'สหภาพยุโรป' พร้อมใจเตือนประชาชน เฝ้าระวังโควิด-19 ต่อเนื่อง
โรม, 15 ธ.ค. (ซินหัว) -- คณะผู้นำทางสาธารณสุขและการเมืองของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องพลเมืองเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน ที่อุบัติใหม่และมีการกลายพันธุ์สูง แม้อัตราการป่วยโรคโควิด-19 ในบางพื้นที่ของสหภาพยุโรปลดลงก็ตาม
ทิศทางการระบาดของโรคโควิด-19 ในยุโรปเมื่อสัปดาห์ก่อนแตกต่างกัน โดยเยอรมนี โปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และสาธารณรัฐเช็ก มีอัตราการติดเชื้อรายสัปดาห์ลดลงเมื่อนับถึงวันอังคาร (14 ธ.ค.) สวนทางกับฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน แต่ผู้นำทุกประเทศล้วนส่งสารเตือนไปในทิศทางเดียวกัน
"เรายังจำเป็นต้องสนใจและระมัดระวังตัวมากขึ้น" เซอร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลีกล่าว เช่นเดียวกับโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ที่เรียกร้องประชาชนช่วยกันเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วน ขณะฝรั่งเศสเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือการระบาดระลอกใหม่จากสายพันธุ์โอไมครอน
ขณะเดียวกันเบลเยียม ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สวีเดน โปแลนด์ และเยอรมนี รวมถึงประเทศอียูอื่นๆ ยังออกข้อจำกัดควบคุมโรคโควิด-19 ชุดใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมยกระดับกฎระเบียบเกี่ยวกับบัตรผ่านสุขภาพหรือจำกัดการรวมตัวขนาดใหญ่
เมื่อวันอังคาร (14 ธ.ค.) อิตาลีประกาศขยายระยะเวลาของภาวะฉุกเฉินจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2022 ส่วนเบลเยียมกำลังเปิดตัวข้อมูลใหม่ เพื่อประเมินความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสฯ ในสถานการณ์ต่างๆ และความน่าจะเป็นของการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง
ด้านเนเธอร์แลนด์ขยายระยะเวลาของกฎเคอร์ฟิวจนถึงหลังวันหยุดปีใหม่ พร้อมคุมเข้มกฎระเบียบบัตรผ่านสุขภาพ โปแลนด์สั่งจำกัดการเข้าใช้บริการสถาบันทางวัฒนธรรม อาทิ พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ และโรงละคร ส่วนกรีซเริ่มเดินหน้าปรับเงินผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขณะสโลวาเกียเริ่มจ่ายโบนัสเงินสดให้พลเมืองกลุ่มเปราะบางที่สุดแล้ว