ต้องขออกตัวก่อนเลยว่าจริง ๆ ไม่ใช่คนเก่ง Photoshop แต่แค่พอทำได้เท่านั้น เพราะด้วยการหาข้อมูลและการเรียนรู้ด้วยตนเองแต่ยังคงพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพราะไม่ได้เรียนตรงมาทางสายนี้แต่ด้วยงานประจำที่เคยทำจึงทำให้เราได้ใช้งานโปรแกรมนี้อยู่เสมอ เราอาศัยถามและให้น้องกราฟิกช่วยสอนเราในส่วนที่เราอยากทำและนำมาลองหัดทำด้วยตนเอง และหลายครั้งที่เราเข้าดูในกลุ่ม In-Trend Creators เราสังเกตเห็นว่าเพื่อน ๆ นักเขีนส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการออกแบบภาพหน้าปก ซึ่งบางคนใช้โปรแกรมในโทรศัพท์มือถือในการออกแบบหรือใช้เว็บที่ทาง บก. แนะนำมาในการออกแบบ แต่เราเคยลองมาหมดแล้วเรามองว่าเราไม่ถนัดและตัวเลือกในการทำปกก็ค่อนข้างมีไม่กว้างเท่าไหร่ไม่ตรงกับความต้องการของเรา เราเลยใช้ในส่วนของ Photoshop ที่เรามีอยู่แล้วในเครื่องคอมพิวเตอร์มาช่วยในการทำงานครั้งนี้ด้วยการออกแบบปกบทความส่วนใหญ่แล้วคือเราจะโหลดรูปมาจากเว็บฟรีหรือรูปที่เราถ่ายเองมาใช้งาน Photoshop สามารถช่วยในการปรับขนาดภาพให้เหมาะสมกับขนาดปกที่ทาง true ID ตั้งเอาไว้ อีกทั้งยังสามารถลดหรือเพิ่มแสงและความคมชัดของรูปได้แบบง่าย ๆ การใส่ตัวอักษรสามารถเน้นคำให้ดูน่าสนใจหรือเด่นขึ้นมาได้ รวมถึงการใส่กรอบให้คำหรือชื่อบทความให้ดูสะดุดตาและน่าสนใจชวนให้คนเข้าไปอ่านได้แบบง่าย ๆ สำหรับวิธีที่จะนำมาแนะนำวันนี้เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่ยังไม่เคยลองใช้งาน Photoshop หรืออาจจะพอรู้จักบางแต่ยังใช้งานได้แค่บางส่วนเท่านั้นเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับหน้าโปรแกรม Photoshop กันก่อน คือ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าไอคอนของโปรแกรมนี้จะเป็นสีน้ำเงินขอบฟ้าและมีตัวอักษร Ps หรือจะดูที่ชื่อของโปรแรมก็คือ Adobe Photoshop อาจจะมีชื่อเวอชั่นตามมาด้วยซึ่งแต่ละเครื่องคอมพิวเตอร์อาจจะโหลดเวอชั่นที่ต่างกันออกไปเอาไว้เมื่อดับเบิ้ลคลิกเข้ามายังโปรแกรมแล้วตรงกลางของหน้าจอจะว่างเปล่ามีเพียงพื้นสีเทาเท่านั้น แต่ขอบด้านข้างของหน้าจอทั้งด้านขวา ด้านซ้าย ด้านบน จะเต็มไปด้วยแถบเครื่องมือต่าง ๆ ของโปรแกรม หากต้องการสร้างภาพใหม่ให้กดเลือกที่ File และกดเลือก New จากนั้นจะขึ้นหน้าจอมาให้เราเลือกว่าต้องการภาพขนาดไหนโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้หน่วยภาพเป็น Pixels ภาพขนาดที่เหมาะสำหรับการโพสตามช่องทางออนไลน์อย่างเช่น Facebook ส่วนใหญ่เราจะทำภาพขนาด 960 * 960 Pixels หรือบางครั้งก็ทำขนาด 1040 * 1040 Pixels แต่หากเป็นภาพหน้าปกของบทความเราจะทำขนาด 1600 * 800 Pixels ภาพประกอบบทความเราจะใช้ขนาด 960 * 612 Pixels เป็นต้นหากในกรณีที่เรามีภาพอยู่แล้วอาจจะเป็นภาพที่โหลดมาจากเว็บฟรีหรือภาพถ่ายที่เราเตรียมไว้ใชกับบทความ ให้เลือก File แล้วกดเลือก Open จากนั้นก็เลือกภาพที่ต้องการใช้งานขึ้นมา หากขนาดภาพใหญ่เกินไปหรือต้องการเช็คหรือปรัขขนาดภาพให้พอเหมาะต่อการใช้งาน ให้กดเลือก Image แล้วกดเลือก Image Size ขนาดของภาพจะขึ้นมาหากต้องการปรับขนาดให้กดตัวเลขเข้าไปได้เลยการปรับแสงและความคมชัดของภาพสามารถกดปุ่ม Ctrl + M เพื่อปรับความสว่างของภาพ ในส่วนของความคมชัดของภาพให้กดปุ่ม Ctrl + L สามารถปรับได้ตามความต้องการทั้งความสว่างและความคมชัดของภาพ ปุ่มที่แนะนำคือปุ่มที่อยู่กับแป้นคีบอร์ดคอมพิวเตอร์นั้นเองการใส่ตัวอักษรในภาพสามารถกดเลือกไอคอนตัว T ที่แถบเครื่องมือด้านซ้ายมือของโปรแกรม และใช้เม้าคลิ๊กที่ภาพตำแหน่งที่ต้องการใส่ข้อความ เมื่อพิมพ์ข้อความเสร็จแล้วสามารถเลือ่นข้อความไปวางได้ตามความต้องการและสามารถเลือกสีสันของตัวอักษรได้ตามความต้องการที่แถบเครื่องมือด้านบนโปรแกรมที่เป็นรูปช่องสี่เหลี่ยมและมีสี การเปลี่ยนสีข้อความสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงอยู่ในฟังชั่นเขียนข้อมความลากเท้าให้คุมตัวอักษรทุกตัวจากนั้นไปกดตรงช่องเปลี่ยนสีเลือกสีได้เลย เช่นเดียวกันกับการปรับขนาดตัวอักษรเมื่อลากคุมตัวอักษรทั้งมดแล้วให้ใช้เม้ากดดับเบิ้ลคลิ๊กไปที่ช่องด้านบนของโปรแกรมที่มีตัวเลขอยู่ จากนั้นพิมพ์ตัวเลขเพื่อใส่ขนาดภาพที่ต้องการได้เลยการใส่เน้นขอบข้อความที่เราพิมพ์และเลือกขนาดเรียบร้อยแล้ว ให้เลื่อนเม้าไปที่แถบเครื่องมือทางขวามือของโปรแกรมจะเห็นช่องที่โชว์เรเย่อของภาพที่เรากำลังแต่งอยู่ ให้ใช้เม้ากดดับเบิ้ลคลิ๊กที่เรเย่อตัวอักษรที่เราพิมพ์ไว้จากนั้นจะขึ้นหน้าต่างอีกอันขึ้นมาให้เราเลือก Stroke จากนั้นให้คลิ๊กตรงคำว่า Stroke อีกครั้ง จากนั้นสามารถเลือกปรับขนาดขอบของ Stroke และสีของ Stroke ได้เลยการใส่กรอบให้คำที่พิมพ์ไว้สามารถใช้เม้าเลื่อนไปที่แถบเครื่องมือฝั่งซ้ายมือของโปรแกรม จากนั้นคลิ๊กเลือกที่รูปไอคอนที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากนั้นกลับมาที่รูปที่กำลังแต่งอยู่แล้วเริ่มลากกรอบตามขนาดที่ต้องการสามารถปรับสีของกรอบได้จากแถบเครื่องมือด้านบนของโปรแกรมทำคล้าย ๆ กับการเปลี่ยนสีตัวอักษร หรือหากต้องการให้ภายในกรอบมีสีสันที่จางลงสามารถปรับได้จากการเลื่อนเม้าไปที่แถบเครื่องมือฝั่งขวา คลิ๊กเม้าเลือกเรเย่อที่เป็นกรอบที่สร้างจากนั้นให้สังเกตดี ๆ จะเห็นตัวเลขที่ลงท้ายด้วย % ส่วนใหญ่จะขึ้น 100% ทั้ง 2 ช่อง ให้คลิ๊กเลือกและปรับความเข้มได้ตามความต้องการ สามารถใช้ปรับรูปภาพได้เช่นเดียวกันเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยตามที่ต้องการแล้วให้กดไปที่ File กดเลือกที่ Save As จากนั้นจะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เลือกว่าต้องการบันทึกไว้ที่ส่วนไหนของคอมพิวเตอร์ แนะนำไว้ที่ Desktop เพอง่ายต่อการหามาใช้งานเมื่อเลือกแล้วให้ตั้งชื่อภาพสามารถพิมพ์ใส่ในช่องชื่อภาพได้เลย จากนั้นเลือกช่องด้านล่างชื่อภาพเป็น JPG เพื่อบันทึกเป็นไฟล์ภาพนามสกุล JPG แต่หากต้องการเอาภาพไว้แก้ไขเพิ่มเติมให้กดเริ่มบันทึกอีกรอบแต่ให้เลือกภาพเป็น PSD ซึ่งสามารถดึงมาแก้ไขเพิ่มเติมได้ในโปรแกรมเพียงเท่านี้ก็สามารถตกแต่งภาพได้แบบง่าย ๆ กันแล้วหากแค่อ่านอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ แนะนำให้อ่านและเปิดโปรแกรมเพื่อลองทำไปพร้อมกับคำอธิบายจะช่วยให้เข้าใจการใช้งานของ Photoshop มากยิ่งขึ้น หลายคนอาจจะมองว่ามันยากแต่หากได้ลองทำบ่อย ๆ มันก็จะง่ายไปเองและยังสามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้เพิ่มอีกหลายอย่าง แต่ที่แนะนำมาเป็นเพียงขั้นตอนพื้นฐานในการใช้งานเท่านั้น เมื่อเริ่มเข้าใชในการเริ่มต้นใช้งานแล้วก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้ส่วนต่าง ๆ หรือฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ของโปรแกรมเพิ่มเติมได้เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เครดิตภาพจากผู้เขียน