สีจิ้นผิง พบเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ลงนามข้อตกลงหลายสิบฉบับ

สีจิ้นผิง เดินทางเยือนเวียดนามเป็นประเทศแรกในภารกิจเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ จีนพยายามที่จะเสนอให้จีนเป็นทางเลือกที่มั่นคงให้กับมิตรประเทศ เมื่อเทียบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่เอาแน่นอนไม่ได้ ซึ่งประกาศมาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ในเดือนนี้ แล้วก็ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีออกไป 90 วัน สร้างความปั่นป่วนให้กับการค้าระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก

ประธานาธิบดีจีนได้เดินทางถึงกรุงฮานอย เมื่อวานนี้ช่วงบ่าย และได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติด้วยการยิงปืนใหญ่สลุต 21 นัด, กองทหารเกียรติยศและเด็ก ๆ ที่โบกธงรอต้อนรับที่ทำเนียบประธานาธิบดี ก่อนที่จะหารือกับผู้นำระดับสูงของเวียดนาม รวมถึงเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โต เลิม

สองประเทศเพื่อนบ้าน ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือประมาณ 40 ฉบับ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่ก่อนการเยือน มีการคาดการณ์ว่าทั้งสองประเทศจะมีการบรรลุข้อตกลงในหลายภาคส่วน รวมถึงการค้าและการบินพลเรือน

การเยือนเวียดนามของสี มีขึ้นเกือบสองสัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ ตลาดส่งออกใหญ่สุดของเวียดนามในช่วงสามเดือนของปีนี้ ได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนาม ร้อยละ 46 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการภาษีที่ส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาษีตอบโต้ต่อเวียดนามและประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะถูกระงับไปแล้ว แต่จีนยังคงต้องเผชิญกับการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจำนวนมหาศาล และกำลังแสวงหาวิธีกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าในภูมิภาค และชดเชยผลกระทบระหว่างการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของสีในปีนี้

สีเยือนเวียดนามสองวัน คือวันจันทร์และอังคาร จากนั้นก็จะเยือนมาเลเซียและกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือน "ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง" ต่อภูมิภาคในวงกว้าง 

สี ซึ่งกล่าวระหว่างประชุมกับโต เลิมเมื่อวานนี้ ระบุว่า เวียดนามและจีน "กำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ ... และควรจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน" 

ก่อนหน้านี้ สีเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศ "ปกป้องระบบการค้าพหุภาคี, ห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมโลกที่มั่นคง และสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เปิดกว้างและร่วมมือกัน" นอกจากนี้เขายังย้ำถึงท่าทีของจีนที่ว่า “สงครามการค้าและสงครามภาษีจะไม่มีผู้ชนะ และลัทธิการคุ้มครองการค้า ไม่ควรจะเกิดขึ้นที่ไหน” ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์ในหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลเวียดนาม

ส่วนโต เลิม ระบุในบทความที่โพสต์บนเว็บไซต์ข่าวของรัฐบาลเมื่อวานว่า ประเทศของเขา "พร้อมเสมอที่จะร่วมมือกับจีนเพื่อทำให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศเป็นรูปธรรม, ลึกซึ้ง, สมดุล และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น"