"ไต้ฝุ่นบัวลอย" อ่อนกำลังก่อนพัดขึ้นฝั่งที่ลาว ขณะที่ยอดเสียชีวิตรวมพุ่ง 30 คน

เจ้าหน้าที่จากเวียดนามและฟิลิปปินส์รายงานเมื่อวานนี้ (29 กันยายน) ว่า มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนจากไต้ฝุ่นกำลังแรง “บัวลอย” ที่พัดถล่มสองประเทศจนหลังคาบ้านปลิว และขณะนี้ไต้ฝุ่นบัวลอยซึ่งอ่อนกำลังลงแล้ว ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาว โดยไต้ฝุ่นลูกนี้ได้พัดถล่มเกาะเล็ก ๆ ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนมาก, น้ำท่วม และบีบให้ประชาชนราว 400,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์ระบุเมื่อวานนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตในประเทศเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 24 คน โดยส่วนใหญ่จมน้ำหรือถูกเศษซากพังถล่มใส่

โดยที่เวียดนาม พายุบัวลอยขึ้นฝั่งในฐานะไต้ฝุ่นช่วงค่ำวันอาทิตย์ต่อเนื่องวันจันทร์ ด้วยความเร็วลมถึง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บ้านเรือนและธุรกิจหลายพันแห่งในภาคกลางและเหนือของประเทศได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย โดยทางการเวียดนามรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน บาดเจ็บ 46 คน ในวันจันทร์ และยังมีผู้สูญหายประมาณ 20 คน โดยภาพถ่ายจากสื่อ แสดงให้เห็นหลังคาโลหะปลิวออกจากตัวอาคาร และซากสิ่งของภายในบ้านกระจัดกระจายตามถนนที่เต็มไปด้วยน้ำในจังหวัดเหงะอาน ซึ่งอยู่ติดชายฝั่ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ในจำนวนผู้สูญหายยังไม่ทราบชะตากรรมนี้ มีชาวประมง 9 คนที่เรือของพวกเขาหลุดจากท่าและสูญหายกลางทะเลเมื่อคืนวันอาทิตย์ เนื่องจากลมแรงและคลื่นจัด ขณะที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมเวียดนามระบุว่า มีผู้ถูกอพยพกว่า 53,000 คน ไปยังโรงเรียนและศูนย์การแพทย์ที่ดัดแปลงเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ก่อนที่พายุบัวลอยจะพัดเข้าถล่ม

ส่วนเจ้าหน้าที่การบินเวียดนาม แถลงว่า สนามบินในประเทศ 4 แห่ง และถนนหลวงสายหลักบางส่วนถูกสั่งปิดเมื่อวันจันทร์ โดยมีเที่ยวบินมากกว่า 180 เที่ยวที่ถูกยกเลิกหรือดีเลย์ นอกจากนี้บางส่วนของจังหวัดเหงะอาน และจังหวัดห่าติ๋ญ ซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่โรงเรียนก็ปิดการเรียนการสอนในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งหลังจากขึ้นฝั่งที่เวียดนามพายุบัวลอยได้อ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศลาว

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า พายุมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากภาวะโลกร้อนซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์เป็นต้นเหตุ