จับตา! เส้นตายทวงคืนเก้าอี้มหาดไทย-บอร์ดเศรษฐกิจเคาะงบล็อตแรกวันนี้

ร้อนทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ จับตา 3 ไทม์ไลน์สำคัญในวันที่ 18 มิ.ย.

สถานการณ์การเมืองช่วงกลางปี 2568 เข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ยื่นเงื่อนไขต่อพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิใจไทย” เพื่อขอทวงคืนเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมว.มท.) พร้อมเสนอแลกเปลี่ยนกับ 2 ตำแหน่ง คือ รมว.สาธารณสุข และ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางแรงต้านจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เคยประกาศชัดเจนว่า หากถูกทวงเก้าอี้มหาดไทย จะไม่ลังเลในการพาพรรคพลิกขั้วไปเป็นฝ่ายค้าน ท่าทีแข็งกร้าวนี้จึงทำให้เดดไลน์ 48 ชั่วโมงที่เพื่อไทยวางไว้ กลายเป็นจุดตัดสินใจสำคัญ ซึ่งหากพรรคภูมิใจไทย “ยอมหักไม่ยอมงอ” โฉมหน้ารัฐบาลอาจเปลี่ยนทันที

เศรษฐกิจเร่งเครื่อง บอร์ดใหญ่เคาะงบกระตุ้นรอบแรก

ในวันเดียวกันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นผู้นำการประชุมพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้งบรวม 157,000 ล้านบาท โดยจะเลือกอนุมัติโครงการที่มีความพร้อมเป็นลำดับแรก ซึ่งขณะนี้มีโครงการที่เสนออนุมัติแล้วรวมกว่าแสนล้านบาท

นอกจากนั้นยังมีภารกิจสำคัญของรัฐมนตรีและหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ได้แก่

 • การแถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ เดือนพฤษภาคม โดย รมว.พาณิชย์ พิชัย นริพทะพันธุ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ส่งสัญญาณว่า “ส่งออกไทยเดือน พ.ค. ขยายตัวระดับ 2 หลัก”

 • การแถลงดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมโดย ส.อ.ท.

 • การแถลงภาพรวมเศรษฐกิจโลก-ไทย ไตรมาส 2/2568 โดยศูนย์วิจัย SCB EIC

ศึกชายแดนกัมพูชายังยืดเยื้อ

ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชายังปะทุต่อเนื่อง ตั้งแต่กรณีการปิดด่านชายแดน หยุดรับซื้อไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ตจากไทย และการสั่งห้ามนำเข้าสินค้าผักผลไม้ไทย โดยในเช้าวันนี้ (18 มิ.ย.) ทางการกัมพูชายังมีการเคลื่อนไหวปลุกระดมมวลชนเดินขบวนในกรุงพนมเปญ เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อกองทัพและปลุกกระแสชาตินิยม

สถานการณ์นี้อาจส่งผลต่อการค้าชายแดนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทูตและการรับมือเชิงยุทธศาสตร์ของกองทัพไทยในระยะยาว

ภารกิจ ครม. และ กทม.

นอกจากประเด็นการเมืองและเศรษฐกิจแล้ว ยังมีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลุ่มเปราะบางของประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานลงนาม MOU กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง และเข้าร่วมประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงบ่าย

ด้านกระทรวงพาณิชย์มีภารกิจลงนามความร่วมมือกับสายการบินไทยแอร์เอเชียเพื่อกระจายสินค้าเกษตร และเปิดงาน Crafts Bangkok 2025 ส่วนฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานคร นำโดยรองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ผิวงาม จะลงพื้นที่ตรวจราชการในเขตสัมพันธวงศ์