พาณิชย์" ชู 3 เรื่องดันไทยยืนอย่างแข็งแกร่งในตลาดโลก

นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาเรื่อง " พลวัตเศรษฐกิจโลกกับโจทย์ใหญ่ของประเทศกำลังพัฒนา" ในงานเสวนาจับตาอนาคตเศรษฐกิจโลก - ประเทศกำลังจะพัฒนาไปทางไหน? จัดโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา หรือ ITD

โดย ยอมรับว่าการค้าโลกอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ จากปัจจัยการแข่งขันด้านเทคโนโลยีของประเทศมหาอำนาจ แนวนโยบายการค้าที่ยึดโยงกฎระหว่างประเทศน้อยลง เปลี่ยนเป็นการเจรจาระหว่างประเทศมากขึ้น 

และประเทศกำลังพัฒนาจะต้องประตัวเข้าสู่มาตรฐานใหม่มากขึ้น โดยโจทย์สำคัญ ของประเทศไทยคือจะมีที่ยืนอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างไร

ดังนั้นงานในวันนี้จะเป็นข้อมูลที่สำคัญ ที่จะช่วยให้กระทรวงพาณิชย์นำไปประยุกต์ใช้ และดำเนินนโยบายต่อไป เช่น การนำเสนอผลงาน เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ FTA การวัดความพร้อมของไทยในการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว หรือการใช้ประโยชน์จากระเบียงเศรษฐกิจ เป็นต้น

สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ 1. ต้องพิจารณาว่าสินค้าและบริการที่ไทยผลิตตามความต้องการของตลาดโลก มีเอกลักษณ์และสร้างมูลค่าเพิ่ม จะสามารถสร้างงาน และรายได้ให้กับคนไทยได้ เช่น สินค้าเกษตรนวัตกรรม ที่สามารถสร้างรายได้ให้คนไทย และขายในตลาดโลกได้ 

ขณะเดียวกันก็สามารถทำควบคู่ไปกับการลงทุนด้าน Data Center ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมทั้ง ระบบการขนส่ง ไฟฟ้า ทักษะแรงงาน โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งศึกษาการเพิ่มสัดส่วนไฟฟ้าสะอาดใน Data Center เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนในชุมชนและสิ่งแวดล้อม  

และ 2. คือการปรับมาตรฐานสินค้า เช่น สิ่งแวดล้อม แรงงาน การตรวจสอบวัตถุดิบต้นน้ำ-ปลายน้ำ

ที่ผ่านมา ภาครัฐและธุรกิจไทยได้มีการปรับตัวอยู่แล้ว แต่รูปแบบการค้าที่นำโดยสหรัฐ เป็นตัวเร่งให้ปรับตัวเร็วขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีกว่าที่ผ่านมา อย่างมีคุณภาพ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ต้องการลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป เช่น การเร่งเจรจากับ EU โดยต้องการกระจายให้คนไทยขายสินค้ากับ EU ได้มากขึ้นและดึงดูดให้ EU เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น การเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ แรงงานไทย และช่วยให้ธุรกิจไทยผนวกห่วงโซ่การผลิตของโลกมากขึ้น