เกมเมอร์มีเฮ !! Intel เตรียมพัฒนาชิปขุดบิตคอยน์ได้ดีกว่าการ์ดจอ 1000 เท่า
ปัจจุบันเงินคริปโต (Cryptocurrency) และเทคโนโลยีบล็อกเชน ถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยประสิทธิภาพในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน แต่การที่จะได้เงินคริปโตมาใช้งาน โดยเฉพาะบิตคอยน์และอีเธอเรียม จะต้องผ่านกระบวนการ "ขุดเหมือง" (Mining) จึงจะได้เงินคริปโตดังกล่าวมาครอบครอง ซึ่งกระบวนการขุดเหมืองนี้กลับส่งผลต่อตลาดคอมพิวเตอร์อย่างมากเลยทีเดียว
ผู้อ่านอาจสงสัยว่า ทำไมจึงต้องเรียกว่าขุดเหมือง? เงินคริปโตแตกต่างจากเงินทั่วไปอย่างไร? จึงขออธิบายพอสังเขป คือ เงินคริปโตไม่ใช่เงินที่สามารถจับต้องได้เหมือนเหรียญกษาปณ์หรือธนบัตร หากแต่มันเป็น "ชุดข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์" ที่ถูกกำหนดให้มีมูลค่าขึ้นมา ซึ่งการจะได้ข้อมูลแต่ละชุดมาเก็บไว้จะต้องผ่านการ "แก้สมการคอมพิวเตอร์" ผ่านอัลกอริธึมขึ้นกับเงินคริปโตแต่ละชนิด ยกตัวอย่างเช่น สมการ SHA-256 สำหรับบิตคอยน์ หรือ Ethash สำหรับอีเธอเรียม เป็นต้น กระบวนการแก้สมการนี้เองที่เรียกว่า การขุดเหมือง
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการขุดเหมือต้องอาศัยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูง และสามารถทำงานหลายอย่างพร้อม ๆ กันได้เพื่อให้เกิดการแก้สมการอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์ที่นิยมนำมาใช้ คือ การ์ดจอ สำหรับการแก้สมการ Ethash และเครื่อง ASICS สำหรับการแก้สมการ SHA-256
เหตุที่การขุดเหมืองคริปโตส่งผลต่อตลาดคอมพิวเตอร์ เป็นเพราะการ์ดจอคืออุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมากในการประกอบคอมพิวเตอร์ ในการขุดเหมืองจะต้องใช้การ์ดจอหลาย ๆ ใบ เพื่อให้ขุดได้เงินคริปโตเร็วขึ้นและคืนทุนได้เร็วขึ้น จึงมีการกว้านซื้อการ์ดจอไปโดยเหล่านักขุด รวมถึงบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการทำเหมืองคริปโต เมื่อของขาดตลาดราคาของสินค้าจึงเป็นไปตามกลไกราคา ส่งผลให้การ์ดจอมีราคาขายปลีกสูงกว่าราคาเปิดตัวถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
เพื่อพิชิตปัญหาดังกล่าว Intel จึงเตรียมพัฒนาชิปประมวลผล Blockchain accelerator โดยมีเป้าหมายในการนำไปใช้ขุดเหมืองบิตคอยน์ผ่านอัลกอริธึม SHA-256 ซึ่งทางบริษัทเคลมว่าชิปนี้มีประสิทธิภาพต่อพลังงานดีกว่าการใช้การ์ดจอถึง 1000 เท่า !! อีกทั้งยังสามารถผลิตให้มีราคาที่คุ้มค่ามากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ การเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างชิป Blockchain accelerator ของ Intel กับการ์ดจอคอมพิวเตอร์นั้น อาจไม่ใช่การเปรียบเทียบที่ตรงไปตรงมาสักเท่าไร เพราะการขุดเหมืองอัลกอริธึม SHA-256 จะต้องใช้เครื่อง ASICS เท่านั้น การ์ดจอคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถขุดเหมืองผ่านอัลกอริธึมนี้ได้ เพราะฉะนั้น จากข้อมูลที่ Intel เคลมว่าชิป Blockchain accelerator ขุดเหมืองได้ดีกว่าการ์ดจอถึง 1000 เท่านั้น คงต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมว่ากระบวนการที่นำมาใช้เปรียบเทียบนั้นเป็นอย่างไร
ถึงกระนั้น ข่าวนี้ยังถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่ต้องการการ์ดจอคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการเล่นเกม บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขุดเหมืองบิตคอยน์มีแนวโน้มที่จะเลือกใช้ชิป Blockchain accelerator มากขึ้น เนื่องจากความคุ้มค่าทั้งประสิทธิภาพและพลังงาน เท่ากับว่าจะมีการ์ดจอในตลาดเหลือไว้ให้เหล่าเกมเมอร์มากขึ้นนั่นเอง
สำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่สนใจสั่งซื้อชิปดังกล่าวจาก Intel ได้แก่ Argo Blockchain, Block และ GRIID Infrastructure ซึ่งทั้งหมดคือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและการทำเหมืองบิตคอยน์ คาดว่า Intel จะสามารถจัดส่งชิปให้แก่ค้าได้ภายในปีนี้ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Blockchain accelerator ทาง Intel จะชี้แจงอีกครั้งในงาน International Solid State Circuit Conference (ISSCC) ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Reuters