นี่เป็นคำถามสุดฮิตของใครหลายๆคน เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งหลายปี ทำไมถึงไม่เก่งขึ้นสักที ทำไมเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้าเลย?อันดับแรกเราอยากให้ทุกคนตอบตัวเองก่อนว่า นิยามคำว่า “เก่งภาษาอังกฤษ” ของคุณคืออะไร และ คุณเรียนภาษาอังกฤษไปทำไม การที่คุณสามารถตอบคำถามสองข้อนี้ได้จะทำให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่วแน่มากกว่าการพูดแค่ว่า “อยากจะเก่งภาษาอังกฤษ”การเรียนภาษาภาษานึงนั้นต้องใช้เวลาและความอดทน เพราะฉะนั้นการมีเป้าหมายที่แน่ชัดจะช่วยไม่ให้คุณรู้สึกท้อและล้มเลิกที่จะเรียนไปก่อน หลายคนเรียนภาษาอังกฤษมานานหลายปีแต่รู้สึกว่าไม่มีอะไรคืบหน้าเลย วันนี้เราจะมาแชร์แนวคิดที่เราใช้พัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองให้ทุกคนลองอ่านดูค่ะอย่าถามหาวิธีลัดมีเพื่อนหลายคนมาถามเราว่า ทำไมเราถึงได้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษดีตลอด ทำไมถึงพูดอังกฤษเก่งจัง ต้องทำยังไง อ่านหนังสือเล่มไหน เรียนพิเศษกับใคร ช่วยบอกเคล็ดลับหน่อยสิเอาจริงๆเราไม่รู้จะตอบยังไง เราไม่มีเคล็ดลับ เราไม่ได้เรียนพิเศษ ไม่ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ ทุกครั้งที่เพื่อนถามเราก็ตอบไปตามความเป็นจริงว่า ตั้งแต่เด็ก เราดูหนัง ฟังเพลง อ่านการ์ตูน อ่านนิยายที่เป็นภาษาอังกฤษ ทุกๆวันรอบตัวเราเต็มไปด้วยภาษาอังกฤษ มันเป็นวิธีพื้นฐานที่หลายๆคนก็รู้ แต่การจะทำวิธีนี้จนเห็นผลได้นั้น คุณจะต้องทำมันเป็นกิจวัตร จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ ซึ่งหลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษอาจมองว่ามันยากเกินไปที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง หลายคนพยายามหาวิธีลัด ซึ่งเราขอบอกเลยว่าการเรียนภาษานั้นไม่มีวิธีลัด นอกเสียจากว่าจุดประสงค์ของคุณคือเรียนเพื่อไปสอบ ฉะนั้นลองถามตัวเองก่อนว่า ตกลงคุณอยากเก่งภาษาอังกฤษจริงๆหรือคุณแค่อยากสอบผ่านกันแน่ เปลี่ยน mindset ของคุณจากการพูดคุยกับเพื่อนๆทำให้เราสังเกตได้ว่า เพื่อนหลายคนมีมุมมองในการเรียนภาษาอังกฤษต่างจากเรา แทนที่จะมองภาษาอังกฤษเป็น “ภาษา” พวกเขากลับมองมันเป็น “วิชา” ซะงั้นพวกเขานั่งอ่านหนังสือเรียน นั่งท่องศัพท์ ทวนชีทเรียนพิเศษ หมกมุ่นอยู่กับแกรมม่า แล้วก็คิดกับตัวเองว่าทำไมภาษาอังกฤษมันยุ่งยากอย่างนี้นะ ทำไมมันซับซ้อน มีกฎไวยากรณ์เยอะแยะเต็มไปหมด กลัวจะเขียนผิด พูดผิด ทำให้รู้สึกท้อ บางคนก็ถึงขั้นเกลียดและล้มเลิกที่จะเรียนไปในที่สุด หากคุณกำลังมีความรู้สึกเหล่านี้แล้วล่ะก็ ลองเปลี่ยนมุมมองและวิธีการเรียนดูไหม?เราเองก็อ่านหนังสือเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกัน ซึ่งมันก็มีส่วนช่วยในเรื่องของไวยากรณ์และคำศัพท์ต่างๆ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษ การใช้ชีวิตอยู่กับภาษาอังกฤษต่างหากคือสาเหตุที่แท้จริง และเราคิดว่ามันเป็นวิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว ไม่ใช่ท่องจำ แต่ซึมซับการเรียนภาษาไม่ใช่การ “ท่องจำ” เสมอไป ภาษาไทยที่คุณใช้กันทุกวันนี้คุณได้จำมันหรือไม่ คำตอบคือไม่ คุณไม่ได้ “จำ” แต่สมองคุณค่อยๆ “ซึมซับ” มันเข้าไปเอง เพราะคุณใช้มันในทุกๆวันมาตั้งแต่เด็กลองนึกถึงคนที่ไปเรียนต่างประเทศ หรือเด็กฝรั่งตัวน้อย พวกเขาจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ไวมาก นั่นก็เพราะสภาพแวดล้อมบังคับให้เค้าเรียน ทุกคนรอบตัวเค้าพูดภาษาอังกฤษ สิ่งรอบตัวเค้าเป็นภาษาอังกฤษ เค้าไม่ต้องมานั่งท่องศัพท์ ท่องแกรมม่า สมองเค้าซึมซับเข้าไปเองโดยอัตโนมัติ เราใช้หลักการเดียวกันในการเรียนภาษาอังกฤษ เราไม่ได้อยู่ต่างประเทศก็จริง ไม่ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ แต่เราสร้างสภาพแวดล้อมขึ้นมาเอง โดยการนำภาษาอังกฤษเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา ทุกๆวันเราใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะดูหนัง ดูยูทูป อ่านนิยาย เขียนไดอารี่ หรือแม้กระทั่งเวลาคิดในใจเราก็คิดเป็นภาษาอังกฤษ มีใจรักการเรียนภาษาอังกฤษก็เหมือนกับการเรียนภาษาอื่นๆ คือ คุณต้องมีใจรักมัน ในเมื่อสภาพแวดล้อมเราไม่ได้เอื้อแก่การเรียนรู้เท่าคนที่อยู่ต่างประเทศ เราก็ต้องบังคับตัวเองให้สร้างสภาพแวดล้อมนั้นขึ้นมาแทน การทำสิ่งนี้อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยและขัดใจในตอนแรก เพราะแทนที่คุณจะเปิดหนังพากย์ไทย คุณต้องเปิดพากย์อังกฤษ แทนที่คุณจะอ่านหนังสือแปลภาษาไทย คุณต้องอ่านเป็นภาษาอังกฤษ ชีวิตประจำวันของคุณจะถูกแทนที่ด้วยภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะรู้สึกเคยชินกับมัน สมองคุณจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษในทุกๆวันโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นต้องใช้เวลาและความอดทน การที่ใครสักคนจะเก่งภาษาอังกฤษนั้นไม่สามารถทำได้ภายในข้ามคืน ต้องใช้เวลาเป็นเดือน เป็นปีหากใครกำลังรู้สึกท้อ เหนื่อย หรือคิดว่าทำไมการเรียนภาษามันยากจัง ก็ขอให้รู้ไว้ว่ามันไม่แปลกเลยที่คุณจะรู้สึกแบบนั้น การเรียนภาษาที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อนหรือไม่คุ้นชินกับมันนั้นไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วย แต่ก็อย่าลืมไปว่าไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว มีคนกำลังเรียนภาษาไปพร้อมๆกับคุณหลายล้านคนทั่วโลก และพวกเขาทุกคนก็คิดเหมือนกันว่าการเรียนภาษานั้นยากและมีช่วงเวลาที่รู้สึกท้อ แต่หลายคนก็ประสบความสำเร็จสุดท้ายนี้เราก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ เราเชื่อว่าหากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีใจรัก และมีความอดทน การเรียนภาษานั้นก็ไม่ยากเกินความสามารถของคุณแน่นอน เราขอเป็นกำลังใจให้ค่ะเครดิตรูปภาพรูปปก : CHARLOTTE (ผู้เขียน)รูปประกอบ :รูปที่1 : Anna Shvets / Pexelsรูปที่2 : Andrea Piacquadio / Pexelsรูปที่3 : Tatiana Syrikova / Pexelsรูปที่4 : Martijn Adegeest / Pexelsรูปที่5 : Kampus Production / Pexels*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565