่ และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเราอย่างมาก การลดปริมาณขยะจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนต้องให้ความสนใจและร่วมมือกันแก้ไขค่ะ เพราะการลดปริมาณขยะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะของภาครัฐและชุมชน อีกทั้งการลดปริมาณขยะเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นหลัง ดังนั้นในบทความนี้เราจะรู้วิธีการลดปริมาณขยะที่เริ่มต้นจากชุมชนของเรานะคะ ดังข้อมูลที่น่าสนใจต่อไปนี้ 1. แยกขยะตั้งแต่ต้นทาง การแยกขยะตั้งแต่ต้นทางเป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม การมีส่วนร่วมของทุกคนในชุมชนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนให้กับเราและลูกหลาน ซึ่งการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในการลดปริมาณขยะในชุมชนค่ะ การแยกขยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการีไซเคิล เมื่อขยะถูกแยกประเภทอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้นทาง โรงงานรีไซเคิลสามารถนำวัสดุรีไซเคิลแต่ละประเภทไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการคัดแยกและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เมื่อมีวัสดุรีไซเคิลที่มีคุณภาพสูงเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลมากขึ้น ก็จะช่วยลดต้นทุนในการจัดการขยะของเทศบาล เมื่อมีการคัดแยกขยะที่เพิ่มขึ้นช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบ เพราะเมื่อมีการนำวัสดุรีไซเคิลไปใช้ประโยชน์มากขึ้น ปริมาณขยะที่ต้องนำไปฝังกลบก็จะลดลงตามไปด้วยค่ะ ทำให้หลุมฝังกลบมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น การหันมาแยกขยะ การแยกขยะเป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกคน การส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการแยกขยะ จะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับคนในชุมชน และเมื่อทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการลดขยะ ชุมชนก็จะกลายเป็นชุมชนที่น่าอยู่และยั่งยืน 2. ลดการใช้กล่องโฟม การลดการใช้กล่องโฟมเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการช่วยลดปริมาณขยะในชุมชนของเราค่ะ และที่การลดการใช้กล่องโฟมจึงสำคัญ นั่นก็เป็นเพราะว่า กล่องโฟมทำมาจากโพลีสไตรีน ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่ใช้เวลานานหลายร้อยปีในการย่อยสลาย ทำให้กลายเป็นขยะที่กองทับถมและสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม เมื่อกล่องโฟมถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม จะแตกตัวเป็นชิ้นเล็กๆ กระจายไปทั่ว ทำให้สัตว์ป่ากินเข้าไปและเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ การเผาไหม้กล่องโฟมยังปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การผลิตกล่องโฟมต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก ทั้งน้ำมันและพลังงาน ซึ่งการลดการใช้กล่องโฟมจะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบ ลดความต้องการพื้นที่ในการจัดการขยะ และช่วยยืดอายุของหลุมฝังกลบ การลดปริมาณกล่องโฟมที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม จะช่วยลดมลพิษทางดิน น้ำ และอากาศ การลดการผลิตกล่องโฟมจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน และช่วยชะลอการเกิดภาวะโลกร้อน การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง หรือกล่องกระดาษที่สามารถย่อยสลายได้ จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการลดการใช้กล่องโฟมเป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในชุมชน ซึ่งวิธีที่ช่วยลดการใช้กล่องโฟม ได้แก่ นำกล่องอาหารกลับมาใช้ซ้ำ: หากมีกล่องอาหารที่ทำจากวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น กล่องสแตนเลส หรือกล่องแก้ว ควรนำกลับมาใช้ซ้ำให้มากที่สุด ปฏิเสธกล่องโฟมเมื่อซื้ออาหาร: เมื่อซื้ออาหารจากร้านค้า ควรปฏิเสธการใช้กล่องโฟม และนำภาชนะของตัวเองไปใส่แทน สนับสนุนร้านค้าที่ไม่ใช้กล่องโฟม: เลือกอุดหนุนร้านค้าที่ไม่ใช้กล่องโฟม หรือร้านค้าที่ให้เราสามารถนำภาชนะของตัวเองไปใส่ได้ ร่วมกิจกรรมรณรงค์: ร่วมกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้กล่องโฟมในชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนรอบข้าง 3. ลดการใช้หลอด การผลิตหลอดพลาสติกต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน และปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมา และถึงแม้ว่าหลอดจะมีขนาดเล็ก แต่เมื่อคูณด้วยจำนวนคนที่ใช้หลอดทุกวัน ก็จะกลายเป็นขยะจำนวนมหาศาลที่ต้องจัดการ การลดการใช้หลอดเป็นหนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถทำได้เพื่อช่วยลดปริมาณขยะและปกป้องสิ่งแวดล้อม หลอดพลาสติกส่วนใหญ่ทำมาจากโพลีโพรพิลีน ซึ่งเป็นพลาสติกที่ใช้เวลานานหลายร้อยปีกว่าจะย่อยสลายได้ ทำให้กลายเป็นขยะที่กองทับถมและสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม หลอดพลาสติกจำนวนมากถูกทิ้งลงสู่ทะเลและมหาสมุทร ทำให้สัตว์ทะเล เช่น เต่าทะเล โลมา และปลา กินเข้าไปโดยเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร ซึ่งอาจทำให้สัตว์เหล่านี้บาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตได้ ดังนั้นการลดการใช้หลอดจะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ลดความต้องการพื้นที่ในการจัดการขยะ และช่วยยืดอายุของหลุมฝังกลบ จะช่วยลดมลพิษทางทะเล และปกป้องระบบนิเวศทางทะเล ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน และช่วยชะลอการเกิดภาวะโลกร้อน การเลือกใช้หลอดที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หลอดกระดาษ หรือหลอดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดการใช้หลอดเป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในชุมชนได้ และวิธีที่ช่วยลดการใช้หลอด เช่น พกแก้วน้ำส่วนตัว: การพกแก้วน้ำส่วนตัวไปด้วยทุกครั้ง จะช่วยให้คุณปฏิเสธการใช้หลอดได้ เลือกซื้อเครื่องดื่มที่ไม่มีหลอด: เลือกซื้อเครื่องดื่มที่บรรจุในขวดหรือแก้ว หรือเครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้โดยตรง สนับสนุนร้านค้าที่ไม่ใช้หลอด: เลือกอุดหนุนร้านค้าที่ไม่ใช้หลอด หรือร้านค้าที่ให้เราสามารถนำภาชนะของตัวเองไปใส่ได้ ร่วมกิจกรรมรณรงค์: ร่วมกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้หลอดในชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนรอบข้าง 4. ลดการใช้ถุงพลาสติก การลดการใช้ถุงพลาสติกเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการช่วยลดปริมาณขยะและปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราต่างก็รู้กันแล้วว่า ถุงพลาสติกใช้เวลานานในการย่อยสลาย จากที่ถุงพลาสติกส่วนใหญ่ทำมาจากพลาสติกชนิดที่ใช้เวลานานหลายร้อยปีกว่าจะย่อยสลายได้ ทำให้กลายเป็นขยะที่กองทับถมและสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม ถุงพลาสติกก่อให้เกิดมลพิษ เพราะเมื่อถุงพลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อมจะแตกตัวเป็นชิ้นเล็กๆ กระจายไปทั่ว ทำให้สัตว์ป่ากินเข้าไปโดยเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร ซึ่งอาจทำให้สัตว์เหล่านี้บาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตได้ การหันมาลดการใช้ถุงพลาสติกจะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ลดความต้องการพื้นที่ในการจัดการขยะ และช่วยยืดอายุของหลุมฝังกลบ การลดปริมาณถุงพลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม จะช่วยลดมลพิษทางดิน น้ำ และอากาศ การลดการผลิตถุงพลาสติกจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน และช่วยชะลอการเกิดภาวะโลกร้อน การเลือกใช้ถุงผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตัวอย่างสำหรับแนวทางที่ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก มีดังนี้ พกถุงผ้าติดตัว: การพกถุงผ้าติดตัวไปทุกครั้ง จะช่วยให้คุณปฏิเสธการรับถุงพลาสติกได้ เลือกซื้อสินค้าที่บรรจุภัณฑ์น้อย: เลือกซื้อสินค้าที่บรรจุภัณฑ์น้อย หรือสินค้าที่บรรจุในภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ สนับสนุนร้านค้าที่ไม่ใช้ถุงพลาสติก: เลือกอุดหนุนร้านค้าที่ไม่ใช้ถุงพลาสติก หรือร้านค้าที่ให้เราสามารถนำภาชนะของตัวเองไปใส่ได้ ร่วมกิจกรรมรณรงค์: ร่วมกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกในชุมชน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนรอบข้าง 5. เพิ่มนำกลับมาใช้ซ้ำ การนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำเป็นแนวคิดง่ายๆ แต่ทรงพลังที่สามารถสร้างผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของเราค่ะ เมื่อเรานำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำ ก็เท่ากับว่าเราลดปริมาณขยะที่ต้องถูกทิ้งไป ซึ่งจะช่วยลดภาระในการจัดการขยะของชุมชน การผลิตสินค้าใหม่ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก การนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำจึงช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน พลังงาน และวัตถุดิบต่างๆ กระบวนการผลิตสินค้าใหม่มักก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน การนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำจึงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การซ่อมแซมสิ่งของที่เสียหายหรือการนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำ มักจะใช้จ่ายน้อยกว่าการซื้อสินค้าใหม่ การนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสร้างขยะ เมื่อเรานำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำ ปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้หลุมฝังกลบมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยวิธีการนำกลับมาใช้ซ้ำในชีวิตประจำวันง่ายๆ เช่น ซ่อมแซมสิ่งของที่เสียหาย: ก่อนที่จะทิ้งสิ่งของใดๆ ลองพิจารณาซ่อมแซมดูก่อน อาจจะแค่เปลี่ยนอะไหล่เล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำให้สิ่งของกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง นำขวดแก้วมาใช้ใหม่: นำขวดแก้วที่ใช้แล้วมาล้างทำความสะอาด แล้วนำมาใช้บรรจุน้ำดื่ม น้ำผลไม้ หรือใช้เป็นแจกันดอกไม้ นำวัสดุเหลือใช้มาประดิษฐ์: นำวัสดุเหลือใช้ เช่น กล่องกระดาษ ขวดพลาสติก มาสร้างสรรค์เป็นงานฝีมือ หรือของใช้ต่างๆ ได้ แบ่งปันสิ่งของที่ไม่ได้ใช้: หากมีเสื้อผ้า เครื่องใช้ หรือของเล่นที่ไม่ได้ใช้แล้ว สามารถนำไปบริจาคให้กับผู้ที่ต้องการได้ ซื้อสินค้ามือสอง: การซื้อสินค้ามือสองเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดปริมาณขยะและประหยัดเงิน 6. เพิ่มการรีไซเคิล การรีไซเคิล คือ กระบวนการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นวิธีการจัดการขยะที่สำคัญและมีประสิทธิภาพอย่างหนึ่ง การเพิ่มการรีไซเคิลในชุมชนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน การรีไซเคิลช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบ ซึ่งจะช่วยยืดอายุของหลุมฝังกลบและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการฝังกลบ เช่น การปล่อยก๊าซมีเทน การหันมารีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกระบวนการผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน เกิดการสร้างงาน เพราะอุตสาหกรรมรีไซเคิลสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชน เมื่อมีการนำวัสดุรีไซเคิลไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ปริมาณขยะโดยรวมในชุมชนก็จะลดลง การส่งเสริมการรีไซเคิลจะช่วยสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับคนในชุมชน และวิธีการรีไซเคิลที่ถูกต้อง คือ แยกขยะ: แยกขยะรีไซเคิลออกจากขยะทั่วไป เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ ล้างทำความสะอาด: ล้างขยะรีไซเคิลให้สะอาดก่อนนำไปรีไซเคิล นำส่งยังจุดรับซื้อ: นำขยะรีไซเคิลไปส่งยังจุดรับซื้อของรีไซเคิล เช่น ธนาคารขยะ หรือศูนย์รีไซเคิลชุมชน 7. ทำปุ๋ยหมัก การทำปุ๋ยหมักเป็นวิธีการจัดการขยะอินทรีย์อย่างชาญฉลาดที่ช่วยลดปริมาณขยะในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบแล้ว ยังได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงไปใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชอีกด้วยค่ะ การนำเศษอาหารและเศษใบไม้มาทำปุ๋ยหมัก จะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงสู่หลุมฝังกลบ การทำปุ๋ยหมักเป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน และส่งเสริมให้คนในชุมชนหันมาให้ความสำคัญกับการลดปริมาณขยะ การมีส่วนร่วมในการทำปุ๋ยหมักจะช่วยสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืน การทำปุ๋ยหมักเป็นกิจกรรมที่ง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทุกคนสามารถทำได้ที่บ้าน หรือร่วมกันทำในชุมชน และการทำปุ๋ยหมักเป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนที่ดีทั้งต่อตัวเราและสิ่งแวดล้อมค่ะ 8. ลดการบริโภค การลดการบริโภคเป็นวิธีการที่ตรงจุดที่สุดในการลดปริมาณขยะ เพราะเมื่อเราลดการซื้อของที่ไม่จำเป็นลง ก็จะลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นตามมาด้วย เมื่อเราซื้อของน้อยลง ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นก็จะลดลงตามไปด้วย ทั้งบรรจุภัณฑ์และตัวสินค้าเอง การผลิตสินค้าต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก การลดการบริโภคจึงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การผลิตและการขนส่งสินค้าก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก การลดการบริโภคจึงช่วยลดภาวะโลกร้อน และวิธีลดการบริโภคเพื่อลดปริมาณขยะ ตัวอย่างเข่น ซื้อของตามความจำเป็น: ก่อนซื้ออะไร ควรพิจารณาให้ดีว่าจำเป็นต้องใช้จริงหรือไม่ มีสิ่งของที่คล้ายกันอยู่แล้วหรือเปล่า เลือกซื้อสินค้าที่บรรจุภัณฑ์น้อย: เลือกซื้อสินค้าที่บรรจุภัณฑ์น้อยที่สุด หรือสินค้าที่บรรจุภัณฑ์สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ใช้แล้วทิ้ง: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทนทานและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น ถุงผ้า แก้วน้ำส่วนตัว ซ่อมแซมสิ่งของ: ก่อนทิ้งสิ่งของที่เสียหาย ลองพิจารณาซ่อมแซมดูก่อน แบ่งปันสิ่งของ: หากมีสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว สามารถนำไปบริจาคหรือแบ่งปันให้กับผู้อื่น ซื้อสินค้ามือสอง: การซื้อสินค้ามือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดการผลิตสินค้าใหม่ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ: ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทั้งหมดในทันที เริ่มต้นจากการลดการใช้สิ่งของที่ไม่จำเป็นเพียง 1-2 อย่างก่อนก็ได้ วางแผนการซื้อ: ก่อนไปซื้อของ ควรทำลิสต์รายการสิ่งที่ต้องการซื้อ เพื่อป้องกันการซื้อของเกินความจำเป็น เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ: การเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสินค้า และลดความจำเป็นในการซื้อสินค้าใหม่บ่อยๆ 9. ปลูกผักสวนครัว หลายคนยังมองภาพไม่ออกว่า นอกจากการปลูกผักสวนครัวจะเป็นกิจกรรมที่สนุกและได้ผักปลอดสารพิษมาบริโภคแล้ว ยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะในชุมชนได้อีกด้วยนะคะ เมื่อเราปลูกผักเอง ก็จะลดการซื้อผักจากตลาดลง ซึ่งหมายถึงการลดปริมาณบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ห่อหุ้มผัก ผักที่ปลูกเองมักจะสดใหม่กว่า ทำให้เราสามารถบริโภคได้หมด ไม่เหลือทิ้งเป็นขยะอาหาร เศษอาหารและเศษใบไม้จากการดูแลสวนผัก สามารถนำมาทำปุ๋ยหมักได้ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ ซึ่งการปลูกผักสวนครัวเป็นกิจกรรมที่ง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทุกคนสามารถทำได้ที่บ้าน และเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการลดปริมาณขยะในชุมชนของเราค่ะ 10. สร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชน การสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาขยะ เพราะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแต่ละบุคคล จะส่งผลโดยรวมต่อปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในชุมชนได้อย่างมาก การสร้างจิตสำนึกจะกระตุ้นให้คนในชุมชนตระหนักถึงปัญหาขยะ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การลดการใช้พลาสติก การคัดแยกขยะ และการนำขยะไปรีไซเคิล เมื่อคนในชุมชนมีความตระหนักร่วมกัน จะเกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาขยะ การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการขยะ จะทำให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว และวิธีการสร้างจิตสำนึกให้คนในชุมชน เช่น จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้: อบรมเชิงปฏิบัติการ: เช่น การทำปุ๋ยหมัก การทำของใช้จากวัสดุรีไซเคิล กิจกรรมสร้างสรรค์: เช่น การวาดภาพ การเขียนบทกลอนเกี่ยวกับปัญหาขยะ การแข่งขัน: เช่น การแข่งขันออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดโครงการแข่งขันทำป้ายประชาสัมพันธ์: การจัดโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนในชุมชนได้คิดสร้างสรรค์ และนำเสนอแนวคิดในการลดขยะ ร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น: จัดทำโครงการร่วม: เช่น โครงการชุมชนไร้ขยะ โครงการธนาคารขยะ ประชาสัมพันธ์นโยบาย: ประชาสัมพันธ์นโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการขยะ ใช้สื่อสังคมออนไลน์: สร้างเพจหรือกลุ่มในโซเชียลมีเดียเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ เชิญผู้ที่มีชื่อเสียงมาร่วมกิจกรรม: เช่น นักแสดง นักร้อง หรือผู้ที่มีชื่อเสียงในด้านสิ่งแวดล้อม มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ จัดกิจกรรมทำความสะอาดชุมชน: เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและสร้างความภาคภูมิใจร่วมกัน และนั่นคือแนวทางลดการเกิดขยะในชุมชนของเราค่ะ ที่จะว่าไปก็เป็นเรื่องใกล้ตัวเราทั้งนั้น โดยหลายแนวทางในนี้ผู้เขียนก็ได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ ตั้งแต่คัดแยกขยะที่ขายได้เอาไว้ขาย ปลูกผักสวนครัวภายในบ้าน ใช้กระเป๋าผ้าเวลาไปตลาด ปฏิเสธถุงพลาสติกเมื่อไม่จำเป็น และยังได้ทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารด้วย โดยจะเป็นปุ๋ยหมักใต้ดินที่มีถังพลาสติกฝังลงไปใต้ดินหลักค่ะ แต่ถ้าคุณคุณผู้อ่านสนใจทำปุ๋ยหมักแบบน้ำ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นลองนำวิธีการต่างๆ ในบทความนี้ไปปรับใช้ในชุมชนของเรากันค่ะ โดยให้เริ่มจากที่บ้านาของเราก่อน เมื่อทุกบ้านร่วมด้วยช่วยกัน ชุมชนของเราของจะสามารถลดขยะได้อย่างชัดเจนขึ้นนะคะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Thirdman จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย StockSnap จาก Pixabay, ภาพที่ 2 โดย Anna Szentgyörgyi จาก Unsplash และภาพที่ 3-4 โดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://news.trueid.net/detail/nxlJQYaPLKoy https://news.trueid.net/detail/Yg9y61ozbXog https://news.trueid.net/detail/eqGWa7Kr8N1q เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !