การสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยมีความหมาย เราต้องได้ฝึกการใช้ชีวิตหลากหลาย เปลี่ยนมุมมองเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนสไตล์ มุ่งสู่ชีวิตเป็นผู้ใหญ่ที่มากกว่า หากชีวิตไม่มีหวังอย่างที่คิด เราจะมีชีวิตที่ลำบากมากกว่าไหนไหน ฝึกการคิดตัดสินใจอย่างง่ายกัน ให้ความสุขในชีวิตที่ฝันพลันเติบโต สอบตรง ก่อนที่เรานั้นจะเดินทางเข้ามหาวิทยาลัยนั้น จากการที่เรานั้นเรียนในระดับมัธยมศึกษานั้น เรามีการเรียนที่มีในส่วนของการดูแลจากครูมากกมาย แต่เมื่อเรานั้นตะต้องเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาหรือเรานั้นเรียกกันว่า ในระดับมหาวิทยาลัย สิ่งที่เรานั้นจะต้องรู้คือ การรู้จักตัวเอง อย่างแรกที่เราจะต้องเตรียมในการ ในการที่จะสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเราจะต้องรู้ รู้จักตัวเองว่าอนาคตนั้นเราอยากที่จะเป็นอะไร อยากประกอบอาชีพอะไรเพื่อที่เรานั้นจะได้รู้ในการเรียนต่อที่ถูกทางเส้นทางมที่ถูกต้อง อาจจะยังไม่ใช่เอาเพียงแต่เรานั้นชอบ เมื่อรู้จักตัวเองแล้วสิ่งต่อมาคือไปดูในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ในการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นหากว่าเรานั้นต้องการที่จะเป็นครูจะชัดเจนในเรื่องของการสมัครเข้าในคณะนั้นมากกว่า อย่างคณะนั้นคือศึกษาศาสตร์ หรือคุรุศาสตร์ได้ทั้งหมด ในส่วนต่อมาคือ การเลือกในสาขาที่ตนเองนั้นสนใจที่จะเรียน อย่างแรกคือความชอบ ชอบในรายวิชาอะไร ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ สังคม ประถมศึกษา เป็นต้น จากนั้นก็เลือกเรียน สิ่งสำคัญต้องดูในวิชาที่ตนเองจะเรียน หากว่าเข้าไปเรียนแล้วต้องเลือกวิชาเลือกในการเรียนด้วย ในการเลือกในวิชาเลือกจะต้องแนะนำจากรุ่นพี่ว่า การเรียนในวิชาไหนที่จะให้เกรดนั้นดี ไม่ยากเท่าไหร่ แต่ให้เกรดง่ายจะแนะนำในการเรียนในรายวิชานั้น 1. ค้นหาตัวเองให้เจอ นักเรียนชั้น ม.6 ที่เรียนจบอาจจะยังไม่รู้จักตัวเองว่าอยากที่จะเรียนอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่าจะเข้าเรียนในสาขาไหน ต้องสอบเข้าคณะอะไรเพราะว่าเรานั้นอาจจะยังไม่คิด และหากว่าเป็นผู้ปกครองนั้นเราไม่สามารถที่จะไปคิดแทนได้เลย หากว่าบอกว่าสอบตามที่พ่อแม่นั้นแนะนำ เป็นความคิดที่ผิดจะทำให้ไม่ส่งผลต่ออนาคตของผู้เรียน หากว่าเรียนไปแล้วจะเรียนไม่ได้ต้องมานั่งเสียเวลาอีก จบมาไม่มีงานทำ จะยากต่อการทำงานอีกชีวิตไม่ราบรื่น 2. หาข้อมูลในการสอบและเรียนต่อ หากว่ารู้จักตัวเองแล้วว่าอยากที่จะเรียนในคณะอะไร มหาวิทยาลัยนั้นสอนอะไรบ้าง รู้ในเรื่องของวิธีในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นสาขานั้นสามารถที่จะเลือกได้ในหลายงาน หลายทาง การสอบผ่านในระบบการสอบกลาง ในปัจจุบันนี้มีการเข้าถึงในเรื่องของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นศูนย์กลาง สามารถที่จะค้นหาข้อมูล จะต้องเรียนรู้ในเรื่องของการแต่งกายด้วยในแต่ละคณะจะมีการแต่งกายที่ไม่เหมือนกัน แต่ละวันและในแต่ละวิชาใส่อะไรบ้าง ต้องซื้ออะไรบ้างเราจะต้องสนในในเรื่องเหล่านี้ด้วยเพื่อที่จะมีความเหมือนเพื่อนจะได้ไม่เขินในการไปร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อนรูเมทที่ดีจะต้องชวนเรานั้นทำงานเรียน ไม่ใช่ชวนที่จะเที่ยวกลางคืน ต้องรู้จักคบเพื่อน 3. ปรึกษาและคุยกับรุ่นพี่ การพูดคุยกับรุ่นพี่นั้นมีความสำคัญจะเห็นได้ว่าในโรงเรียนที่มีนักเรียนที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยนั้นจะมีรุ่นพี่นั้นมาแนะนำในการเรียนว่าต้องการเรียนอะไรอย่างไหนนั้นดีกว่า บอกในเรื่องของการเรียน เข้าเรียนแบบไหน ในสาขานี้ต้องเรียนอะไรบ้าง เมื่อได้ฟังจะได้ช่วยในการตัดสินใจว่าใช่ทางของเรานั้นหรือไม่ การส่งงานแบบไหนรองรับอย่างไร เป็นสิ่งที่ต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจ 4. จัดตารางการอ่านหนังสือ ในการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยนั้น สิ่งที่แตกต่างในการเรียนในระดับโรงเรียนคือ ความรับผิดชอบ ในการเรียนในการอ่านหนังสือนั้นจะอยู่ที่เราเอง เวลาในการเรียนเรียนในชั่วโมงมีการส่งงาน เมื่อส่งงานเสร็จแล้วในการสอบเราจะต้องอ่านให้รอบด้านในวิชานั้นเพราะว่าอาจารย์นั้นจะไม่บอกว่าจะออกข้อสอบตรงไหน ออกอะไรบ้าง เราต้องอ่านและทำความเข้าใจในสิ่งที่เรียนมาทั้งหมด แล้วนำมาสรุปเพื่อที่จะเตรียมสอบ ในการอ่านหนังสือสอบส่วนมากจะอ่านทั้งคืนหรือเตรียมตัวมากกว่าหนึ่งอาทิตย์ก่อนถึงวันสอบ และต้องดูในส่วนของตารางในอินเทอร์เน็ตในรหัสส่วนตัวของเรา เรื่องของคะแนน เกรด และงานค้างทั้งหมดเลย 5. การติดตามเรื่องของการเรียนการสอน ในการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น จะไม่มีใครมาคอยตามว่าเรานั้นไม่ได้ส่งงานชิ้นไหน ไม่ได้ทำอะไรกิจกรรมอะไร แต่ว่าคะแนนนั้นจะมีการโชว์ในระบบส่วนตัวของเราเอง ว่าไม่ได้ส่งงานนี้นะไม่มีคะแนน เราเองจะต้องตามและสอบถามกับครูผู้สอนเองเพื่อให้ลงระบบให้ ความรับผิดชอบนั้นจึงต้องมีมากหากว่าไม่มีการติดตาม เมื่อถึงเวลาในการให้เกรดนั้นเราจะมาแก้ปัญหาไม่ทันเวลาได้ และในวิชาไหนที่เรานั้นลงเรียนแล้วไม่สามารถที่จะเรียนได้เราต้องไปหยุดในการเรียนไว้ เพราะหากว่าเราไม่ทำอาจจะทำให้รายวิชานั้นของเราดึงคะแนนลงมาได้ ทำให้เกรดของเราตกไม่สามารถที่จะมาแก้ปัญหาได้ 6. พี่รหัส น้องรหัส ป้ารหัส ระบบครอบครัว เมื่อเรานั้นมาเรียนที่มหาวิทยาลัย เราจะมีพี่รหัสของแต่ละคน อาจจะไม่ใช่คนที่อยู่ในสาขาหรือคณะเดียวกันได้ เพราะว่าเรานั้นอาจจะเจอในวันที่มีการรับน้องของสาขา หรือของมหาวิทยาลัย พี่รหัสนั้นจะช่วยในการแนะนำในเรื่องของการเรียน ว่าเรียนวิชาไหนลงเรียนอย่างไรบ้าง เพราะว่าทุกอย่างนั้นอยู่ในระบบทั้งหมด อย่างปีแรกนั้นพี่จะช่วยในการลงวิชาเรียน และเขานั้นจะบอกว่าวิชาเรียนนี้เรียนอยู่ที่ไหน ห้องอะไร ในวันแรกนั้นพี่รหัสจะไปส่งเรียนถึงห้อง และหากว่าเรานั้นมีปัญหาอะไรสามารถที่จะถามพี่รหัสของเรานั้นได้เลย เขาจะปล่อยเราต่อเมื่อเรานั้นอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว 7. การเข้าร่วมกิจกรรมของทางชมรม ของคณะ เชียร์ การแต่งกาย แน่นอนว่าในการเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นเราไม่รู้จักใคร จะต้องมีในส่วนของการร่วมกิจกรรมที่เรานั้นต้องเข้า จะต้องมีชมรมในตอนที่เรานั้นเรียนด้วย จะต้องมีกิจกรรมในการทำร่วมกับนักศึกษา มีความเป็นระเบียบในการเข้าเรียน ชุดนิสิตต้องเต็มยศและให้เกียรติในสถานที่ที่เรานั้นเรียนด้วย ไม่เอาแต่ใจตนเองดูแลตนเองให้ดีที่สุดใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยน้อย 8. เรื่องของความรับผิดชอบ ในการเรียนนั้นเราจะต้องเข้าเรียนตรงเวลา และเข้าเรียนทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย และตามส่งงานเองตามที่ครูนั้นสั่ง เรียนพิเศษออนไลน์ https://ttid.co/UAnK/73au7wen ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน ภาพปกจาก Canva เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !