ดุสิตโพลเผยปชช.ส่วนใหญ่มองโควิด-19 กระทบเสถียรภาพรัฐบาล

วันนี้ ( 6 ก.ย. 63 )สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตเผยสำรวจความคิดเห็นของประชาชน  หัวข้อ เสถียรภาพรัฐบาล จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,768 คน ระหว่างวันที่ 1-4 กันยายนที่ผ่านมา ในภาพรวมประชาชนเห็นว่ารัฐบาลอยู่ในสภาวะที่ไม่มั่นคง 71.15% และเห็นว่ามั่นคง 28.85% โดยจุดแข็งที่ทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง/มั่นคง คือ การมีเสียง ส.ว.สนับสนุน 64.74% รองลงมาคือ มีอำนาจเบ็ดเสร็จ 54.62% มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร 51.52% 

ขณะที่ จุดอ่อนคือ ประเทศเผชิญปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ 77.49% รองลงมาคือ การบริหารประเทศย่ำแย่ 67.00% และมีกระแสต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น 63.79% วิธีที่จะทำให้รัฐบาลมั่นคงคือ ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 83.73% ปราบปรามการทุจริต 69.99% และรับฟังประชาชนชน 66.00%

โดยผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักของรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องแก้ให้ได้ เพราะหากประชาชนอยู่ได้รัฐบาลก็อยู่รอด รัฐบาลต้องแก้ไขภาพของการทุจริต การปิดกั้นความคิดเห็น ควรเน้นการเปิดใจรับฟัง มีผลงานที่โดนใจ และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น เพื่อให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง มั่นคงและมีเสถียรภาพนั่นเอง

ขณะที่ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มองว่า ผลสำรวจดังกล่าวเป็นการ สะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้รัฐบาลไม่มีสภาวะความมั่นคงหรือมีเสถียรภาพทางการบริหารเศรษฐกิจเพียงพอ แม้ผลสำรวจบางประเด็นจะชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีจุดแข็งตรงที่มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. และเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม แต่เป็นเพียงการเมืองในเชิงปริมาณเท่านั้น แง่ของการเมืองเชิงคุณภาพเป็นสิ่งที่ประชาชนพึงปรารถนาที่สุด 

ซึ่งในภาวะการเมืองยุคโควิดนี้ รัฐบาลที่จะต้องเร่งแก้ไขและฟื้นฟูปัญหาเศรษฐกิจที่นับวันมีแนวโน้มแย่ลง ทั้งการการท่องเที่ยว การส่งออก-นำเข้า ปัญหาคนว่างงาน สินค้าราคาแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นต้น เหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้รัฐบาลมีจุดอ่อนในการบริหารงานด้านเศรษฐกิจจึงส่งผลต่อสภาพที่ไม่มั่นคงหรือเสถียรภาพของรัฐบาลในปัจจุบัน

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline