เด็กสมาธิสั้น กับ เด็กซน ต่างกันยังไงเด็กซน อยู่ไม่นิ่ง หยุกหยิก ยับยั้งช่างใจไม่ได้ แต่อากาขเหล่านี้จะค่อยๆหายไปพออายุโตขึ้น เรียกว่าซนตามวัย อายุจะอยู่ในช่วง 1ขวบ - 3 ขวบเด็กสมาธิสั้น อาการจะหยุกหยิก นั่งนิ่งไม่ได้ อยู่กับที่ไม่ได้ ซนจนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง การควบคุมอารมณ์ตามวัยมีน้อยมาก มีปัญหากับการเรียน ส่วนมากจะเจอในเด็กที่เริ่มโตอายุอยู่ในช่วง 4 - 5 ขวบกลุ่มเสี่ยงที่สามารถเกิดโรคสมาธิสั้นเกี่ยวกับพันธุ์กรรม คือมีพ่อแม่เป็นโรคสมาธิสั้น เด็กส่วนมากก็จะมีอาการสมาธิสั้นตามพ่อแม่ปัญหาทางด้านชีวภาพ เช่น มีปัญหาตอนเกิด เด็กที่คลอดก่อนกำหนด โรคบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในการเลี้ยงดู เช่น ครอบครัวที่มีความวุ่นวาย ในบ้านมีคนเยอะ เลี้ยงให้ดูโทรศัพท์ ให้ดูทีวีเยอะการดูเด็กที่มีอาการสมาธิสั้น คือ ต่องพาไปพบแพทย์พัฒนาการเด็กเพื่อประเมินอาการว่าต้องให้ยาควบคุมหรือปรับพฤติกรรม หรือบางคนอาจจะใช้ทั้ง 2 วิธี จะไม่บังคับ ไม่กดดัน พาไปปล่อยพลัง ด้วยความที่ลูกของผู้เขียนเองเป็นเด็กสมาธิสั้น ก็อยากจะมารีวิวการสังเกตพฤติกรรมว่า เด็กกลุ่มนี้จะมีอาการอย่างไรบ้าง ดูแลยังไง ท้าวความก่อนว่าลูกคนโตของผู้เขียนตอนนี้อายุ 5ขวบแล้ว น้องจะเป็นคนพูดเยอะ พูดมาก ถามเยอะแต่ไม่รอฟังคำตอบแต่จะมีคำถามอื่นตามมาเรื่อยๆ เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ เป็นคนคิดมาก มโนเอง วิตกกังวล ช่วงแรกๆคุณแม่เองก็ยังไม่ได้ใส่ใจมากคิดว่าเด็กคงดื้อตามวัย จนน้องเริ่มเข้าโรงเรียน น้องมีปัญหาว่าเข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้ เรียนไม่ทันเพื่อน ไม่ยอมทำตามคำสั่ง นั่งนิ่งไม่ได้เลยจนครูเริ่มเรียกแม่คุยว่าน้องควรไปปรึกษาคุณหมอนะเราถึงเริ่มมาสังเกตลูกแบบจริงจัง และพาลูกไปพบแพทย์พัฒนาการเด็ก คุณหมอให้คำแนะนำดีมาก ให้ความรู้ในการดูแล ปรับสภาพสิ่งแวดล้อม ให้ลดการเล่นมือถือ พาไปวิ่งไปปล่อยพลัง ไม่ดุไม่บังคับ และถัดมาคือการให้ยาควบคุมสมาธิ ช่วงแรกเริ่มที่ครึ่งเม็ดก่อน ผลปรากฏว่าได้ผลตอบรับดี น้องนิ่งขึ้นสามารถเรียนได้ดีขึ้น และคุณครูควบคุมได้ดีทำให้เขาสามารถทำตามที่ครูสั่งได้ ข้อแตกต่างที่ชัดเจนคือน้องอยู่อนุบาล 2 จากที่เขียนไม่ได้เลยภายใน 1-2 เดือนคือน้องเขียนชื่อนามสกุล ชื่อเล่นได้เองโดยไม่ต้องบอก คือคุณแม่ดีใจมากและคิดไม่ผิดที่เลือกไปพบคุณหมอแล้วเข้ากระบวนการรักษาถึงจะปล่อยเวลานานไปหน่อยแต่คิดว่าเด็กเขามีศักยภาพอที่จะเรียนทันเพื่อนได้ สิ่งสำคัญมากๆอีกอย่าง คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองต้องเปิดใจ ยอมรับและไม่อายที่จะต้องพาบุตรหลานของท่านไปพบแพทย์ ไม่อายที่ว่าลูกเราสมาธิสั้น ปรับที่ใจเราก่อน ก่อนที่จะปรับที่ตัวเด็ก หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ในการดูแลเเ็กที่มีอาการสมาธิสั้นในครั้งนี้จะประโยชน์หรือความรู้ในการไปปรับใช้กับบุตรหลานของคุณพ่อคุณแม่บ้านอื่นได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้เพื่อน ๆ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงดูลูกน้อยกับแม่กุ้ง คุณแม่ลูกสอง ได้ที่ https://creators.trueid.net/@376002 ในแอป True ID ของทาง True ID In-trend ได้เลยนะคะ เครดิตภาพ ภาพปกจาก : b13923790 / Pixabayภาพประกอบที่1 : loreva34 / Pixabayภาพประกอบที่2 : Alexas_Fotos / Pixabayภาพประกอบที่ 3 : loreva34 / Pixabayภาพประกอบที่ 4 : loreva34 / Pixabayภาพประกอบที่5 : yohoprashant / Pixabay7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์