ภาพจาก Tsvetoslav Hristov/Unsplash ภาพจาก Daniel sessler/unsplash ดินแดนสุดขอบโลกที่มีเพียงไม่กี่คนที่จะดั้นด้นไปถึง ภายใต้ฝ่าเท้าของเราเต็มไปด้วยโพรงถ้ำที่มีความยาวไม่รู้กี่กิโลเมตรต่อกิโลเมตร ถ้ำนกนางแอ่นในเม็กซิโกมีความลึกเกือบ 400 เมตร มันมีความลึกพอจะใส่ตึกเอ็มไพร์สเตตลงไปได้ทั้งตึกเป็นถ้ำที่มีปากป่องที่ลึกที่สุดในโลก ถ้ำยังคงเป็นอีกอย่างที่มนุษย์เรายังไม่สามารถสำรวจมันได้หมด หรือจะพูดอีกอย่างคือเราเพิ่งจะเขาไปสำรวจพื้นที่แห่งนี้ได้เพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ถ้าหากเปรียบเทียบกับพื้นที่ทั้งหมดแต่ทั้งนั้นมันยังคงมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่สามารถเดินทางมาถึงที่เหล่านี้ได้ก่อนมนุษย์เรา สถานที่เหล่านี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดและมีคนรู้จักน้อยมาก สัตว์แต่ละชนิดในถ้ำต้องหาวิธีรับมือกับความมืด แต่ในนิวซีแลนด์มีสัตว์บางชนิดที่หาประโยชน์จากความมืด เส้นใยไหมนับร้อยนับพันเส้นห้อยระโยงระยางเกิดเป็นความสวยงาม แต่มันเต็มไปด้วยความอันตราย นั้นคือหนอนเรื่องแสง มันสร้างใยไหมเหล่านี้เป็นที่ดักแมลงชนิดอื่นโดยมันจะใช้แสงที่ก้นของมันเป็นสิ่งล่อเหยื่อเข้ามาติดกับดักที่มันสร้างไว้ เมื่อแมลงเหล่านั้นติดกับดักโอกาสที่จะรอดแทบไม่มีเลย เมื่อได้เหยื่อมันจะเริ่มกัดกินเหยื่อทั้งเป็น ภาพจาก Tomáš Malík/unsplashหินที่ทำให้ให้เกิดโลกใต้ดินคือหินปูน โพรงถ้ำทั่วโลกล้วนพบอยู่ในภูเขาหินปูนซึ้งครอบคลุมพื้นที่ร้อยละสิบของผิวโลก หินปูนประกอบด้วยแร่ธาตุที่ได้จากกระดองสัตว์น้ำและปะการัง แม้มันจะสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากแค่ไหนแต่ที่จริงแล้วมันก่อตัวขึ้นจากใต้ทะเลในบอร์เนียวสายฝนได้ซัดเขาหินปูนให้สึกกร่อนจนกลายเป็นหอคอยอันแหลมคม แต่ฝนยังคงสามารถสร้างผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจได้มากกว่านี้ในโลกใต้ดิน สายน้ำที่ไหลผ่านเขหินปูนเหมือนมันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อกระแสน้ำปะทะกับหินปูนกระแสน้ำนั้นจะเบนไปอีกทางยิ่งกระแสน้ำไหลลงใต้ดินเท่าไหร่ยิ่งทำให้พลังการกัดเซาะนั้นมีกำลังยิ่งขึ้น ระหว่างที่ไหลไปบนผิวดินสายน้ำจะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในดินทำให้น้ำมีความเป็นกรดอ่อนๆแลตลอดหลายล้านปีกรดนี้ก็กัดหินปูนทำให้เกิดโพรงถ้ำที่สลับซับซ้อนออกไปยาวหลาย กิโลเมตรถ้ำเดียร์เคฟ มีอุโมงค์ลำธารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมันใหญ่พอที่เครื่องบินจำโบสามารถบินผ่านได้ ขนาดใหญ่ของมันทำให้ค้างคาวปากย่นมาอาศัยรวมตัวกันอยู่ที่นี่กว่า 3 ล้านตัว มันอาศัยเกาะอยู่บนเพดานถ้ำซึ่งจะเป็นกำบังให้มันอย่างดีในขณะที่มันอาศัยอยู่ที่นี่มูลค้างคาวที่ตกลงมากลายเป็นเนินดินที่สูงกว่าร้อยเมตร และบนพื้นผิวนั้นเป็นที่อาศัยของแมลงสาบนับแสนตัวพวกมันมารวมกันที่นี่เพื่อกินมูลค้างคาวและทุกสิ่งที่ตกลงมา และแมลงสาบเหล่านี้ยังคงเป็นอาหารของตะขาบยักที่อาจมีความยาวถึง 20 เซนติเมตร และสถานที่เหล่านี้ยังคงมีปูอาศัยอยู่อีกด้วยมันเองก็ต้องอาศัยกินสารอาหารจากมูลค้างคาวเช่นเดียวกัน ภาพจาก Tracy Hairston/pinterestตกเย็นทุกวันตลอดสองชั่วโมงค้างคาวทุกตัวจะบินออกไปล่าแมลงที่ภายนอกถ้ำแต่ใช่ว่าทุกตัวที่ออกไปมันจะได้กลับมาทุกตัว เพราะพวกมันเองก็เป็นอาหารอันโอชะของเหล่าเหยี่ยวที่เป็นเจ้าแห่งน่านฟ้าเช่นกัน ภาพจาก Serrah Galos/Unsplashสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในโพรงถ้ำนี้ที่ออกจากถ้าและกลับเข้ามาของทุกวันไม่ได้มีแต่ค้างคาวยังมีพวกที่หากินแต่กลางวันด้วย หลังจากความมืดมาเยือนพวกมันจะอาศัยเสียงสะท้อนเพื่อนำทางกลับเข้าถ้ำและกลับมายังลังของมันอย่างถูกต้อง นั้นคือนกนางแอ่นถ้ำ นกเหล่านี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างนั้นคือรังของมันที่ถูกสร้างมาจากน้ำลายของมันที่ใช้เวลาสร้างกว่า 30 วัน รังนั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก กว่า 500 ปีที่มนุษย์คอยตามเก็บรังนกนางแอ่นเหล่านี้ รังนกเหล่านี้สีขาวสะอาดและเป็นส่วนผสมสำคัญของสรุปรังนกและมีราคาสูง ทันทีที่รังของพวกมันถูกเอาออกไปนกจะสร้างรังใหม่ทันทีถ้ำในบอร์เนียวจัดอยู่ในกลุ่มถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกและถ้ำเหล่านี้ยังคงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเพราะทุกปีน้ำฝนยังคงกัดเซาะหินปูนออกไปเรื่อยๆ และน้ำยังคงสร้างหินงอกหินย้อยอันสวยงามตามเพดานและพื้นถ้ำอีกด้วย สิ่งเหล่านี้เกิดจากน้ำที่เต็มไปด้วยหินปูนละลายและเมื่อกระทบกับอากาศทำให้หินปูนบางส่วนตกผลึกเป็นแร่แคลไซต์ ผลึกแคลไซต์เหล่านี้จะเกาะตัวเพิ่มพูนขึ้นกลายเป็นแท่งหินปูนที่งอกจากเพดานถ้ำเรียกว่าหินย้อย แต่ถ้าน้ำไหลผ่านเพดานถ้ำหยดลงมาอย่างรวดเร็วทำให้ผลึกแคลไซต์มารวมกันที่พื้นถ้ำทำให้เกิดหินงอก ภาพจาก Timo Volz/Unsplashถ้ำซึ่งจมอยู่ใต้น้ำในเม็กซิโกซึ่งไม่มีการเปลี่ยนสภาพมานานหลายพันปีแล้วนับตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย ครั้งนี้ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแต่มันยังคงส่งอิทธิพลมหาศาลกับสิ่งมีชีวิตเบื้องบน เมื่อ 500 ปีก่อนถ้ำเหล่านี้เคยเป็นแหล่งค้ำจุนอารยธรรมมายา คาบสมุทรยูคาทาในเม็กซิโกไม่มีแม่น้ำหรือทะเลสาบแม้แต่ลำธารใดๆ ดังนั้นชาวมายาต้องพึ่งพาซีโนเต้ซึ่งเป็นบ่อน้ำปากทางเข้าสู่ถ้ำที่มีน้ำท่วมขัง ซึ่งเป็นแหลงน้ำจืดขนาดยักเพียงที่เดียวของภูมิภาคนี้ และที่ซึ่งห่างไกลแสงแดดเช่นนี้ไม่มีใครคิดว่าจะมีพันธ์พืช แต่มันยังคงมีรากของไม้ใหญ่เขตร้อนที่ชอนชัยผ่านรอยแยกของหินปูนลงมาจนถึงโพรงถ้ำที่น้ำท้วม เพราะน้ำจากที่นี้ทำให้ป่าของยูคาทานเต็มไปด้วยความสมบูรณ์ ชาวมายารู้ว่าพวกเข้ามีความจำเป็นที่จะใช้แหล่งน้ำนี้เพื่อดำรงชีวิต ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเครือข่ายอุโมงค์เหล่านี้แยกออกหลายสาย เท่าที่ผ่านมามีการแสดงแผนที่ถ้ำใต้น้ำในยูคาทานเป็นระยะทาง 350 ไมล์แล้วแต่นั้นยังไม่ใช่ความยาวที่สุดเพราะมันยังสามารถยาวไปมากกว่านั้นแต่ทางนักสำรวจยังไม่สามารถสำรวจไปได้ไกลกว่านั้น ในการสำรวจถ้ำอาจจะต้องมุดรอดช่องหินที่แคบมาก ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างมากในการสำรวจอีกทั้งยังเรื่องของเส้นทางด้วยที่ต้องจดจำและอย่าหลงทางเด็ดขาด แถมใต้น้ำเหล่านี้ยังคงแบ่งชั้นน้ำเป็นน้ำจืดและน้ำเค็มทำให้เกิดภาพลวงตาเป็นชั้นน้ำอีกด้วย ภาพจาก Shino/Unsplashโขดหินที่โผล่ขึ้นมาบนเกาะในนิวซีแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของถ้ำใต้ทะเลเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำหลายชนิดเช่นกันกับที่บอร์เนียว หลังจากหากินในท้องทะเลมาหลายวันปลาสลิดหินฝูงใหญ่ก็กลับเข้าถ้ำซึ่งพวกมันใช้เป็นที่หลบภัย ถ้ำแห่งนี้ยังคงมีปลาชนิดอื่นอีกด้วยถ้ำหลายแห่งถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวจากโลกภายนอก ความโดดเดี่ยวนี้ก่อให้เกิดการวิวัฒนาการของสัตว์บางชนิด ปาถ้ำ และในประเทศไทยเป็นที่ที่มีปลาถ้ำที่เชี่ยวชาญการอยู่ใต้น้ำตกในถ้ำมากที่สุดในโลก จำนวนพวกมันมีจำกัดเพราะพบในสองแห่งในโลก พวกมันอาศัยกินแบคทีเรียในน้ำซึ่งไหลเชี่ยว มันใช้ตะขอที่ครีบยึดเกาะตามโขดหิน เช่นเดียวกันกับ ซาลาเเมนเดอร์ถ้ำเท็กซัสซึ่งไม่น่าจะเหลืออยู่เกินหนึ่งร้อยตัวในธรรมชาติ การอยู่ในความมืดมิดทำให้พวกมันไม่มีสีและดวงตาก็หายไปด้วย แต่ซาลาแมนเดอร์ตาบอดจะใช้ประสาทจากผิวหนังรับแรงสะเทือนที่เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตอื่น เหงือกของมันทำให้มันหายใจในน้ำที่มีออกซิเจนต่ำได้ด้วย พวกอาจอดอาหารได้หลายเดือน ปูขาเบลิส ก็เป็นสัตว์อีกชนิดที่พบได้ในถ้ำแห่งเดียว พวกมันกินอะไรก็ได้ที่ไหลมาตามน้ำจากภายนอกถ้ำ น่าพิศวงที่สัตว์แปลกประหลาดเหล่านี้รอดชีวิตมาได้ แต่มีอีกถ้ำที่มีสภาพที่ไม่คิดว่าจะเจอสิ่งมีชีวิต น้ำที่ไหลออกมาจากถ้ำวีรารุสในเม็กซิโกเป็นสีขาวขุ่นด้วยกรดกำมะถัน นักสำรวจที่เข้าไปสำรวจที่นี้ยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและเครื่องตรวจวัดก๊าซพิษแม้แต่ค้างคาวเองยังคงต้องอาศัยอยู่เพียงปากถ้ำ แหล่งกำเนิดควันพิษนี้เกิดจากซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันในชั้นเปลือกโลกลึกลงไป เมื่อผสมกับออกซิเจนในน้ำก็จะกลายเป็นกรดกำมะถัน สภาวะเช่นนี้ยังคงพบสิ่งมีชีวิตหลายชนิดและเชื่อว่ามีอีกหลายชนิดที่ยังไม่ถูกค้นพบ ภาพจาก Adam Bixby/Unsplashและยังคงพบหินย้อยรูปร่างแปลกประหลาดที่ถูกเรียกว่า สนอตไท เพราะมันมีรูปร่างคล้ายน้ำมูกที่ย้อย หยดน้ำที่หยดออกมาคือกรดกำมะถันเข้มข้น ที่จริงสนอตไท คือนิคมของแบคทีเรียซึ่งสามารถเติบโตได้วันละ 1 เซนติเมตร ในโลกที่ไร้แสงแดดแบคทีเรียเหล่านี้จะดูดซับพลังงานจากก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ แบคทีเรียเหล่านี้เรียกว่าเอสรีโมฟีล เพราะมันอยู่รอดในสภาวะที่สุดขั้วเช่นนี้ได้ แบคทีเรียเหล่านี้ยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญของห่วงโซ่อาหารที่คอยเกื้อหนุนสัตว์อื่นระบบนิเวศในถ้ำวีรารุสเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากแต่นักสำรวจยังคงพบสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือภายใต้โขดหินในอเมริกาที่ไม่มีน้ำ มันทำให้ถูกคิดไปว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่สามารถพบถ้ำใดๆได้ แต่นักสำรวจกับพบโพรงถ้ำที่ยาวที่สุดลึกที่สุดและน่าตื่นตลึงแห่งหนึ่งในโลก สถานที่แห่งนี้ถูกพบเมื่อปี 1986 เมื่อนักสำรวจถ้ำได้ขุดผ่านหินล้วนๆลงมาหลายสิบเมตร ถ้ำเลซูกีญ่า นับตั้งแต่ค้นพบนักสำรวจได้ทำแผนที่เส้นทางโพรงถ้ำแห่งนี้เป็นระยะทางกว่า 120 ไมล์ นอกจากยาวจะยาวมันยังคงถูกยกย่องให้เป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดในโลก ผนังถ้ำที่ปกคลุมไปด้วยคริสตัล คริสตัลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นยิปซั่มเป็นแร่ที่ได้จากหินปูนที่มีมหาศาลในที่นี้ น้ำเป็นส่วนสำคัญที่สร้างสรรค์ถ้ำส่วนมาก แต่ที่นี่แตกต่างออกไปเพราะหินในถ้ำไม่ได้ถูกกัดเซาะด้วยน้ำแต่ถูกกัดเซาะด้วยอย่างอื่นต่างหาก แหล่งน้ำแห่งเดียวในเลซูกีญ่าคือน้ำที่ใสมากผลึกคริสตัลจากยิปซัมในถ้ำนี้ที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตั้งคำถามว่าถ้ำนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และพวกเขาค้นพบว่าหินปูนเหล่านี้ถูกกัดกร่อนด้วยกรดกำมะถันทำให้เกิดโพรงลึกหลายไมล์ และถ้าหากกรดกำมะถันละลายหินปูนสิ่งที่เหลืออยู่คือยิปซั่มซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สวยงามของถ้ำแห่งนี้ ที่ผนังถ้ำยังคบแบคทีเรียที่หากินบันผนังหิน การค้นพบสิ่งมีชีวิตที่ไม่ต้องอาศัยพลังงานจากดวงอาทิตย์นั้นทำให้เราเห็นว่าโลกใต้ดินยังคงลึกลับเกินกว่าเราจะคาดถึง ในแต่ละปีนักสำรวจพบถ้ำใหม่ๆและทำแผนที่เป็นระยะทางกว่าร้อยไมค์แต่ยังคงมีหินปูนอีกกว่าครึ่งโลกที่รอคอยให้เราไปพบสิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าเลซูกีญ่า ภาพ Daniel Seßler/Unsplashขอบคุณข้อมูลจากสารคดีเรื่อง Planet Earth : The Cavesอัปเดตสาระดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !