สวัสดีครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน :) บทความนี้ผมได้นำเอางานวิจัยทางจิตวิทยาที่สนุก ๆ มาแบ่งปันให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกัน เพื่อให้เกิดความสนุกและเพิ่มพูนความรู้ให้กับทุกท่าน ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของมนุษย์ซึ่งผมอ่านแล้วเห็นว่าน่าสนใจอย่างมาก ผมคิดว่าหากเราได้เห็นผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็อาจจะทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมของตัวเราเองและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้นได้อีกด้วย หากพร้อมแล้วก็ลองอ่านกันได้เลยครับ การทดลองชิ้นนี้เกิดขึ้นในปีค.ศ. 1967 เป็นการทดลองเพื่อศึกษาพฤติกรรมทางสังคม โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ G. R. Stephenson โดยการทดลองนี้ได้นำลิงทั้งหมด 5 ตัวไปขังรวมกันไว้ในห้อง ซึ่งภายในห้องจะมีบันไดอยู่ตรงกลางและที่ปลายสุดของบันไดมีกล้วยแขวนอยู่ตรงเพดาน หากมีลิงตัวใดตัวหนึ่งพยายามขึ้นบันไดไปเอากล้วยก็จะมีสปริงเกอร์ฉีดน้ำที่เย็นจัดออกมาจนกว่าจะไม่มีลิงตัวไหนอยู่บนบันได ด้วยสัญชาตยานของลิงแล้วมันก็ย่อมต้องปีนขึ้นไปเอากล้วยเป็นธรรมดาและเมื่อมันปีนขึ้นไปจนมีน้ำเย็นฉีดออกมา ลิงทุกตัวจึงเรียนรู้ว่าเมื่อใดที่มีลิงพยายามขึ้นบันไดจะทำให้ทุกตัวในนี้เดือดร้อน มันจึงรุมทำร้ายลิงตัวที่จะพยายามขึ้นบันได จนไม่มีลิงตัวไหนกล้าขึ้นบันไดในที่สุดแต่การทดลองยังไม่จบเท่านี้เพราะสิ่งที่น่าสนใจในการทดลองนี้คือ นักวิจัยได้เปลี่ยนเอาลิงตัวเก่าออก 1 ตัวและส่งลิงตัวใหม่เข้าไปแทน ด้วยสัญชาตยานของมันที่ไม่รู้เรื่องอะไรจึงทำให้ลิงตัวใหม่นี้พยายามจะปีนขึ้นไปเอากล้วย แต่ว่าเมื่อลิงตัวใหม่พยายามปีนบันไดก็จะโดนลิงตัวเก่าทั้ง 4 ตัวรุมทำร้ายทันที จนลิงตัวใหม่รู้ว่าหากขึ้นบันไดต้องโดนทำร้าย การทดลองได้ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คือนำลิงตัวเก่าออกและเอาลิงตัวใหม่เข้าไปแทน จนในห้องไม่เหลือลิง 5 ตัวแรกที่เคยโดนน้ำเย็นอยู่เลย แต่ผลที่ได้ก็เหมือนเดิมคือหากมีลิงตัวใดพยายามปีนบันไดต้องโดนลิงทุกตัวรุมทำร้าย โดยที่พวกลิงตัวใหม่พวกนี้ก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากปีนบันได แต่ก็ทำตามสิ่งที่ลิงตัวอื่น ๆ ทำตามกันมา จากการทดลองนี้สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิตซึ่งก็คือการกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะหากไม่ทำตามคนอื่นอาจจะทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากปีนบันไดขึ้นไป แต่การทำตามกันแบบนี้ก็ทำให้ลิงพวกนั้นรู้สึกว่าตนเองปลอดภัยและไม่รู้สึกแปลกแยกจากฝูง พฤติกรรมเหล่านี้คุ้น ๆ ไหมครับใช่แล้วครับ การทดลองนี้มันสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมแบบนี้ที่มีอยู่ในตัวมนุษย์อย่างเรา ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะมนุษย์เราเองก็เป็นเช่นนี้ คือทำตามคำบอกเล่าหรือความเชื่อของคนอื่นมากเกินไป หากไม่ได้ใช้ปัญญาไตร่ตรองหาเหตุผลให้ดีก็อาจจะทำให้พลาดสิ่งดี ๆ ไป เปรียบดั่งลิงที่อดกินกล้วยเพราะทำตามสิ่งที่ลิงตัวอื่น ๆ สืบทอดต่อกันมา หากมีไอเดียใหม่ ๆ ที่คุณคิดได้หรือคุณอาจจะเชื่อมั่นในการทำบางสิ่งบางอย่าง ก็อย่าให้ประสบการณ์ของคนอื่นมาตัดสินว่าคุณจะทำไม่ได้ จนกว่าคุณจะได้ลองทำมันด้วยตัวเองและใช้ปัญญาของคุณสรุปว่าควรทำหรือไม่ควรทำ บางทีสิ่งที่คุณทำมันอาจจะประสบผลสำเร็จและเป็นประโยชน์ก็ได้ ฉะนั้นก็จงอย่าอยู่ภายใต้ประสบการณ์ของคนอื่นจนทำให้ไม่กล้าลองอะไรใหม่ ๆ ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์เราควรแยกแยะให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่สมควรทำมากกว่าการที่เราไปแห่ทำตามผู้อื่นโดยไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง ในเมื่อเราเกิดมามีสติปัญญาที่สูงกว่าลิงแล้วก็จงใช้มันสร้างผลลัพธ์ของเราให้แตกต่างจากลิงซะ การทำตามคนอื่นอาจทำให้รู้สึกปลอดภัยก็จริงแต่มันไม่สามารถทำให้เราพัฒนาให้ดีกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน หากกล้าลองอาจจะมีโอกาสสำเร็จถึง 50% แต่ถ้าไม่ลองเลยโอกาสที่จะสำเร็จคือ 0% แน่นอน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านนะครับ อ้างอิงข้อมูลจาก https://medinfo.psu.ac.th/pr/WebBoard/readboard.php?id=20762https://www.youtube.com/watch?v=w22Khe3Zjewขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay ภาพปก/ภาพที่2/ภาพที่3/ขอบคุณภาพประกอบจาก pexels ภาพที่1/ภาพที่4/ภาพที่5/