ทุกคนคงมีหนังจีนที่ชอบดูใช่มั้ยคะ ในสมัยเด็กๆพ่อของผู้เขียนชอบดูหนังจีนมากเลยค่ะ โดยเฉพาะหนังจีนแบบ Musical ที่ร้องเพลงจีนไปด้วย หรือหนังงิ้วนั่นแหละ หลายคนที่ชอบดูหนังจีนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังจีนนั้นสนุกมากๆ แม้จะมีเนื้อหาบางอย่างที่ไม่สมจริงไปบ้างแต่ถึงแบบนั้นเราก็หยุดดูไม่ได้อยู่ดี โดยเฉพาะหนังจีนโบราณ แล้วทุกคนรู้มั้ยคะว่าเวลาเราดูหนังจีนโบราณ บทหนังบทหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือบท ขันที หรือคนรับใช้พระราชาพระราชินีในพระราชวังนั่นเอง ทุกคนรู้มั้ยคะว่าขันทีไม่ได้มีแค่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่พบเจอในยุโรป อย่างในอินเดียหรือตุรกี ขันทีในภาษาไทยมีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต ซึ่งมีความหมายว่าการไร้อวัยวะเพศชาย หรือการตัด แต่ในภาษากรีกแปลว่า ผู้รักษาเตียงส่วนภาษาจีนจะเรียกว่าไท้เจียน หรือว่าไถ่กังในภาษาแต้จิ๋ว การมีขันทีในพระราชวังสมัยก่อน มีไว้เพื่อให้ทำงานในหน้าที่ที่ผู้หญิงทำไม่ได้ เช่นการควบคุมนางในฝั่งพระราชฐาน ให้คำปรึกษาพระราชาในการปกครองแผ่นดิน รวมไปถึงกล่อมพระราชาในการเข้านอนในบางยุคสมัย ขันทีก็เอาแต่ปรนเปรอฮ่องเต้ จนฮ่องเต้ไร้ความสามารถ บ้านเมืองระส่ำระส่าย ประชาชนมีปัญหา อย่างเช่น ยุคสามก๊ก หรือราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง ทุกคนรู้มั้ยคะว่าในราชวงศ์ชิงนั่นมีสงครามครั้งสำคัญเกิดขึ้นซึ่งเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของจีนไปทั้งประเทศ นั้นก็คือสงครามฝิ่น ประเทศจีนที่เป็นประเทศปิดมานาน ต้องทำการเปิดประเทศครั้งแรกเพื่อทำการต้อนรับ 15 ประเทศ แต่ประเทศหลักคือ อังกฤษ และฮอลันดา ในการนำเข้าฝิ่นขึ้นมา จนเกิดเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวรรดิจีน ไม่มีราชวงศ์อีกต่อไปกลับมาเข้าเรื่องขันทีต่อ เนื่องจากสมัยก่อนจีนโบราณนั้น ประเทศจีนมีการแบ่งชนชั้นทางสังคมด้วยฐานะอย่างชัดเจน คนที่ลำบาก็ลำบากมาก จึงมีประชาชนแข่งขันกันเพื่อส่งลูกชายไปเป็นขันทีในวัง ผู้หญิงจะให้เป็นนางสนม แต่พระราชาและขุนนางกลัวว่าขันทีจะมีความสนิทสนมชิดเชื้อกับนางสนมจนเกิดความสัมพันธ์ตามมา จึงเกิดความคิดแปลกๆด้วยการตัดอวัยวะเพศชาย เคยมียุคหนึ่งที่อาชีพขันทีเป็นที่นิยมมากจนมีสถาบันสอนการเป็นขันทีเกิดขึ้นในจีน ว่าคนที่เป็นขันทีเนี้ยจะต้องเป็นคนฉลาด มีศีลธรรม รู้หลักบ้านเมืองและยังต้องเป็นคนที่หน้าตาดีสมัยก่อนจะมีคนกลางตัดตรงนั้นสำหรับคนที่ต้องการที่จะเข้ามาเป็นขันที ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพอมาเป็นขันที จำนวนคนที่อยากมาเป็นขันทีจึงมีเพิ่มขึ้นมา จนพระราชวังไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงมีกฏออกมาว่าใครอยากเป็นขันที ก็จะต้องทำการตอนด้วยตัวเองเลยมีการส่งวิธีการตอนเหมือนคัมภีร์ศึกษาให้แบบรุ่นต่อรุ่น โดยไม่มีการส่งต่อขั้นตอนการตอนด้วยตัวเองนี่กับคนนอกตระกูลตัวเองเด็ดขาดดังนั้นผู้ที่ต้องการจะเป็นขันที แต่ไม่มีใครในครอบครัวที่เป็นขันที และต้องการจะตอนด้วยตัวเองเนี้ย ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง และการเสียชีวิตจากการตอนก็เป็นเรื่องธรรมดาในยุคสมัยนั้นขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 โดย DEZALB / 2 โดย viarami / 3 โดย kian201