ชาวเมียนมา 'ประท้วงเงียบ' ครบ 1 ปีรัฐประหาร รัฐบาลทหารขู่ยึดกิจการ จับกุมคนเข้าร่วม

Myanmar: ท้องถนนในเมืองใหญ่ทั่วประเทศเมียนมาว่างเปล่า ไร้ผู้คน ขณะที่ประชาชนพากันเข้าร่วมใน “ปฏิวัติเงียบ” ในโอกาสครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์รัฐประหาร เพื่อยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จี

มีผู้ประท้วงหลายสิบคน เดินประท้วงไปตามท้องถนนในกรุงย่างกุ้งเมื่อวันอังคาร (1 กุมภาพันธ์)  ถือแผ่นป้ายและตะโกนคำขวัญต่อต้านรัฐบาลทหารในวันครบรอบ 1 ปีของรัฐประหาร ซึ่งทำให้ความก้าวหน้าของประชาธิปไตยในเมียนมาถอยหลังลงคลอง ผู้ประท้วงคนหนึ่งขว้างสีแดงบนถนน เป็นตัวแทนเลือด ขณะที่คนอื่น ๆ ก็ถือควันสี 

ถนนหลายสายในเมืองใหญ่หลายเมืองของเมียนมา แทบจะร้างผู้คน เพราะกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเรียกร้องให้ “ประท้วงเงียบ” นักรณรงค์เมียนมากระตุ้นให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านและขอให้ร้านค้าต่าง ๆ ปิดบริการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อแสดงพลังต่อต้านการก่อรัฐประหารโดยกองทัพเมียนมา ขณะที่รัฐบาลทหารขู่ว่าจะยึดกิจการและจับกุมทุกคนที่เข้าร่วมในการปฏิวัติเงียบครั้งนี้
ทั้งนี้ การโค่นอำนาจรัฐบาลของนางออง ซาน ซู จี จุดชวนให้เกิดการประท้วงใหญ่ตามท้องถนน และกองกำลังรักษาความมั่นคงก็สังหารประชาชนหลายร้อยคนในการปราบปรามที่ตามมา ซึ่งในการตอบโต้ กลุ่มผู้ประท้วงได้จัดตั้ง “กองกำลังป้องกันประชาชน” ขึ้น บางส่วนเชื่อมโยงกับกบฏชนกลุ่มน้อย เพื่อต่อสู้กับทหารที่มีอาวุธดีกว่า

จากข้อมูลของข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,500 คนในการประท้วงต่อต้านรัฐประหารตลอดหนึ่งปีในเมียนมา และอาจมีผู้เสียชีวิตอีกหลายพันคนในการสู้รบด้วยอาวุธ และในปัจจุบันนี้ มีประชาชนอย่างน้อย 11,787 คน ถูกควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายในเมียนมา ซึ่งรวมทั้ง 8,792 คนที่ยังอยู่ในเรือนจำ 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เมียนมาเปิดเผยว่า นางซู จี จะถูกนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีในข้อหาทุจริตเลือกตั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายข้อหาที่อดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมาต้องเผชิญ

เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายของเมียนมาซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า นางซู จี ถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมา ในการชี้นำผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี  2020 ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ที่นางซู จี เป็นหัวหน้าพรรค ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย

นอกจากนางซู จี แล้ว อดีตประธานาธิบดีวิน มินต์ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักงานประธานาธิบดีเมียนมา มิน ตู ต่างตกเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ด้วย โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ยื่นฟ้องต่อนางซู จี และอดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว

การพิจารณาคดีนี้จะมีขึ้นในกรุงเนปิดอว์ โดยมีโทษสูงสุดคือจำคุก 3 ปี และอาจถูกยุบพรรคด้วย นั่นหมายความว่า หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง นางซู จี และพรรค NLD จะไม่สามารถลงแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ ซึ่งทางรัฐบาลทหารระบุว่าจะมีขึ้นในปี 2023

ก่อนหน้านี้ ซู จี ถูกศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว 6 ปี จากความผิดในข้อหามีอุปกรณ์สื่อสารไว้ในครอบครองอย่างผิดกฎหมาย และละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ เธอมีกำหนดขึ้นพิจารณาคดีในข้อหาคอร์รัปชันหลายกระทง รวมทั้งละเมิดกฎหมายปกปิดความลับของรัฐ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดในทุกข้อหา เธออาจต้องโทษจำคุกหลายสิบปี