“บ้านทวิบุญ เศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อหลวง” หลายคนคงนึกไม่ถึงว่าสถานที่ที่ติดกับกรุงเทพมหานคร จะมีสวนเกษตรเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรที่มีการเรียนรู้แบบครบวงจรพื้นที่ 10 กว่าไร่ อยู่ใกล้ๆเมืองหลวง ซึ่งถ้าเรามาจากถนนบางนา – ตราด ทางเข้าไปบ้านทวิบุญระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร และถ้ามาจากถนนเทพารักษ์จุดเริ่มจากที่ว่าการอำเภอบางบ่อ มาบ้านทวิบุญ ระยะทางประมาณ 1.4 กิโลเมตร “บ้านทวิบุญ” ถือว่าเป็นปอดแห่งใหม่อีกแห่งของชาวอำเภอบางบ่อก็ว่าได้ เพราะบ้านทวิบุญซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ถือเป็นห้องเรียนเกษตรธรรมชาติในด้านปฏิบัติ และในด้านทฤษฎีเกษตรทฤษฎีใหม่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง เพราะสถานที่แห่งนี้มีการปลูกพืชผักสวนครัวเกือบทุกชนิด รวมถึงผักไฮโดรโปรนิกส์ (ผักไร้ดิน) การทำนาข้าว ผลิตข้าวสายพันธุ์ต่างๆ เช่นข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมนิล การเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เช่น กระบือ วัว เป็ด ไก่ ห่าน การทำปุ๋ยไส้เดือน การเลี้ยงกบ บ่อเลี้ยงปลานิล บ่อปลาสลิด ซึ่งปลาสลิดนี้ถือว่าเป็นปลาที่ขึ้นชื่อของบางบ่อเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการทดลองปลูกไม้ยืนต้นหลายๆ พันธ์ในพื้นที่บ้านทวิบุญเริ่มตั้งแต่ทางเข้าบ้าน บ้านทวิบุญ ตั้งอยู่ที่อำเภอบางบ่อ ซึ่งมีพื้นที่ ประมาณ 10 กว่าไร่ เดิมที ที่แห่งนี้เป็นมรดกตกทอด ของตระกูลรุดดิษฐ์ ซึ่งเป็นผืนดินที่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของคุณพ่อบุญช่วย และคุณแม่บุญล้อม รุดดิษฐ์ ซึ่งในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นนาข้าวที่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตในครอบครัวของท่าน มากว่า 70 ปี หลังจากที่ลูกหลานเรียนจบและเติบโตต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปประกอบอาชีพกัน โดยส่วนมากรับข้าราชการกันเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้พื้นดินผืนนี้ถูกปล่อยเป็นที่รกร้างมาเป็นเวลานานหลายสิบปี จนถึงวันที่คุณพ่อ คุณแม่ ทั้งสอง ได้ถึงแก่กรรมใน ปี พ.ศ 2554 ลูกหลาน ทั้ง 5 คน ได้แก่ พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี พลเอกลือชัย รุดดิษฐ์ รองผู้บัญชาการทหารเรือ พลอากาศตรีเชี่ยวชาญ รุดดิษฐ์ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม รวมถึงพี่สาวทั้งสองของท่าน ได้ตกลงกันว่าที่มรดกแห่งนี้ ถึงจะเป็นที่ติดถนนบางนาตราดใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งมีราคาค่อนข้างจะสูงมากในขณะนี้ แต่พี่น้องทั้ง 5 คน ตัดสินใจที่จะไม่ขายผืนดินแห่งนี้ แต่เลือกที่จะรักษาผืนดินผืนนี้ซึ่งเป็นมรดกของคุณพ่อคุณแม่ มาจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่จะเป็นแหล่งเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการเกษตร ให้กับคนที่สนใจได้ศึกษาเรียนรู้ด้านการเกษตรตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จึงได้บูรณะปรับปรุงที่แห่งนี้ให้เป็นศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง โดยได้จัดสรรพื้นที่ 10 กว่าไร่นี้ แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยยึดตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้จัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า โดยแบ่งทำเป็นนาข้าว 30% ปลูกพืชต่างๆ 30% ทำสระน้ำเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งและเลี้ยงสัตว์ 30% ทำที่อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์อื่นๆ อีก 10% โดยเริ่มก่อตั้งศูนย์บ้านทิวบุญ อย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ. 2559 จากเดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นท้องนาและปล่อยร้างมา เป็นเวลานาน อีกทั้งจังหวัดสมุทรปราการยังเป็นเมืองที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากล้อมรอบอยู่ จึงทำให้พื้นผิวดินแข็งเกินไป ไม่สามารถที่จะทำเกษตรได้ดี จึงมีการปรับสภาพหน้าดินโดยใช้ปุ๋ยคอก ปูนขาวผสมไปเพื่อปรับปรุงหน้าดินให้เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชด้านการเกษตรได้ บ้านทวิบุญ เปิดให้บริการให้ประชาชนนิสิตนักศึกษาหรือผู้มีความสนใจด้านการเกษตรเข้ามาเยี่ยมชมได้มาเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ซึ่งเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. ถึง 16.30 น. ซึ่งสามารถมาชมศึกษาดูงานได้ โดยจะมีวิทยากรบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับด้านการเกษตรต่างๆ และที่ศูนย์แห่งนี้ยังมีศูนย์ กศน.อำเภอบางบ่อ จัดตั้งเป็นห้องสมุดประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้อ่านหนังสือค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ในบ้านทวิบุญนี้อีกด้วย บ้านทวิบุญ โดยพลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านทวิบุญ ได้มีการเปิดทำบุญศูนย์แห่งนี้ ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายชาติชายอุทัยพันธ์ เป็นประธานการเปิดงาน โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก ที่มาร่วมงานเปิดบ้านทวิบุญในครั้งนั้น ซึ่งในวันนั้นผู้เขียนก็ได้รับเกียรติไปร่วมงานในการทำบุญและเปิดศูนย์ในครั้งนั้นด้วย ศูนย์เรียนรู้บ้านทวิบุญ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 69/4 ซอยปรียา 2 หมู่ 1 ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. ถึง 16.30 น. สำหรับนิสิตนักศึกษาประชาชนหรือผู้ที่สนใจด้านการเกษตรที่ต้องการเรียนรู้แนวเศรษฐกิจพอเพียง ก็สามารถติดต่อไปที่บ้านทวิบุญได้ ที่เบอร์โทรศัพท์ 081 294 654 ……ภาพถ่ายโดย ครูชอวร์ กวีหลังบ้าน