ตรึงราคาดีเซล 33 บ.ถึงต.ค. จำกัดอัพไซด์กำไรสต๊อกน้ำมัน

#PTG #ทันหุ้น- บทวิเคราะห์โดยบล.กสิกรไทยระบุว่า ครม.รับทราบการตรึงเพดานราคาขายปลีกนำมันดีเซลที่ 33.0 บาท/ลิตร ไปจนถึงเดือน ต.ค.2567ซึ่งเป็นการจำกัด upside จากกำไรจากสต๊อกน้ำมัน

รัฐบาลกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันและนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอน แต่อาจสร้างอุปสงค์เชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มเติม

บล.กสิกรไทยคงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน เนื่องจากค่าการตลาดจะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมโดยการปรับเงินนำส่งกองทุนน้ำมัน ซึ่งกองทุนมีสถานะขาดดุลสูง

Investment Topics

ขยายเวลาตรึงเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไปจนถึงเดือน ต.ค. เมื่อวานนี้ ครม.มีมติรับทราบการขยายเวลาการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ 33.0 บาท/ลิตร ไปจนถึงเดือน ต.ค.2567ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐบาลที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสำหรับประชาชน

ข้อบังคับใหม่จะสร้างความไม่แน่นอนให้กับอุตสาหกรรม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงานระบุว่ากระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายเพื่อปรับโครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศและนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพ ตลอดจนให้อำนาจกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการกำหนดราคาน้ำมันในประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังอยู่ระหว่างการเจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อขอลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันดีเซล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเสริมในการควบคุมราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศ

มุมมองที่เป็นกลางต่อพัฒนาการดังกล่าว บล.กสิกรไทยมีมุมมมองที่เป็นกลางต่อพัฒนาการดังที่กล่าวข้างต้น เนื่องจาก 1) มติ ครม.สามารถตีความได้ว่าค่าการตลาดจะยังคงถูกกำหนดโดยการปรับกองทุนน้ำมันฯ แทนที่จะสะท้อนถึงอุปสงค์/อุปทาน ของตลาดน้ำมันในประเทศ 2) จากฐานะของกองทุนน้ำมันฯ ในปัจจุบันที่ยังติดลบอยู่ราว 1.11 แสนลบ. อาจหมายความว่าค่าการตลาดจะยังอยู่ในกรอบต่ำของระดับปกติ ซึ่งอาจจะอยู่ที่ 1.7-1.8 บาท/ลิตร และ 3)ผู้ประกอบการขายปลีกน้ำมันจะไม่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันเพิ่มเติม เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับเพดานสูงสุดแล้ว

ร่างแผนน้ำมัน (Oil Plan) ปี 2567 จะเสนอทางเลือกให้กับเชื้อเพลิงชีวภาพ หากอิงจากร่าง Oil Plan ปี 2567 ที่เพิ่งทำประชาพิจารณ์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แผนดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเชล B7 เป็นน้ำมันดีเซลฐาน (แทน B10) และเลือกระหว่างแก๊สโซฮอล์ E10 หรือ E20 เป็นน้ำมันเบนซินฐาน (แทน E20) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากรัฐบาลชุดก่อนๆ อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวยังพยายามส่งเสริมให้มีการใช้ B100และเอทานอลส่วนเกินในการใช้งานอื่นๆ เช่น เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) และ bio-VSFO (เชื้อเพลิงสำหรับเรือ)

Valuation and Recommendation

คงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน บล.กสิกรไทยคงมุมมองที่เป็นกลางต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกและนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพ แม้ว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดได้ผ่านไปแล้วในช่วงราคาน้ำมันดิบสูงกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล แต่การขาดดุลของกองทนน้ำมันฯ และอุปทานส่วนเกินของตลาดเชื้อเพลิงชีวภาพในประเทศจะจำกัด upside ต่ออัตรากำไรของผู้ของผู้ประกอบการขายปลีกน้ำมัน/ผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในระยะสั้นถึงระยะกลาง นอกจากนี้ กลุ่มโอเปก+ ยังคงควบคุมอุปทานน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นการช่วยป้องกัน downside ของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีกน้ำมันยังคงเป็น PTG ("ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 10.40 บาท) จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2567 ที่แข็งแกร่ง