ฝากขังพ่อเด็กหญิง 12 ปี ข่มขืนลูกแท้ๆ 'ผู้ว่าฯโคราช' เร่งเยียวยาครอบครัว
กรณีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เดินทางมาที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อให้ความช่วยเหลือคดีพ่อแท้ๆ อายุ 56 ปี ข่มขืนลูกสาวแท้ ๆ อายุ 12 ปี ภายหลังจากที่ได้รับร้องเรียนจากป้าของเด็กหญิง ให้มาช่วยเหลือเร่งรัดคดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นพ่อแท้ๆ และเด็กหญิงก็เป็นเด็กพิเศษ ด้วย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง ได้ทำการจับกุมพ่อของเด็กมาดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้23 มิถุนายน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบข่าว ตนเองก็ได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวนครราชสีมา ซึ่งเรียกว่าทีม One Home จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ไปพบกับครอบครัวเด็ก เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น เบื้องต้นทราบมาว่า ครอบครัวนี้ พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน คือ ตา ยาย มารดา เด็ก และน้องของเด็ก โดยมีรายได้หลักจากตาที่ทำอาชีพทำงานก่อสร้าง วันละ 350 บาท และมีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตายกับยาย รวมกันเดือนละ 1,200 บาท แต่ว่าต้องเสียค่าเช่าที่ดินอยู่อาศัย เดือนละ 3,000 บาท และมีหนี้สินอยู่ประมาณ 10,000 บาท ส่วนเด็กหญิงอายุ 12 ปี เรียนจบ ป.6 แล้ว แต่ยังไม่ได้ศึกษาต่อเพราะครอบครัวมีปัญหาฐานะยากจน
ดังนั้นทางจังหวัดฯ จึงมีแนวทางการช่วยเหลือในเบื้องต้น 8 ข้อ ประกอบไปด้วย
1.การคุ้มครองสวัสดิภาพ ปัจจุบันผู้กระทำถูกควบคุมตัวเพื่อรอฝากขัง ในระหว่างการดำเนินคดี หากผู้กระทำมีการประกันตัวทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมาจะรับตัวเด็กและมารดาเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ แต่ในเบื้องต้นมารดาเด็กแจ้งว่าหากผู้กระทำถูกควบคุมตัวแล้วตนเองก็ไม่มีความกังวลด้านความปลอดภัย
2.การสอบปากคำเด็กในฐานะพยานได้ดำเนินการประสานนักจิตหรือนักสังคมตาม ป.วิอาญาร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ได้แก่ พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน และบุคคลที่เด็กไว้วางใจ โดยพนักงานสอบสวนได้จัดให้มีการสอบปากคำโดยทันทีในวันนี้ และจะมีการจัดทีมนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์คุ้มครองเด็กในชั้นการพิจารณาคดีศาลจังหวัดนครราชสีมาต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ
3. สิทธิผู้พิการจะได้ดำเนินการดังนี้
-ดำเนินการออกบัตรผู้พิการ เพื่อให้เด็กเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการผู้พิการ และให้น้องเด็กตรวจประเมินพัฒนาการ
-ประสานโรงเรียนราชสีมาปัญญานุกูล เพื่อให้เด็กได้เข้ารับการศึกษาต่อในระดับชั้น ม. 1
4.การสงเคราะห์เด็กและครอบครัวนำเรื่องพิจารณาให้การช่วยเหลือกองทุนคุ้มครองเด็กและเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจนแก่เด็กทั้ง 2 ราย และเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง
5.ประสานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้มารดาเด็กได้ทำงานรับจ้างทำความสะอาด ซึ่งเป็นงานที่มารดาเด็กมีความชำนาญและประสงค์
6. ประสานเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อยื่นรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของน้องชายเด็ก
7.ประสานโรงพยาบาลเทพรัตน์ ให้การดูแลทางด้านร่างกายและจิตใจวางแผนจะบำบัดฟื้นฟูและวางแผนการคุมกำเนิดให้กับเด็ก เนื่องจากเด็กเป็นผู้พิการทางสติปัญญา
8.ด้านที่พักอาศัยจะได้ประสาน อปท.ในเขตพื้นที่ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดหาที่อยู่อาศัยต่อไป