ผู้นำโลกประณามม็อบหนุน “โบลโซนาโร” บุกสภาบราซิล
---ม็อบหนุนโบลโซนาโร บุกสภาบราซิล ไม่รับผลเลือกตั้ง---
ผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดี “ฌาอีร์ โบลโซนาโร” สวมชุดสีเหลืองและเขียว ซึ่งเป็นสีเดียวกับธงชาติบราซิล นำกำลังบุกเข้าทำลายข้าวของภายในทำเนียบประธานาธิบดีบราซิล อาคารรัฐสภา และที่ทำการศาลสูง ในกรุงบราซิเลียเมืองหลวงของบราซิลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลครั้งล่าสุด ที่จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่โบลโซนาโร พ่ายแพ้ให้กับ “ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา” หรือ “ลูลา” ผู้นำฝ่ายซ้าย
ภาพหลักฐานต่าง ๆ พบว่า ผู้สนับสนุนโบลโซนาโรพากันทุบทำลายหน้าต่างและเฟอร์นิเจอร์ ของอาคารรัฐสภาและที่ทำการศาลสูง ปีนหลังคารัฐสภาและติดป้ายเรียกร้องให้กองทัพบราซิลเข้าแทรกแซงสถานการณ์
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงต้องใช้แก๊สน้ำตาผลักดันผู้ประท้วงออกไป ซึ่งคาดว่ามีราว 3,000 คน และมีผู้ถูกจับกุมแล้วราว 200 คน
การก่อจลาจลดังกล่าว กินเวลาประมาณสามวันชั่วโมง และเกิดขึ้น 1 สัปดาห์หลัง “ลูลา” สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา
---ลูลาชี้ ม็อบถูกกระตุ้นจากสื่อสังคมออนไลน์---
ด้าน “ลูลา” ได้ประกาศใช้อำนาจทางกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงนำกำลังเข้าแทรกแซงสถานการณ์ เพื่อควบคุมความสงบในเมืองหลวงแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคมนี้
ในการแถลงข่าว ลูลาตำหนิโบลโซนาโร และมาตรการรักษาความปลอดภัยในเมืองหลวงที่หย่อนยาน และตำหนิเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้กลุ่มคนนาซี พาสซิสต์ และคนบ้าคลั่ง ก่อความวุ่นวายที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ลูลา ซึ่งไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงขณะเกิดเหตุ ยังกล่าวว่า คนเหล่านี้จะต้องถูกพบตัวและนำมาลงโทษ
ผู้นำบราซิลคนปัจจุบันยังกล่าวด้วยว่า ม็อบถูกกระตุ้นมาจากสื่อสังคมออนไลน์จากไมอามี ซึ่งหมายถึง โบลโซนาโรที่ขณะที่อยู่ในไมอามี เขากล่าวว่า ทุกคนรู้ว่ามีวาทกรรมมากมายของอดีตประธานาธิบดีที่กระตุ้นให้เกิดเหตุการณ์นี้
---โบลโซนาโรยืนยัน ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุจลาจล---
ด้าน “โบลโซนาโร” ซึ่งยังไม่เคยประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ทวีตข้อความว่า ลูลากล่าวหาเขาโดยไร้หลักฐาน เขาไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว และเขามองว่า การประท้วงแบบสันติถือเป็นส่วนหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย แต่การบุกรุกเข้าไปยังอาคารรัฐบาลถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ
ทั้งนี้ โบลโซนาโร ออกเดินทางจากบราซิลไปยังรัฐฟลอริดา ในสหรัฐฯ ราว 48 ชั่วโมงก่อนวาระการดำรงตำแหน่งของเขาจะสิ้นสุดลง และไม่ได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนของลูลา
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้คนหวนนึกถึงเหตุการณ์ผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกยึดอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันดีซี เมื่อวันที่ 6 มกราคมปี 2021 หลังทรัมป์กล่าวหาว่า เขาถูกโกงการเลือกตั้งโดยไร้หลักฐานยืนยัน ซึ่งในวันดังกล่าว รัฐสภาสหรัฐฯ มีกำหนดรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงพยายามขัดขวาบรรดาสมาชิกรัฐสภา
---ผู้นำโลกประณามม็อบบุกสภาบราซิล---
ขณะที่บรรดาผู้นำทั่วโลก ต่างประณามเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมชาวบราซิลที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งนำกำลังบุกอาคารรัฐบาลแห่งต่าง ๆ ในบราซิล พร้อมประกาศสนับสนุนรัฐบาลบราซิลในการดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้
โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ทวีตข้อความว่า เขาขอประณามการโจมจีประชาธิปไตย และการเปลี่ยนถ่ายอำนาจอย่างสันติในบราซิล สาหรัฐฯ จะสนับสนุนสถาบันต่าง ๆ ของบราซิลอย่างเต็มที่ และต้องมีการปกป้องเจตนารมณ์ของประชาชน
ทั้งนี้ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เรียกร้องโบลโซนาโร ให้หยุดบ่มเพาะข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้สนับสนุนของเขา และในเวลานี้ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนรัฐบาลนายลูลาอย่างเต็มที่
ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาประกาศต่อต้านการกระทำของผู้ประท้วงในบราซิล พร้อมกับระบุว่า เราต้องเคารพเจตจำนงของชาวบราซิลที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิล และย้ำว่า ฝรั่งเศสจะยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลบราซิลเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ผู้นำในอเมริกาใต้หลายประเทศก็แสดงความเห็นเช่นกัน โดย อัลเบร์โต เฟอร์นันเดซ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ระบุว่า เราพร้อมร่วมมือกับทุกคนในราซิลเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย และจะไม่ยอมให้การกระทำที่สนับสนุนการก่อรัฐประหารกลับมาอีก
ด้าน มิเกล ดิอัซ-กาเนล ประธานาธิบดีคิวบา ระบุว่า เราขอประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในบราซิล ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างวุ่นวาย และไม่เคารพผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิล
ส่วน กาเบรียล บอริก ประธานาธิบดีชิลี ระบุว่า การกระทำของเหล่าผู้สนับสนุนโบลโซนาโร ที่บุกโจมตีอาคารรัฐบาลบราซิล ถือเป็นการกระทำที่ขี้ขลาด และรัฐบาลชิลีพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการจัดการกับผู้ที่ไม่ยอมรับในระบอบประชาธิปไตย
—————
แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง: