พุทธศาสนาสอนให้เราเข้าใจในความจริงที่ว่า ทุกสิ่งที่เราปรารถนาจะสำเร็จได้ด้วยความเพียรพยายาม การพึ่งดวง พึ่งโชคคงไม่ก่อให้เกิดผลสำเร็จใด ๆ ขึ้นได้เลย หากปราศจากการลงมือทำเสียแล้ว แม้ในเส้นทางอันแสนยาวไกลของชีวิตจะต้องพบเจอทั้งเรื่องที่ทำให้เป็นสุข ทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง ดีใจ เสียใจ แต่ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาล้วนแต่ทำให้เราเติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น เราไม่อาจเลือกได้ว่าขอให้ชีวิตนี้พบเจอแต่สิ่งที่ดี มีแต่ความสุข หากแต่เราเลือกได้ที่จะเตรียมพร้อมและฝึกใจให้มีวิธีรับมือกับเรื่องที่ไม่พึงปรารถนาอย่างมีสติและผู้มีปัญญา เพื่อการเข้าใจในชีวิตอย่างแท้จริง และวันนี้ผู้เขียนได้นำหนังสือธรรมะประยุกต์ที่อ่านแล้วรู้สึกดีมาแบ่งปันเป็นพลังบวกให้กับทุกท่านค่ะหนังสือก้าวต่อไปให้ถึงจุดหมาย ราคา 25 บาท (จากปกติ 100 บาท)ภาพถ่ายโดยผู้เขียนหนังสือธรรมะเล่มนี้ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของนิทาน เรื่องเล่าที่แฝงไปด้วยแง่คิดที่ให้แรงบันดาลใจ โดยพระมหาอ้าย ธีรปัญโญ พระนักเขียนและเป็นพระธรรมทูตพิเศษประเทศอินเดีย - เนปาล ซึ่งมีการจัดพิมพ์ขึ้นโดยสำนักพิมพ์บุ๊คสไมล์ ผู้เขียนชอบอ่านหนังสือธรรมะที่สอดแทรกแนวคิดในหลายแง่มุม ผ่านเรื่องเล่าในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเรื่องราวที่มาจากประสบการณ์ตรงและเรื่องราวที่เป็นเรื่องเล่าในแบบของนิทาน เวลาผู้เขียนไปเจอหนังสือธรรมะเล่มเล็ก ๆ จากที่ใดก็มักจะซื้อมาอ่านเพื่อขัดเกลาจิตใจให้ดียิ่งขึ้นและเติมพลังบวกให้ตัวเอง ด้วยเนื้อหาที่กระชับและเข้าใจง่าย ในราคาที่แสนถูกผู้เขียนจึงชอบซื้อสะสมหนังสือแบบนี้ไว้มากเป็นพิเศษ นอกจากเนื้อหาจะให้ทั้งข้อคิดและความรู้สึกที่ดีแล้ว ยังได้แนวทางไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วยนะคะ เนื้อหาธรรมะจากหนังสือเล่มนี้จะเริ่มตั้งแต่การทำให้เราตระหนักได้ว่าตัวเราเองสามารถมีความสุขที่แท้จริงได้จากสิ่งที่อยู่รอบตัว สิ่งที่เรามีอยู่แล้วมิใช่การไปไขว่คว้าหาความสุขจากสิ่งที่เราขาด ซึ่งมีแต่จะทำให้เราเกิดความทุกข์ขึ้นในใจ ทุกข์จากสิ่งที่เราอยากได้แต่ไม่อาจหามาได้ สุดท้ายแล้วเราทุกคนสามารถเลือกได้เองว่าจะมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่หรือจะเลือกเป็นทุกข์กับสิ่งที่ขาดไป การฉลาดใช้ชีวิตและไม่ลุ่มหลงยึดติดสิ่งใด ปล่อยวางได้ง่าย จะทำให้ชีวิตของเรานั้นพบเจอกับความสุขได้ง่าย แม้พบเจอความทุกข์ก็สุขได้เร็วขึ้นภาพถ่ายโดยผู้เขียนและในส่วนของการใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขอยู่ร่วมกับผู้คนมากมายในสังคมสิ่งที่เราควรมีคือหลักธรรมของพรหมวิหาร 4 อันประกอบไปด้วย1.เมตตา การรักใคร่ ปรานี อยากให้เขามีความสุข2.กรุณา มีใจอยากช่วยให้เขาพ้นทุกข์ 3.มุทิตา การยินดีเมื่อผู้อื่นมีสุข4.อุเบกขา การวางใจให้เป็นกลาง เที่ยงธรรมดุจตราชั่ง ไม่เอนเอียงด้วยรักและชังนอกจากนี้สิ่งที่ควรมีอีกหนึ่งอย่างคือการเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน สังคมของเราคงสงบสุขมิได้หากผู้คนไม่เคารพและให้เกียรติกัน จงสร้างหัวใจให้ยิ่งใหญ่และเปิดกว้าง พร้อมรับในสิ่งที่ทำให้เป็นสุขและสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์เสมอ เมื่อถึงคราวเหนื่อยก็ให้หยุดพัก หนักก็จงปล่อยวาง พบทางให้รีบเดินและเมื่อเผชิญภัยให้ตั้งสติ ชีวิตของเราที่แท้จริงนั้นไม่ได้ยุ่งยากมากมายอะไร แต่จิตที่ปรุงแต่งต่างหากทำให้มันยุ่งเสียเองในส่วนของความรักที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของมนุษย์เป็นอย่างมาก อยากให้ทุกคนพึงตระหนักไว้เสมอว่าความรักก็เหมือนเม็ดทรายในกำมือหากกำแน่นไปเม็ดทรายก็จะค่อย ๆ ร่วงหล่นลงไปสู่พื้น หากกำหลวมไปมันก็หล่นร่วงหายวับไปอีก ดังนั้นจงทำทุกอย่างด้วยความพอดี การที่คนสองคนมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันสิ่งที่ต้องมีไม่แพ้ความรักคือความเข้าใจในตัวของกันและกัน บนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ คู่รักทุกคู่ต้องปรับจูนเข้าหากันตลอดชีวิต ดังนั้นจงรักอย่างมีสติและยึดติดให้น้อยลง เมื่อนั้นเราจะเป็นคนที่รู้รักอย่างแท้จริงภาพถ่ายโดยผู้เขียนมนุษย์ทุกคนเปรียบเสมือนนักท่องเที่ยวบนโลกคนหนึ่ง ที่แวะเวียนกันมาพักเพียงชั่วครั้ง ชั่วคราว ไม่มีใครที่จะอาศัยอยู่บนโลกนี้ได้อย่างถาวร ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นมา ตั้งอยู่และดับไปเป็นสัจธรรมที่แท้จริงของโลก ไม่ว่าวันนี้คุณจะสุขหรือทุกข์ความรู้สึกในใจเหล่านั้นจะหายไปและเกิดขึ้นใหม่อย่างนี้วนไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่คุณยังมีลมหายใจ ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชีวิตของคุณยังต้องไปต่อ คุณยังต้องก้าวต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งเพื่อตัวของคุณเองและเพื่อคนที่คุณรัก ดังนั้นหากวันนี้มีเรื่องที่ทำให้คุณทุกข์ใจก็ขอให้หยุดคิดสักนิด ตั้งสติให้ดี เมื่อสติมาปัญญาจะเกิด แล้วจึงค่อย ๆ ทบทวนวิธีแก้ไขปัญหา โปรดรู้ไว้ว่าทุกอย่างมีคำตอบของมันเสมอ ขอแค่คุณไม่ยอมแพ้แล้วเส้นทางที่คุณเดินจะไม่มีทางตัน