สวัสดีค่ะ ทุกท่านกลับมาพบกับ Diary Therapy กันอีกครั้งนะคะ ผู้เขียนเคยเขียนเกี่ยวกับประโยคที่ช่วยสร้างลูกให้เป็นเด็กสองภาษา ส่วนหนึ่งที่อยากแบ่งปันเนื่องจาก หลาย ๆ โรงเรียนก็เริ่มปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนเป็นแบบ bilingual แต่สำหรับผู้ปกครองบางท่านอาจไม่สามารถส่งลูกเรียนจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น วันนี้จริงอยากมาแบ่งปันคำและประโยคเกี่ยวกับการพาลูกไปหาหมอไว้สำหรับพูดคุยกับลูกกันค่ะ1. ไปหาหมอขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabayในความเป็นจริงคุณหมอในประเทศเราก็คงพูดภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาแม่ของเราอยู่แล้วค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อาจใช้คำถามแทนคุณหมอโดยพูดคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะทางด้านภาษานอกเหนือจากการพูดคุยเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้ค่ะตัวอย่างประโยคWhere do you hurt?เจ็บตรงไหนบ้างค่ะDoes it hurt here?ตรงนี้เจ็บไหมDo you have a headache?ปวดหัวหรือเปล่าค่ะLet me check your temperature.ขอหมอวัดไข้หน่อยนะYou have a cold.หนูเป็นหวัดนะคะ2. พูดคุยกับคุณหมอเมื่อไปหาคุณหมอมักจะเจอคำถามที่คุณหมอจะถามเกี่ยวอาการต่าง ๆ จากคำถามที่เรามักเจอจากข้อ 1 ทีนี่มาดูคำตอบที่เด็ก ๆ สามารถใช้ในการตอบคำถามกันค่ะขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabayตัวอย่างประโยคWhat's the problem?หนูเป็นอะไรมาคะเด็ก ๆ สามารถบอกเล่าอาการโดยใช้ประโยคเหล่านี้ค่ะI have a stomachache.หนูปวดท้องค่ะI have a headache.หนูปวดหัวค่ะI have a cough.หนูมีอาการไอค่ะหลายครั้งที่เด็ก ๆ ต้องโดยฉีดยาเช่นการฉีดวัคซีน อาจจะมีคำถาม ถามคุณหมอว่าWill the needle hurt?ฉีดยาเจ็บไหมค่ะIt will hurt just a little bit.ฉีดยาเจ็บนิดเดียวค่ะNo, the needle won't hurt.ฉีดยาไม่เจ็บเลย3. ต้องทำแผลขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabayตัวอย่างประโยคI'm dressing your wound.หมอจะทำแผลให้นะDoes it hurt?เจ็บไหมค่ะ? (เมื่อเด็ก ๆ อยากถามเกี่ยวกับการทำแผลอาจใช้คำถามนี้ค่ะ)You have to put up with a little discomfort.หนูต้องทนเจ็บนิดนึงนะคะNo, it doesn't.ไม่เจ็บเลยค่ะ4. เมื่อไปหาหมอฟันขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabayนอกจากการไปหาหมอเพื่อตรวจอาการเจ็บป่วยแล้ว เราอาจมีโอกาสไปพาเด็ก ๆ ไปหาหมอฟันสามารถช่วยลูกพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะตัวอย่างประโยคOpen your mouth wide.อ้าปากกว้าง ๆ จ้าI would like you to relax, now, and try not to talk for the moment.หมออยากให้หนูนอนสบาย ๆ และอย่าเพิ่งพูดสักแป๊บนึงนะคะ (แต่หากแม่เป็นคนพูดประโยคนี้จะมีความหมายว่า) แม่อยากให้หนูนอนสบาย ๆ และอย่าเพิ่งพูดสักแป๊บนึงนะคะYou have a decayed tooth.หนูมีฟันผุ 1 ซี่นะI have to take the decayed tooth out.หมอต้องถอนฟันที่ผุออกนะคะYou should brush your teeth at least twice a day.หนูควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งนะคะการเรียนรู้ภาษาที่สองอย่างภาษาอังกฤษ มีรูปแบบการเรียนรู้คล้ายกับการฝึกให้ลูกพูดภาษาไทยค่ะ การฝึกฝนบ่อย ๆ จะทำให้ลูกสามารถเรียนรู้ได้เหมือนกับการสอนให้ลูกหัดเรียก พ่อแม่ ความแตกต่างอย่างนึงของการฝึกภาษาอังกฤษคือการที่เราไม่ได้พูดทุกวันจึงอาจทำให้ยากในการเรียนรู้ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าทุกท่านทำได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ สำหรับบทความนี้ผู้เขียนหวังว่าจะมีประโยชน์และถูกใจหลาย ๆ ท่านนะคะ ไว้พบกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ขอฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีค่ะ ติดตามบทความอื่น ๆ ที่นี่ค่ะ: Diary Therapyขอบคุณรูปภาพปก: จาก Pixabay Diary Therapy