พรุ่งนี้! เริ่มลงทะเบียนพักหนี้ SME-รายย่อย ที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการรัฐ
พรุ่งนี้! เริ่มลงทะเบียนพักหนี้ SME-รายย่อย ที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการรัฐ ด้านกรมบังคับคดีเร่งช่วยปชช. ไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ทุกภาคส่วนออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีความสามารถประคับประคองธุรกิจให้ก้าวข้ามความยากลำบากช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ประกอบการSME ซึ่งขณะนี้ธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ได้ขานรับโดยออกมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 2 เดือน ช่วยSME และรายย่อย ที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการของรัฐ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นความประสงค์ที่ธนาคารเจ้าหนี้ ได้ตั้งแต่ วันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ถึง 15 สิงหาคม บางแห่งถึง 31 สิงหาคมนี้
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ร้านตึกแถว ร้านในห้าง ฟู้ดทรัค บูธขายอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบมาหลายระลอก ธนาคารออมสินได้ออกสินเชื่อเป็นการเฉพาะ โครงการ “สินเชื่ออิ่มใจ” ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ไม่ต้องใช้หลักประกัน ปลอดการชำระเงินงวด 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.99 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี นาน 5 ปี โดยเปิดให้ยื่นขอสินเชื่อแล้วจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการ
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ทางกรมบังคับคดียังเร่งให้ความช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้าและร้านอาหาร ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับเจ้าหนี้ ซึ่งจะมีถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี และสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ จำนวน 116 แห่ง ซึ่งการช่วยเหลือดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม เพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ และลูกหนี้ก็สามารถชำระหนี้ได้เช่นกัน อีกทั้งช่วยลดปัญหาหนี้สิน ส่งผลให้ลูกหนี้ไม่ถูกยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ หรือนำไปขายทอดตลาดในที่สุด จึงขอเชิญชวนประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้สินซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้ว และอยู่ระหว่างการบังคับคดี เข้าร่วมการไกล่เกลี่ย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่านระบบออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์กรมบังคับคดี www.led.go.th และแอพพลิเคชั่น Session call หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี หมายเลขโทรศัพท์ 02 881 4840 /02 887 5072 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 และสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ