"Meta" จ่อหั่นงบเมตาเวิร์ส-ปลดพนักงานหันทุ่ม AI และ แว่นอัจฉริยะ

สำนักรอยเตอร์ รายงานว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับลดทรัพยากรที่ใช้พัฒนาเมตาเวิร์สอย่างมีนัยสำคัญ แม้เมตาเวิร์สเคยถูกวางให้เป็นอนาคตของบริษัทและเป็นเหตุผลสำคัญในการเปลี่ยนชื่อจากเฟซบุ๊กเป็นเมตาเมื่อปี 2021

ในการจัดทำงบประมาณปี 2026 ผู้บริหารเมตากำลังหารือการลดงบฝ่ายเมตาเวิร์สสูงสุดราวร้อยละ 30 ซึ่งครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์โลกเสมือน Meta Horizon Worlds และธุรกิจแว่นความจริงเสมือน Quest โดยตัวเลขในระดับนี้มีแนวโน้มจะตามมาด้วยการปลดพนักงานตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า แม้ยังไม่ได้ข้อยุติสุดท้ายก็ตาม

เมตา ยืนยันทิศทางการลดใช้ทรัพยากรในเมตาเวิร์ส และระบุว่าจะนำงบประมาณส่วนหนึ่งไปเสริมโครงการอนาคตอื่นใน Reality Labs ทั้งแว่นเอไอและอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ สอดคล้องกับแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับฮาร์ดแวร์ที่ผูกกับประสบการณ์เอไอ เช่น แว่นอัจฉริยะ Ray-Ban ของเมตา

รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ซักเคอร์เบิร์ก ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานมองหาการลดค่าใช้จ่ายราวร้อยละ 10 แต่สั่งให้ฝ่ายเมตาเวิร์สลดมากกว่าหน่วยอื่น เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวไม่ได้เผชิญการแข่งขันรุนแรงตามที่เคยคาดไว้ ขณะที่เมตายังคงเผชิญแรงกดดันจากนักลงทุนต่อการขาดทุนของ Reality Labs ซึ่งสูญเงินสะสมไปแล้วมากกว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ต้นปี 2021

เมตา เคยรีแบรนด์องค์กรรอบใหญ่โดยผูกอนาคตไว้กับเมตาเวิร์ส ทั้งการทำงานและความบันเทิงในโลกเสมือน แต่ถึงวันนี้วิสัยทัศน์ดังกล่าวยังไม่เกิดการยอมรับในวงกว้าง ซักเคอร์เบิร์กจึงหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ แชตบอต และผลิตภัณฑ์เอไอเชิงกำเนิดมากขึ้น ทั้งแพลตฟอร์ม Llama, Meta AI และแว่นเอไอรูปแบบต่าง ๆ

แม้มีเสียงเรียกร้องจากบางนักลงทุนให้ทบทวนหรือยุติโครงการที่ขาดทุนใน Reality Labs แต่เมตายังคงยืนยันความตั้งใจจะพัฒนาฮาร์ดแวร์ผู้บริโภคต่อไป ล่าสุดยังดึงผู้บริหารงานออกแบบระดับสูงจากแอมะซอนเข้ามาช่วยเสริมทัพ ในขณะที่ราคาหุ้นเมตาปรับเพิ่มขึ้นราว ร้อยละ 3.4 หลังมีรายงานแผนปรับลดงบเมตาเวิร์สสะท้อนมุมมองเชิงบวกของตลาดต่อการควบคุมต้นทุนและย้ายทรัพยากรไปสู่ธุรกิจเอไอที่สร้างโอกาสเติบโตมากกว่า