บทความนี้จะพูดถึง ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล ที่ครอบครัวเราได้รับมาจากรัฐบาล ที่นึกเขียนก็เพราะบังเอิญว่านั่งอ่าน facebook ที่เพจของหมอดังท่านหนึ่ง ในคอมเม้นต์มีคนเขียนเอาไว้ว่า “ใครมียารักษาโรคเบาหวาน ความดัน เส้นเลือดตีบบ้าง เพราะต้องการนำไปให้แม่” เราถึงกับต้องรีบเขียนตอบไปทันทีว่า ให้พาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน อาการที่เขียนมา แม่ของคุณจะได้รับการรักษาฟรี ส่วนยาก็จะได้รับอย่างต่อเนื่องแบบฟรีด้วย...จากเหตุการณ์ดังกล่าว เราจึงมานั่งคิดว่า น่าจะยังมีคนอีกมาก ที่ไม่รู้ว่าตนเองและครอบครัวมีสิทธิฟรีอะไรบ้าง? และ/หรือ รู้ว่ามีสิทธิต่าง ๆ แต่ก็ไม่ได้พาคนในครอบครัวไปหาหมอ ด้วยเหตุผลที่เราก็อาจรู้ได้ ดังนั้น เราจึงขอนำประสบการณ์ในครอบครัวมาเล่าสู่กันฟังนะคะ1. ฟรี! ค่ารักษาพยาบาล ค่ายา แถมส่งยาให้ฟรีถึงบ้านประสบการณ์นี้ต้องบอกว่าสด ๆ ร้อน ๆ เพราะอยู่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 และพ่อมีนัดเจาะเลือดในเดือนเมษายน 2563 อาการไม่ด่วนรักษา ทางโรงพยาบาลลำปาง จึงโทรมาแจ้งว่าจะส่งยาให้ถึงบ้านฟรี และเลื่อนนัดการเจาะเลือดออกไปอีกประมาณ 3 เดือน จากนั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์ ก็มีกล่องยามาส่งถึงหน้าบ้าน และฟรี 100% แต่หากเราต้องการบริจาคช่วยเหลือค่าส่ง ทางโรงพยาบาลก็มีช่องทางให้เราได้บริจาคด้วย2. ฟรี! อุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับผู้พิการเนื่องจากพ่อเราป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย 80% สิ่งที่ได้รับอนุเคราะห์ตามสิทธิคนพิการคือ รถเข็น ไม้เท้า 3 ขา และชุดประคองเท้า แม่เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนแม่แจ้งไปที่ อบต.หมู่บ้าน รอมาเป็นปีไม่เคยได้รับ วันหนึ่งพาพ่อไปโรงพยาบาล แม่จึงถามพยาบาลเกี่ยวกับอุปกรณ์เหล่านี้ พยาบาล (รพ.ลำปาง) ใจดีมาก ๆ แนะนำเป็นอย่างดี ว่าต้องไปติดต่อที่ไหน เสร็จสรรพจากธุระอื่น ๆ แล้ว เรากับแม่จึงพาพ่อไปหาหมอที่ห้องกายภาพทันทีวิธีการไม่มีอะไรมากค่ะ ยื่นบัตร แจ้งอาการต่าง ๆ แล้วทางโรงพยาบาลจะออกเอกสารมาให้ เราก็พาพ่อไปตรวจกับหมอที่ห้องกายภาพโดยตรง แจ้งความต้องการกับหมอ ว่าต้องการอะไรบ้าง หมอจะช่วยทำการวิเคราะห์และแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมให้ เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ ส่วนการใช้งาน เราต้องช่วยรัฐด้วยการดูแลอุปกรณ์เป็นอย่างดีด้วยนะคะ เพราะชุดที่กล่าวมานี้ บ้านเรากว่าจะไปขอใหม่ ก็ใช้เวลากว่า 10 ปีเลยทีเดียว ทนทานมากค่ะ3. ฟรี! ค่ารักษาพยาบาลและค่ายา (นอกพื้นที่)เนื่องจากพ่อเรามียาเกี่ยวกับโรคอัมพฤกษ์ ที่รักษาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ตามปกติแล้วนอกเขตจังหวัด (ลำปาง) จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง แต่ปลายปี 2562 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทางโรงพยาบาลถามสิทธิที่ผ่านมา ว่าได้รับการช่วยเหลืออะไรมาแล้วบ้าง เราตอบว่าไม่ได้รับสิทธิอะไรเลย แม้กระทั่งสิทธิคนพิการ เพราะอยู่นอกพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า จากนี้ต่อไปจะได้รับความช่วยเหลือแล้วนะ โดยใช้สิทธิคนพิการได้ เรากับแม่ยิ้มออกเลยทันที เพราะจ่ายเงินทีก็ครึ่งหมื่นอยู่เหมือนกัน (สำหรับ 3 เดือน)จะเห็นว่าทั้ง 3 ฟรี! ที่ครอบครัวเราได้รับความช่วยเหลือมา ทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก จะมีก็แต่ค่าเดินทางเท่านั้น พอถึงเวลาต้องเดินทางไปเชียงใหม่ เราจะพาพ่อไปด้วยทั้ง ๆ ที่หมอก็บอกว่าไม่ต้องพามาก็ได้ แต่ใจเรากับแม่อยากพาพ่อไปนั่งรถเล่นเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง แกจะได้ผ่อนคลาย จึงตอบหมอแบบเลี่ยง ๆ ไปว่า อยู่บ้านกลัวว่าพ่อจะแกจะเหงาค่ะ (^_^) ทั้งหมดนี้ จริง ๆ แล้วรัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลอย่างดีในระดับหนึ่ง เราจึงไม่ค่อยเห็นด้วย กับผู้ที่ปล่อยให้ตนเองเจ็บป่วยเลยเถิดโดยใช่เหตุ (สุขภาพควรสำคัญที่สุด) และหลายครั้งที่เรากับแม่ ต้องคอยบอกคนแถวบ้านให้ไปโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาฟรี หากพิการก็สามารถขออุปกรณ์ช่วยเหลือตามอาการได้ด้วย เพราะบางคนใช้ไม้ไผ่เป็นไม้เท้า ซึ่งแลดูจะอันตรายกับคนแก่ แต่ก็เห็นใจ เพราะหากคนในครอบครัวไม่เอาใจใส่ คนแก่ก็พลาดสิทธิที่ควรจะได้ไปอย่างน่าเสียดายเช่นกันบทความน่าอ่าน :- แหล่งเงินทุนสำหรับผู้พิการ กู้ยืมเงิน 5 ปี ไม่มีดอกเบี้ย 100%- แชร์เรื่องดี ๆ : วิกฤติไวรัสโควิด-19 กับการช่วยเหลือผู้พิการ (ทั้งก่อนและหลังการระบาด)เครดิตภาพ : ภาพปก DarkoStojanovic / ภาพที่ 6 Myriams-Fotos / ภาพที่ 7 valelopardo / ภาพที่ 8 fernandozhiminaicela