ทำไมสัตว์ถึงมีทั้งก้าวร้าวและไม่ก้าวร้าว ?หลายๆครั้งที่เราได้เห็นลิงที่มีทั้งพฤติกรรมก้าวร้าวและไม่ก้าวร้าว บางครั้งก็เกิดความสงสัยว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์ข้อมูลที่จะบ่งบองถึงพฤติกรรมของสัตว์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ไปกันเลยฟรังส์ เดอ วัล ยังได้ชี้ให้เห็นว่าหากจะเทียบกันแล้ว มีการศึกษาเรื่องการหลีกเลี่ยงความก้าวร้าว การใฝ่หาสงบ และการประนีประนอมทั้งในหมู่สัตว์หรือมนุษย์น้อยมาก ในการเฝ้าดูชิมแปนซีในสวนสัตว์อาร์นเฮมในปี ค.ศ.1975 นักวิจัยเห็นลิงตัวหนึ่งทำร้ายลิงอีกตัว แต่พอถึงช่วงพักการวิวาทเจ้าลิงสองตัวที่เป็นต้นเหตุก็กลับมากอดกันและจูบกัน พอนักวิจัยรับรู้เรื่องดังกล่าวและตระหนักในทันใดว่านั่นคือการคืนดี นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาจึงสังเกตเห็นว่าฝ่ายก้าวร้าวกับเหยื่อกลับมาคืนดีกันจนเป็นเรื่องธรรมดาทีเดียว ปรากฏการณ์นี้ชัดเจนจนยากที่จะคิดว่า เขาและนักวิทยาศาสตร์ว่าด้วยพฤติกรรมของสัตว์คนอื่นเป็นสิบๆคนทีเดียวที่มองข้ามเรื่องดังกล่าวได้อย่างไรเป็นเวลานาน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?เราคิดว่าจากการวิจัยของเขาสามารถบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของสัตว์ได้อย่างชัดเจน เราคิดว่ามีความเป็นไปได้เพราะ ช่วงฤดูกาลสืบพันธุ์ พฤติกรรมทางเพศเพื่อแสดงความต้องการการยอมรับในสังคม รวมทั้งสภาพที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหาร เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการแสดงออกของ พฤติกรรมก้าวร้าวในลิง แต่พฤติกรรมนี้กลับพบมีการแสดงออกในเพศเมียอย่างเข้มข้น เมื่อเผชิญหน้ากับลิงชนิดอื่นที่เข้ามาในพื้นที่ ในขณะที่เพศผู้ใช้การสังเกตการณ์ มากกว่าก้าวร้าวโดยทันทีสรุปใจความสำคัญจากการรวบรวมข้อมูลของเราก็มีมาสรุปได้ประมาณนี้ เราคิดว่ามันอาจเกิดกลไกทางสรีรวิทยาในร่างกาย ตอบสนองต่อปัจจัยที่เหนี่ยวนำให้เกิดการแสดงออกของพฤติกรรมที่แตกต่างกันความก้าวร้าวนั้น จะเห็นได้ชัดเจนต่อกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม (mammal) เหตุที่เกิดจากสัญชาติญาณในตัวสัตว์เองและการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศ ในบางครั้งความก้าวร้าวมีส่วนเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสมดุลของระดับฮอร์โมน ซีโรโทนินในร่างกายด้วยอีกทางหนึ่ง ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการแสดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึก โดยซีโรโตนินจะทำงานเฉพาะ ในบริเวณสมองส่วนกลาง (brain rewards system) และขัดข้องเมื่อ การควบคุมสมดุลเปลี่ยนแปลงไปในช่วงที่สัตว์มีภาวะเครียด (stress)ทำนองเดียวกันเราจะไม่มีวันเข้าใจความก้าวร้าว ความโหดร้าย หรือการมีอำนาจเหนือและแรงดึงดูดของมันที่มีต่อสัตว์และมนุษย์จนกว่าเราจะเข้าใจแง่มุมด้านอารมณ์ของสรรพสัตว์เครดิตภาพภาพหน้าปก : Spykerf1 / pixabayภาพที่ 1 : Alexas_Fotos / pixabayภาพที่ 2 : Pixel-mixer / pixabayภาพที่ 3 : Pixel-mixer / pixabayภาพที่ 4 : blickpixel / pixabayอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !