Xenosaga Episode III: Also sprach Zarathustra เป็นเกม RPG ภาคสุดท้ายของไตรภาค Xenosaga ที่วางจำหน่ายในปี 2006 สำหรับ PlayStation 2 พัฒนาโดย Monolith Soft และจัดจำหน่ายโดย Namco Bandai Games เกมนี้ปิดฉากการเดินทางอันยาวนานของตัวละครหลักอย่าง Shion Uzuki และเพื่อนๆ ในการต่อสู้กับภัยคุกคามที่มีต่อจักรวาล เนื้อเรื่อง: เนื้อเรื่องของ Xenosaga III ถือว่าซับซ้อนและลึกซึ้งมาก โดยจะดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว เราจะได้เห็นการเปิดเผยความลับต่างๆ ที่ถูกซ่อนไว้มาตลอดทั้งไตรภาค ไม่ว่าจะเป็นต้นกำเนิดของ KOS-MOS หุ่นยนต์สาวผู้ลึกลับ, ความเชื่อมโยงระหว่าง Shion กับองค์กร U-TIC และ Ormus รวมถึงความจริงเบื้องหลังการล่มสลายของอารยธรรมโบราณ Lost Jerusalem ผมรู้สึกประทับใจกับวิธีการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ คลี่คลายปมต่างๆ อย่างละเอียด แม้บางครั้งจะรู้สึกงงกับศัพท์เฉพาะทางวิทยาศาสตร์และปรัชญาที่ใช้ในเกม แต่ก็ทำให้รู้สึกถึงความลึกซึ้งของเนื้อเรื่อง การที่เกมพยายามผสมผสานแนวคิดทางศาสนา วิทยาศาสตร์ และปรัชญาเข้าด้วยกันนั้น ทำให้ผมต้องคิดตามและตีความอยู่ตลอดเวลา ระบบการเล่น: ระบบการต่อสู้ของ Xenosaga III ได้รับการปรับปรุงให้มีความสมดุลและสนุกมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ การต่อสู้ยังคงเป็นแบบผลัดกันโจมตี (turn-based) แต่มีการเพิ่มระบบ "break" และ "boost" ที่ช่วยเพิ่มมิติในการวางแผนการต่อสู้ ระบบ E.S. (giant mech) battles ก็ได้รับการปรับปรุงให้น่าสนใจมากขึ้น ผมชอบที่ระบบการต่อสู้มีความท้าทายพอสมควร ต้องคิดกลยุทธ์ในการจัดทีมและเลือกใช้สกิลให้เหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ เกมที่ศัตรูแข็งแกร่งขึ้นมาก การเก็บเลเวลและหาอาวุธที่ดีๆ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รู้สึกสนุกกับการเล่น กราฟิกและเสียง: กราฟิกของ Xenosaga III ถือว่าทำออกมาได้ดีมากสำหรับเกม PS2 ในยุคนั้น ตัวละครมีการออกแบบที่สวยงาม ฉากหลังและเอฟเฟกต์ต่างๆ ก็ทำออกมาได้อลังการ โดยเฉพาะฉาก cutscene ที่เหมือนกำลังดูภาพยนตร์ anime คุณภาพสูง ส่วนด้านเสียง ดนตรีประกอบของ Yuki Kajiura สร้างบรรยากาศได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบฉากต่อสู้ที่เร้าใจ หรือเพลงบรรยากาศที่ช่วยสร้างอารมณ์ให้กับฉากสำคัญๆ เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นก็ทำออกมาได้ดี สื่ออารมณ์ของตัวละครได้อย่างชัดเจน ตัวละคร: การพัฒนาตัวละครใน Xenosaga III ถือเป็นจุดเด่นของเกมนี้ เราจะได้เห็นการเติบโตทางอารมณ์และความคิดของตัวละครหลักอย่าง Shion ที่ต้องเผชิญกับความจริงอันโหดร้ายและการตัดสินใจที่ยากลำบาก ความสัมพันธ์ระหว่าง KOS-MOS และ chaos ก็ถูกเปิดเผยมากขึ้น ทำให้เข้าใจถึงบทบาทสำคัญของพวกเขาในจักรวาลนี้ ผมรู้สึกผูกพันกับตัวละครมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดการเล่น โดยเฉพาะ Jr. ที่แม้จะมีร่างกายเป็นเด็ก แต่กลับมีความเป็นผู้ใหญ่และความรับผิดชอบสูง การได้เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่างๆ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังติดตามชีวิตของเพื่อนที่รู้จักมานาน ความยาวและเนื้อหาเสริม: Xenosaga III มีความยาวประมาณ 50-60 ชั่วโมงสำหรับการเล่นจบเนื้อเรื่องหลัก แต่หากต้องการทำภารกิจเสริมและหาไอเทมลับต่างๆ อาจใช้เวลาถึง 80-100 ชั่วโมง เกมมีเนื้อหาเสริมมากมาย เช่น mini-game Hakox, ระบบ Character Relationships, และ Database ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจักรวาลของ Xenosaga ผมใช้เวลาเล่นเกมนี้ประมาณ 70 ชั่วโมง โดยทำภารกิจเสริมไปบ้างแต่ไม่ได้ทำทั้งหมด รู้สึกว่าเนื้อหาของเกมค่อนข้างอัดแน่น บางครั้งก็รู้สึกว่ามีข้อมูลให้ดูดซับมากเกินไป แต่ก็ชอบที่เกมให้อิสระในการสำรวจและค้นหาความลับต่างๆ สรุป: Xenosaga Episode III: Also sprach Zarathustra เป็นการปิดฉากไตรภาค Xenosaga ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะมีจุดด้อยบ้างในเรื่องของความซับซ้อนของเนื้อเรื่องที่อาจทำให้ผู้เล่นใหม่เข้าใจยาก แต่สำหรับแฟนซีรีส์แล้ว นี่คือรางวัลที่คุ้มค่ากับการรอคอยและติดตามมาตลอดทั้งสามภาค ประสบการณ์ในการเล่นเกมนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ผจญภัยไปในจักรวาลที่กว้างใหญ่ ได้สัมผัสถึงความรู้สึกของตัวละครที่ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่พวกเขารัก และได้ขบคิดถึงคำถามปรัชญาที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และจักรวาล แม้บางครั้งจะรู้สึกสับสนกับเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน แต่ความพยายามในการทำความเข้าใจก็ทำให้รู้สึกคุ้มค่าเมื่อได้เห็นภาพรวมทั้งหมดในตอนจบ Xenosaga III เป็นเกมที่ผมจะแนะนำให้กับแฟน JRPG ที่ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้น และไม่กลัวที่จะเผชิญกับแนวคิดที่ซับซ้อน แม้จะเป็นเกมเก่าแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในโลก sci-fi ที่ผสมผสานกับปรัชญาและศาสนา เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !