สวัสดี...ผู้อ่านทุกท่าน เชื่อว่าทุกคนต้องเคยไปเดินงานวัด หรืองานเทศกาลต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ตั้งแต่หน้างานยันท้ายงานก็คือ 'แมงหรือแมลงทอดต่าง ๆ ' เช่น...'จิ้งหรีด, หนอนรถด่วน, ดักแด้, ตัวด้วง, ตั๊กแตน' และอีกมากมาย เป็นเมนูที่อร่อยไม่ใช่น้อย จะเห็นมีขายตามตลาด หรืองานเทศกาลต่าง ๆ และวันนี้จะชวนทุกท่านมารู้จักกับ 'แมลงพลัดหรือแมงพลัด' อีกหนึ่งแมงที่ทางภาคใต้นั้นมีค่ามาก ราคาสูงมาก และ 1 ปี สามารถหากินแค่ครั้งเดียว 'แมงพลัด' มี 6 ขา มีลักษณะคล้าย ๆ แมลงด้วงกว่าง(แต่ไม่มีบริเวณส่วนหัวที่คล้ายเขาเหมือนกับด้วงกว่างนะ) 'แมงพลัด' มีสีดำมีสีขาวผสม ออกหม่น ๆ มีปีกที่แข็ง ทางภาคใต้จะพบได้ช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม (ทางภาคอื่นพบได้ช่วงไหน และชื่อว่าอะไรอันนี้ไม่ทราบนะครับ) 'แมงพลัด' จะออกหากินช่วงคืน(หลังฝนตกช่วงกลางคืนจะเยอะมาก ๆ ) มันกินยอดใบไม้หรือยอดผักเป็นอาหารทางภาคใต้เมื่อเข้าช่วงเดือนเมษา หลังฝนตกช่วงกลางคืน จะมีชาวบ้านออกมาหาจับ 'แมงพลัด' ตามเสาไฟ หรือต้นไม้ บางคนจะมีไฟมาล่อหรือชาวใต้เรียกกันว่า 'ไฟล่อแมง' จะเป็นไฟสีม่วงเพื่อล่อให้เหล่า 'แมงพลัด' หรือ 'แมงดา' รวมไปถึงแมงอื่น ๆ มันจะมาบินรุมที่ไฟ และก็ลงมือจับพวกแมงที่หล่นลงที่พื้น บางคนก็ใช้สวิง หรือตาข่ายต่าง ๆ มาคลุมหรือมาล้อม และก็ลงมือจับ และส่วนมากชาวบ้านจะนิยมหาแต่ตัวที่มีไข่เต็มท้อง เพราะมีราคาดีมาก เมื่อได้ 'แมงพลัด' มาแล้ว ก็เอาแมงลงไปแช่น้ำกันมันบินหนี และก็จัดการต้มน้ำร้อน นำ 'แมงพลัด' ลงไปลวก จนมันตายและก็เอาขึ้น หลังจากนี้จะนำไปขายหรือนำไปทำอาหารก็แล้วแต่ แต่ชาวบ้านส่วนมากจะนำมาขายตามตลาดนัด หรือบางคนนำไปขายตามร้านอาหาร จะได้ราคาดีมาก และราคาขายตามตลาด จะขายกันกิโลละ200 - 300 บาท ถ้า 'แมงพลัด' มีขนาดเล็ก ๆ หรือตัวขนาดกลาง ๆ ก็จะมีราคาอยู่ที่ 100 - 150 บาทภาพในราคานี้ยังไม่รวมราคาขั้นตอนการเด็ดปีก และเอาขี้ออก หากทำการเด็ดปีกและเอาขี้ออกเรียบร้อยแล้ว ก็จะคิดเพิ่มไป 30 - 50 บาท เพราะขั้นตอนนี้เหล่าจะใช้เวลานาน ยิ่งตัวเล็กจะนานมากและเจ็บมืออีกด้วย แต่ถ้านำไปขายร้านอาหาร ส่วนมากจะนำแต่ 'แมงพลัด' ตัวใหญ่ ๆ ไปขายจะได้ราคาดีมาก หรือบางที่ ที่หา 'แมงพลัด' ได้ยาก เมื่อหาได้จะนำมาขายในราคาตัวละบาทกันเลยทีเดียว ยิ่งถ้ามีไข่เต็มท้องราคายิ่งอัพขึ้นเป็นเท่าตัว เมนูที่ยอดฮิตที่ทุกปีคนใต้จะได้กิน และมีมาวางขายตามตลาดนัดเลยคือ 'แมงพลัดคั่วกะทิ หรือผัดกะทิ' หรือตามร้านอาหารก็จะมีเมนูเอาใจคอเหล้าคือเมนู 'แมงพลัดคั่วเกลือ หรือแมงพลัดทอดสมุนไพรต่าง ๆ ' ซึ่งราคาต่อจานอยู่ในราคาที่สูงพอสมควร และหากหาซื้อ 'แมงพลัดคั่วกะทิ' ตามตลาด ก็จะมีแบบแบ่งขายเป็นถุง ถุงนึง ก็จะมี 'แมงพลัด' ไม่กี่ตัว และราคาจะมีตั้งแต่ 20 - 50 บาท ขึ้นไป จะหากินได้ช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม ถ้าหมดพฤษภาไป จะหากินหาซื้อได้อีกทีก็ปีหน้า หากใครมาเที่ยวภาคใต้ในช่วงหน้าฝน หรือหลังสงกรานต์ ก็จะหากินได้ง่ายมาก แต่ต้องรับมือกับราคาสูงหน่อย เพราะการหา 'แมงพลัด' ใช้เวลาและค่อนข้างอันตรายเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการออกไปหาช่วงกลางคืน และขั้นตอนการทำที่ต้องใช้เวลา บวกกับจะมีแค่ช่วงนี้เท่านั้น และยิ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงเคอร์ฟิวส์ ก็ยังมีชาวบ้านออกหา 'แมงพลัด' แต่ออกหาเร็วหน่อยและยังหาได้น้อย เพราะอยู่หากลางดึกเกิน 4 ทุ่มไม่ได้ ทำให้ราคา 'แมงพลัด' ในปีนี้สูงกว่าปกตินิดหน่อย และหากใครซื้อ 'แมงพลัด' มาแล้วไม่รู้วิธีการทำ หรืออยากจะลองทำทาน 'แมงพลัดคั่วกะทิ' เดียวนักเขียนจะบอกวิธีการทำแบบคร่าว ๆ ไว้ให้นะครับ (บอกก่อนนะครับการทำเมนู 'แมงพลัดคั่วกะทิหรือผัดกะทิ' ไม่ใช่ง่าย ๆ เลยครับ) และสูตรนี้เป็นสูตรของพ่อนักเขียนเอง ทำง่าย ๆ มากครับขั้นตอนแรกเตรียม- กะทิ (แนะนำให้ใช้กะทิจากมะพร้าวที่เราขูดเอง คั้นเอง)- น้ำตาล- เกลือ- กระเทียม (จะใช้หอมแดงด้วยก็ได้)- พริกไทยดำและอย่าลืมเตรียม 'แมงพลัด' เอาขี้มันออก มันเด็ดปีกให้เรียบร้อยด้วยนะขั้นตอนการทำ 'แมงผัด- โคลกพริกไทยดำพอละเอียด- นำกระเทียมลงไปโคลกกับพริกไทย (จะโคลกกระเทียมให้ละเอียดหรือไม่ก็แล้วแต่เลย)- ตั้งกะทะ ตั้งไฟ (ใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรงหน่อย ๆ )- ใส่น้ำกะทิลงไป- นำกระเทียมกับพริกไทยดำที่โคลกใส่ลงไปในน้ำกะทิ- รอให้น้ำกะทิเดือดเล็กน้อย- นำ 'แมงพลัด' ลงไปผัด และผัดไปเรื่อย ๆ- ปรุงรสด้วยน้ำตาล (แมงพลัดคั่วกะทิจะมีรสชาติหนักไปทางหวานหน่อย ๆ )- ตัดด้วยเกลือเล็กน้อย (หรือจะใส่น้ำปลาเล็กน้อยเพื่อความหอม)- ผัดต่อให้ 'แมงพลัด' ดูดซึมน้ำกะทิสักหน่อย และก็หยุดผัดสัก 5 นาที รอให้มันแห้งลงหน่อย- พอน้ำกะทิแห้งลงเรื่อย ๆ ก็ผัดต่อสักแปบ เมื่อเห็นว่าน้ำกะทิแห้ง ไม่แฉะ และกะทิแห้งจับตัวกันดีที่ตัว 'แมงพลัด' ละก็ปิดไฟ เท่านี้เสร็จเรียบร้อยละครับ ส่วนรสชาติมันก็หวานนิด ๆ ได้ความมันจากกะทิเต็ม ๆ แถมได้รสเผ็ดร้อนจากพริกไทยดำอีกด้วย หากใครชอบรสชาติจัด ๆ แนะนำให้ใส่พริกไทยดำเยอะ ๆ อีกอย่างใครมีพวกเครื่องผักสมุนไพรอะไร ก็สามารถใส่ลงไปได้นะครับ มันจะได้ชาติสมุนไพรเพิ่มขึ้นมา ทำให้อร่อยมากขึ้น และเป็นไงกันบ้างครับ สำหรับ 'แมงพลัดคั่วกะทิ' ใครเคยกินบ้าง หากใครเคยกินก็สามารถแชร์บบทความนี้ได้นะครับ และใครอยากเห็นอยากกิน 'แมงพลัด' ก็ไว้ปีหน้านะครับ ปีนี้คงมาเที่ยวไม่ได้เพราะอยู่ในช่วงวิกฤต เสี่ยงต่อไวรัส ยังไงปีหน้าไว้มาเที่ยวภาคใต้ มาหา 'แมงพลัด' กินกันปีหน้านะทุกคน สุดท้ายก็ดูแลตัวเองกันดี ๆ นะครับ จะออกไปไหนก็อย่าลืมป้องกันตัวเองให้หนาแน่นนะครับ ที่สำคัญถ้าหยุดอยู่บ้านได้จะปลอดภัยต่อตัวเองและคนอื่น ๆ มากครับ... ภาพหน้าปกประกอบบทความ - Sirawatcharaภาพประกอบบทความโดย - Sirawatchara