แฟลช เอ็กซ์เพรส เล็งโกยเดือนละหมื่นล้าน ไม่หวั่นโควิด รุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ
ปฎิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยในยุควิกฤตโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งให้ตลาดอีคอมเมิร์ซปี 2563 คาดการณ์มีมูลค่ากว่า 220,000 ล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 35%แต่ตามสัดส่วนคิดเป็น 3% ของตลาดค้าปลีกในไทยทั้งหมดเท่านั้น ดังนั้น แนวโน้มภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซปี 2564 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทย และอีคอมเมิร์ซ แบบครบวงจร
โดย นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจตลอดปี 2563 ว่า อุตสาหกรรมขนส่งในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมาถือว่ายังเติบโตได้ค่อนข้างน่าพอใจ แม้ว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลทำให้สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกต้องเผชิญกับภาวะถดถอย โดยในฟากของตลาดอีคอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการทุกรายต่างต้องงัดกลยุทธ์ทั้งด้านราคา และบริการจากปริมาณการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดส่งรวมทั้งปีมากกว่า 300 ล้านชิ้นหรือเติบโตขึ้นกว่า 500% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บวกกับรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มากกว่า 6,000 ล้านบาท
“ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนบริการของ แฟลช เอ็กซ์เพรส ซึ่งสามารถผลักดันให้บริการของเราได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของตลาดขนส่ง โดยตลอดปี 2563 เราได้นำส่งพัสดุให้กับลูกค้าทั่วประเทศรวมระยะทางกว่า 230 ล้านกิโลเมตร รวมจำนวนพัสดุมากกว่า 300 ล้านชิ้น และในปีนี้เราจะยังคงเดินหน้ามุ่งมั่นทำบริการที่ดีเพื่อส่งมอบความคุ้มค่าแก่คนไทยทุกคนต่อไป” นายคมสันต์ กล่าว
นายคมสันต์ กล่าวว่า ปี 2564 บริษัทได้คาดการณ์ว่ารายได้ต่อเดือนจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท และมีจำนวนพัสดุเฉลี่ยต่อวันประมาณ 2 ล้านชิ้น ซึ่งเติบโตเกินกว่า 2 เท่าจากเดิมที่มียอดส่งพัสดุเฉลี่ยอยู่ 1.3 ล้านชิ้นต่อวัน ทั้งนี้บริษัทยังมองว่าภาคธุรกิจขนส่งพัสดุของปี 2564 ตลาดโลจิสติกส์ และตลาดอีคอมเมิร์ซ ยังคงเติบโตต่อไปได้อย่างมหาศาล แม้ว่าประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 อยู่ก็ตาม
“ตลาดขนส่งพัสดุในปีนี้ยังจะมีการแข่งขันกันใน 3 เรื่องหลัก คือ ราคา, คุณภาพและความคุ้มค่าในการให้บริการ ซึ่งน่าจะเป็น 3 เรื่องหลักที่ผู้เล่นทุกรายในตลาดยังคงต้องโฟกัส รวมไปถึงเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้าซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้บริการต้องการมากที่สุด” นายคมสันต์ กล่าว
นายคมสันต์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน แฟลช เอ็กซ์เพรส เตรียมตอบรับความท้าทายของตลาดด้วยการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การขยายจุดกระจายสินค้า โดยจะเน้นไปในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น การเพิ่มคลังคัดแยกพัสดุ และศูนย์กระจายพัสดุ รวมไปถึงการเพิ่มจุดรับส่งพัสดุทั่วประเทศที่ได้มีการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ตลอดจนการลงทุนด้านบุคลากรเพื่อสรรหาคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมในธุรกิจ และที่สำคัญคือการลงทุน และพัฒนาด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สอดรับกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และอีคอมเมิร์ซที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้อย่างไม่มีสะดุด
พร้อมกันนี้ ยังเร่งวางแผนทิศทางในด้านการให้บริการภายในวันเดียว (เซมเดย์) และวันถัดไป (เน็กซ์เดย์) และแผนการขยายบริการไปยังกลุ่มต่างประเทศโดยแบ่งเป็น 3 เฟส ภายใน 5 ปี โดยเฟสแรก (เริ่มไตรมาส 1/2564 เป็นต้นไป) จะรุกตลาด CLMV จากนั้นในเฟสที่ 2 จะรุกต่อไปยังกลุ่มอาเซียนโดยเฉพาะสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย และสุดท้ายที่สำคัญคือ การขยายธุรกิจไปยังกลุ่มอาเซียน ให้สมกับการเป็นผู้ให้บริการด้านขนส่งพัสดุสัญชาติไทย และผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซ แบบครบวงจร รวมถึงการเฟ้นหาพันธมิตรทั้งในไทย และต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มอลต่อไป