ผางประทีปทำขึ้นมาเพื่ออะไร ? ต้นกำเนิดของผางประทีปเกิดมาจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวพม่า ในยุคสงครามโลกที่ได้ทำการอพยพย้ายถิ่นกันมาทางภาคเหนือของไทย และได้ทำการตั้งรกรากอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผาและทำผางประทีป ก็คือบ้านน้ำต้น อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ นับตั้งแต่ครั้งอดีต 100 กว่าปีมาแล้ว ปัจจุบันก็ยังมีการปั้นผางประทีปอยู่ไม่กี่หลัง นอกจากการปั้นเพื่อจำหน่ายและขายแล้ว ยังมีการทำเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้แก่วัด เพราะมีความเชื่อกันว่า การได้ถวายผางประทีปจะช่วยให้ชีวิตของเรามีชีวิตที่สว่างไสวเหมือนกับแสงของเปลวเทียน รวมไปถึงจะมีแสงสว่างนำทางเราในยามที่ล่วงลับไปแล้ว หากใครที่ยังไม่รู้ว่าในช่วงลอยกระทงหรือช่วงสิ้นปี จะทำบุญด้วยอะไรดี ก็ลองนำผางประทีปไปเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของการทำบุญได้ เพราะราคาก็ไม่แพง แถมยังมีจำหน่ายอยู่ตลอด วัสดุอุปกรณ์ 1.ขี้ผึ้ง2.สีสาย(ไส้เทียนสำหรับใส่ผางประทีป)3.กาน้ำหรืออุปกรณ์ที่สามารถเทได้4.ผางประทีปเปล่า5.กะละมัง (สำหรับแช่ผางประทีป)6.โต๊ะ7.มีด8.แผ่นพลาสติกสำหรับรองโต๊ะ9.ปีบ (ใส่ขี้ผึ้งที่ละลาย)10.ผ้าสำหรับกรองขี้ผึ้ง ขั้นตอนการทำ การเตรียมขี้ผึ้งสำหรับใช้หล่อผางประทีปสูตรสำหรับการทำขี้ผึ้งเพื่อหล่อผางประทีปจะมีอยู่ 2 อย่างนั้นก็คือ น้ำมันมะพร้าวและขี้ผึ้ง(เทียน) 1.นำขี้ผึ้งหรือเทียนพรรษามาทุบออกให้เป็นก้อนเล็กๆ นำไส้เทียนออก (ถ้าเทียนมีเศษหรือคราบต่างๆให้ขูดออกก่อน เพราะเวลาหล่อจะติดลงไปด้วย)2.ใส่ปีบแล้วตั้งไฟรอให้ละลาย3.พอเทียนเริ่มละลายแล้วให้นำไปกรอกผ้าก่อน และตั้งไปต่อไปอีก10นาที ก็ทำการตักใส่กาเพื่อเตรียมหล่อได้เลย ข้อควรระวัง : เนื่องจากขี้ผึ้งค่อนข้างร้อนตอนกรอกต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การเตรียมผางประทีป 1.นำผางประทีปเปล่ามาแช่น้ำประมาณ 10-15 นาทีทริค : ในการนำผางเปล่าไปแช่น้ำ เพื่อที่จะทำให้อากาศที่อยู่ในดินเผานั้นออกมา แล้วจะทำให้เนื้อของขี้ผึ้งจะติดกับผางได้แน่นขึ้น รวมไปถึงเป็นการทำความสะอาดเบื้องต้นให้ผางประทีปดูสะอาดและสวยงามมากขึ้น 2.หลังจากแช่น้ำเสร็จให้นำมาวางเรียงไว้เพื่อทำการหล่อผางประทีป 3.พอผางประทีปไม่มีน้ำขังและเปียกพอหมาดๆให้นำตีนกาหรือสีสาย จัดให้อยู่ตรงกลางผาง ใส่เตรียมไว้ก่อนหล่อหรือให้จะใส่หลังหล่อก็ได้แล้วแต่สะดวก การหล่อ1.นำขี้ผึ้งใส่ในหม้อกาทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที เพราะความร้อนจากน้ำขี้ผึ้งจะทำให้ตีนกาหรือสีสายล้มได้ ใครที่ทำขายจะรู้ดีว่าจะเป็นชิ้นที่ไม่สวยจะทำให้เราเสียเวลาในการทำใหม่2.พยายามเทขี้ผึ้งลงไปใกล้ๆกับโคนของสีสาย เพราะจะทำให้น้ำขี้ผึ้งไหลออกไปทั่วผางอย่างพอดี3.ถ้าเกิดว่าหล่อไปแล้วสีสายล้มให้นำเศษไม้เส้นเล็กๆมาค้ำไว้ได้ พอหล่อเสร็จแล้วรอให้ผางประทีปหายร้อนก่อน โดยสังเกตจากสีของขี้ผึ้ง ถ้าให้ดีควรทิ้งไว้อย่างน้อย5นาที ทริค : 1.ถ้าเวลาเทขี้ผึ้งลงผางแล้วมันล้นหรือเลอะขอบปากของผางประทีปให้รอจนแห้งและทำการนำมีดมาขูดหรือตัดแต่งออกได้2.หลังจากหล่อเสร็จอย่าพึ่งนำผางประทีปไปบรรจุใส่ถุงทันที ควรผึ่งในที่โล่งก่อยอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพราะว่าถ้านำไปใส่ถุงทันทีจะทำให้เกิดไอนำและตัวขี้ผึ้งที่หล่อไปแล้วจะหลุดออกมาจากผางได้ การขายผางประทีป1.ราคาของผางประทีปแบบเปล่าจะอยู่ที่ 1000 อัน 300 บาท (ราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่)2.ราคาของสีสายแบบทำมือนั้นจะตกอยู่ที่ 1000 อัน 220 บาท (ราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่)3.ราคาขี้ผึ้งหรือเทียนพรรษา จะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 20-40 บาท ปัจจุบันหายากมากเพราะวัดส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้เทียนพรรษาแล้ว4.สำหรับคนที่ต้องการแบบหล่อเสร็จแล้วจะตกอยู่ที่ชิ้นละ 1 บาท แต่ถ้าซื้อเยอะก็จะลดไปตามจำนวน สำหรับใครที่จะซื้อไปขายต่อก็จะได้กำไรถุงละ5 บาท ในหนึ่งถุงจะมี 50 ชิ้น บางคนก็จะแบ่งเป็นถุงเล็ก 20 ชิ้น ขาย 30 บาทก็มี แล้วแต่จะนำไปขาย ความคุ้มค่าก็ขึ้นอยู่กับ การใช้งานของแต่ละคน สำหรับคนที่ทำขายก็จะมีผลดีและคุ้มค่ากว่าเป็นอย่างมาก หากใครที่สนใจก็ลองศึกษาและลงมือทำดู ทั้งสนุกและสร้างสมาธิด้วย เครดิต ภาพปกประกอบ โดย เจ้าของบทความ JJKK89/Canvaเครดิต ภาพทั้งหมด โดย เจ้าของบทความ JJKK89/Canva "บ้านน้ำต้น" แหล่งเรียนรู้ทางหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !