ท่ามกลางสถานการณ์ที่รุมเร้าชีวิตพวกเราหลายๆอย่างในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความไม่สงบในบ้านเมือง รวมถึงปัญหาโรคระบาดอย่าง Covid-19 ซึ่งหลาย ๆ อย่างเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราเป็นอย่างมาก หลายคนอาจมีความผิดหวัง หรือเศร้าใจ กับปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นจากภายนอก ความวิตกกังวล เกี่ยวกับความมั่นคงในชีวิต ปัญหาสุขภาพ หรือความสำเร็จที่ตั้งเป้าไว้แต่ยังทำไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ รวมถึงประสบการณ์ที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นในชีวิตช่วงวัยต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อจิตใจ ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาใน “การมองเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self Esteem)” บทความนี้จึงขอเป็นกำลังใจ และพร้อมทางออกจากปัญหานี้แก่ผู้อ่านทุกท่าน โดยมีกฎ 5 ข้อ ที่สามารถเปลี่ยนชีวิต เป็นแนวทางมาฝากกันครับ ก่อนจะพูดถึงกฏ 5 ข้อ เราคงต้องทำความเข้าใจกับคำว่า “การมองเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self Esteem)” คืออะไร ซึ่งอาจมีรูปแบบ และระดับที่แตกต่างกัน มีปัจจัยใดบ้างที่่มีผลในการให้คุณค่าในตัวเอง“การมองเห็นคุณค่าในตัวเอง” self-esteem หมายถึง การประเมิณคุณค่าในด้านต่างๆของตนเอง การนับถือตัวเอง และการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งอาจจะมีการประเมิณคุณค่า ในทางบวกหรือลบ ตามความรู้สึกของตนเอง หรือตามประสบการณ์ในชีวิตที่มีผลต่อสภาวะจิตใจ และแบ่งได้ 3 ระดับ คือระดับสูงเกินความเป็นจริง Inflated self-esteem หรือเรียกอีกอย่างว่าหลงตัวเอง คนกลุ่มนี้จะคิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่นแทบทุกเรื่อง ไม่เคยลังเลเลยว่ามีข้อผิดพลาดใดอย่างไรกับตัวเอง กล้าแสดงออก ไม่พร้อมยอมรับคำวิจารณ์ใดๆเลย และมักจะกล่าวโทษคนอื่นอยู่เสมอ ไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองได้ ไม่สามารถมีความสุขกับชีวิตได้จริงๆ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ รู้สึกอยู่เสมอว่าจะต้อง ดีกว่าและเด่นกว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายของความสำเร็จเท่านั้น จึงจะทำให้รู้สึกดีกับตัวเอง ซึ่งกลุ่มนี้จัดว่าเป็นกลุ่มที่มีปัญหา ในการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ระดับสูง High self-esteem คนกลุ่มนี้จะยอมรับ และให้คุณค่ากับตนเองในเชิงบวก กล้าเผชิญกับปัญหาต่างๆ มีความมั่นใจเชื่อมั่นในตนเอง แต่ก็ไม่ได้แสดงออกในเชิงเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น ไม่พยายามวางตัวเหนือหรือด้อยกว่าผู้อื่น และไม่ได้มีความต้องการที่จะพิสูจน์ตนเองกับใคร มีความสุขกับการที่เป็นตัวของตัวเอง แยกแยะผิดชอบ โดยไม่ดูถูกผู้อื่น มองโลกในแง่ดี และ รักษาความภาคภูมิใจของตัวเองได้ตลอดเวลาระดับต่ำ Low self-esteem คนกลุ่มนี้จะมีความนับถือตัวเองต่ำ และไม่เห็นคุณค่าในตัวเองกลัวความล้มเหลว ขาดความมั่นใจ ไม่ค่อยมีความสุข อ่อนไหวทางอารมณ์ต่ออิทธิพลรอบตัวต่างๆ รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไร้ประโยชน์ หรือแม้แต่กระทั่งรู้สึกไร้ความสามารถ ไม่ได้เป็นที่รัก และขาดความภูมิใจในตนเอง กลัวการเผชิญกับปัญหา หรือแม้แต่การกลัวความสำเร็จ รู้สึกผิดมากเวลาที่ตามใจตัวเองในการทำสิ่งที่ชื่นชอบ และขาดความกระตือรือร้นในการใช้ชีวิต บางครั้งอาจปกป้องตัวเองโดยการพูดถึงผู้อื่นในทางไม่ดี หรือทำให้ผู้อื่นดูไม่ดี เพียงเพื่อจะชดเชยความรู้สึกของตัวเองในแง่ลบ จึงลดคุณค่าในการมองคนอื่นๆ แทนที่จะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง ซึ่งกลุ่มนี้จัดว่าเป็นกลุ่มที่มีปัญหา ในการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง และอาจนำพาไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุดปัจจัยที่มีผลต่อการประเมิณคุณค่าในตนเองสภาพแวดล้อมในวัยเด็ก เช่นในวัยเด็กคุณเคยได้รับความยกย่องจากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวหรือไม่ หรืออาจถูกวิจารณ์อยู่เสมอ ๆ ขาดประสบกาณ์ด้านการสนับสนุน จากโค๊ช หรือครูอาจารย์หรือไม่ เด็กที่เติบโตมาจากครอบครัวที่ขาดความอบอุ่นและความขาดความเข้าใจ จะมีแนวโน้มในการประเมิณคุณค่าและความนับถือในตนเอง มากกว่าเด็กที่เติบโตท่ามกลางความเอาใจใส่ดูแลจากพ่อแม่ หรือจากผู้เลี้ยงดูลักษณะทางกายภาพ เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก รูปร่าง และผิวพรรณ ภาพลักษณ์ต่างๆที่มองเห็นได้ และสุขภาพ ล้วนมีผลต่อความมั่นใจ หรือ ประเมิณคุณค่าในตัวเอง ทางกายภาพ เพื่อนและสภาพแวดล้อมทางสังคม เช่นการมีเพื่อนที่เป็นกำลังใจ หรือ คอยกลั่นแกล้ง สภาพแวดล้อมทางสังคมในวัยทำงาน และความภูมิใจด้านรายได้จากการทำงานที่ส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตในสังคม และปัจจัยในการดำเนินชีวิตความสำเร็จในด้านต่างๆ เช่น การได้บรรลุเป้าหมายทางการศึกษา ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในด้านบทบาทและสถานภาพที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงการบรรลุเป้าหมายต่างๆที่ผ่านมาในชีวิต อิทธิพลจากสื่อต่างๆโซเชียล เช่น การบริโภคสื่อต่างๆ ที่มีผลต่อค่านิยม และจิตใจ การมีคนดัง หรือบุคคลสาธรณะ ในการเป็นต้นแบบ ความต้องการมีชื่อเสียงและการยอมรับและการมีตัวตนในสังคมออนไลน์ กฎ 5 ข้อ สำหรับการ “ มองเห็นคุณค่าในตัวเอง “ เปลี่ยนชีวิต1.ขีดเส้นบางๆให้กับชีวิตปัจจุบันและอดีตเราควรขีดเส้นชีวิตให้ปัจจุบันกับอดีต แล้วเริ่มมองและยอมรับตัวเองในแบบที่เป็นจริงๆ ว่าเราเก่งหรือไม่เก่งด้านใด เราชอบอะไรเราถนัดอะไร เราควรมีชีวิตและมุมมองที่เป็นอิสระ จากการถูกวิจารณ์ในแง่มุมต่างที่เกิดขึ้นในอดีต เราเท่านั้นที่รู้ความจริง การขังตัวเองกับความทรงจำในอดีต ไม่สามารถส่งเราไปถึงความเข้าใจในการมองเห็นคุณค่าที่มีต่อตนเองในปัจจุบันได้2.ไม่เปรียบเทียบความสำเร็จของตนเองกับผู้อื่นการเปรียบเทียบบางครั้งอาจนำพาไปสู่การพัฒนาตนเองนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่ทุกความสำเร็จล้วนมีปัจจัยต่างๆ ในบางครั้งอาจมีบางสิ่งที่ไม่เอื้ออำนวยให้เราได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจในวันนี้ อย่าพึ่งท้อแท้ และกดดันตัวเองเมื่อเห็นความสำเร็จของผู้อื่น เราไม่จำเป็นต้องสำเร็จพร้อมกับคนอื่นก็ได้ ทำทุกอย่างให้เต็มที่แล้วมีความสุขกับการมีชีวิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน3. หยุดพยายามเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง การที่คนเรามีเรื่องผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครสมบูรณ์ แบบในโลกแห่งความจริง มนุษย์ทุกคนมีเรื่องที่ถนัดและไม่ถนัดในเรื่องที่ต่างกัน จัดการกับข้อผิดพลาด และ ความล้มเหลวในทางบวก มีน้ำใจต่อตนเองและผู้อื่น ถ้าหากล้มเหลวในเรื่องใดเรื่องนึงลองเปิดใจแล้วเรียนรู้จากความล้มเหลวนั้นเพื่อยอมรับและไปต่อ โดยไม่ดูถูกความสำเร็จของเราหรือคนอื่น ไม่ว่าความสำเร็จนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม และควรทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยการมีจริยธรรมที่ดีในการแก้ปัญหา4. มองโลกในแง่ดีลองทำสิ่งใหม่ๆดูบ้าง การลองทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย เราอาจได้บรรลุเป้าหมายใหม่ๆที่ไม่เคยคาดว่าได้รับ การทำสิ่งใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคยอาจทำให้เราได้เรียนรู้ และได้ลองใช้ความพยายาม เรามักจะพบอุปสรรคหรือปัญหากับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย เมื่อเราผ่านไปได้อุปสรรคนี่เองที่เป็นตัวช่วยให้เราได้พัฒนาและเป็นคนที่มีทักษะใหม่ๆเพิ่มขึ้น อย่าคาดหวังความสำเร็จเร็วเกินไป หรือกลัวการผิดพลาดจนไม่คิดจะเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ ควรให้โอกาสตัวเองและผู้อื่นด้วยเช่นกัน5. เลิกหลอกตัวเองและเสแสร้งก่อนอื่นการที่จะนับถือตัวเองได้นั้น ต้องมาจากพื้นฐานภายในจิตใจที่สงบ ไม่ปรุงแต่งจากสิ่งที่เราเป็น เชื่อความรู้สึกตามความเป็นจริงที่ดีหรือไม่ดีต่อสิ่งรอบตัว เราไม่ควรแสดงหรือแสร้งทำเป็นว่ารู้สึกดี เมื่อเรารู้สึกไม่ดี แต่ก็ไม่จำเป็นต้องต่อต้านหรือตอบโต้ใดๆ ให้คิดไว้เสมอว่าแล้วทุกอย่างจะผ่านไปเอง หรือหากเรารู้สึกดีหรือมีความภูมิใจในตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องแสร้งถ่อมตนในสถานการณ์ที่มีคนชื่นชม ดีใจและน้อมรับด้วยความสุภาพ ไม่จำเป็นต้องโอ้อวด หรือแสร้งทำเป็นไม่มีความรู้สึก ควรแสดงจุดยืนของเราโดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ เคารพความแตกต่างระหว่างเรากับผู้อื่นด้วยเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใคร นับถือและมองเห็นคุณค่าในแบบที่ตัวเองเป็นจริงๆ ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นพร้อมที่จะเป็นคนที่ดีกว่าเดิม กับการปฎิบัติตาม กฎ 5 ข้อ ที่ได้กล่าวมานี้ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขในการใช้ชีวิตมันไม่ได้ยากเลยภาพประกอบภาพปก ภาพจาก : .freepik.comรูปภาพประกอบ 1 / Pixabayรูปภาพประกอบ 2 / รูปภาพประกอบ 3 / รูปภาพประกอบ 4 / รูปภาพประกอบ 5 / รูปภาพประกอบ 6 / รูปภาพประกอบ 7 ภาพจาก : .freepik.com